“มาร์ค” รอฟังผลทดสอบ GT200 วันนี้ ลั่นสรุปอย่างไรก็ทำตามนั้น ยอชาวอุดรฯ น่ารัก อยากลงไปพบบ้าง พร้อมรับความเห็นต่างได้แต่อย่ายั่วยุ โวเพิ่มงบฯ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 23,000 ล้านบาท วอนอบต.ช่วยตามผลงานดูไทยเข้มแข็งไปถึงไหนแล้ว "กรณ์" เปลี่ยนใช้รถกันกระสุน
วันนี้(16 ก.พ.) เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัดอุดรธานี จำนวน 45 คนเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ กล่าวต้อนรับว่า เรื่องของการปรับลดงบประมาณท้องถิ่นก็เหมือนกับองค์กรหน่วยงานอื่นๆ แต่ได้มีการออกพันธบัตรรัฐบาลทำให้มีเงินสนับสนุนท้องถิ่นเพิ่มเติมจำนวน 23,000 ล้านบาท เข้าใจว่างบฯตัวนี้ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยกำลังจัดส่งไปยังท้องถิ่น ก่อนหน้านี้ก็มีความเข้าใจไม่ตรงกันเหมือนกัน 23,000 ล้านต้องจัดทำรายละเอียดโครงการต่างๆ หรือไม่ ขณะนี้ถือว่าเป็นเงินทั่วไป เข้าใจว่ามีเงื่อนไขกันไม่ให้ไปใช้จ่ายบางตัวเท่านั้น เช่น การใช้ไปดูงานต่างประเทศ กับเรื่องของการเช่าหรือซื้อรถยนต์ทำนองนี้ แต่ว่าที่เหลือสามารถนำไปใช้ในภารกิจด้านอื่นได้ ในส่วนของแหล่งน้ำเป็นนโยบายสำคัญ โครงการไทยเข้มแข็งก็มีการลงทุนในเรื่องน้ำในสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเฉพาะภาคอีสานพื้นที่ที่จะได้ประโยชน์ก็ถือเป็นล้านไร่ อีกประมาณ 2 สัปดาห์จะชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แต่ว่าเมื่อกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ อาจจะมีบางพื้นที่ที่รู้สึกว่า มีศักยภาพของการทำเรื่องแหล่งน้ำ กระจายน้ำ ซึ่งอยากให้มีการสำรวจตรวจสอบในพื้นที่ว่า โครงการตามงบประมาณปกติ โครงการที่อยู่ในไทยเข็มแข็ง และที่ท้องถิ่นดำเนินการอยู่แล้วมีอะไรบ้าง และขณะนี้การจัดทำแผนเรื่องน้ำก็มีการจัดทำทั้งฝ่ายสภา และฝ่ายบริหารก็ทำ ซึ่งละเอียดลงไปถึงเรื่องน้ำอยู่แล้ว ถ้าเรามองลงไปขาดไปก็ขอให้รวบรวมเสนอมา ตนจะได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า แผนงานของเขาที่เหลืออยู่ มันเป็นแผนงานที่จะเสนอทันปีนี้ ถ้ามีความจำเป็นในการปรับจัดลำดับความสำคัญ สามารถเสนอมาเพื่อดูในการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม ต้องเรียนว่าในเรื่องของงบจำเป็นเร่งด่วนมันก็มีเกณฑ์ของมันในการใช้ว่า ปีนี้จัดไว้ถ้าเทียบกับปีที่แล้วยังน้อยกว่ากันเป็นหมื่นล้าน เพราะฉะนั้นการใช้จ่ายงบประมาณต้องระมัดระวังไว้ หากมีภัยภิบัติ ภัยแล้ง เป็นต้น ขณะนี้แนวโน้มที่ต้องใช่จำนวนพอสมควรคือเรื่องเพลี้ย ซึ่งต้องมีการตัดวงจร เรื่องข้าว มันสำปะหลัง ขอให้ช่วยไปดูหรืออย่างน้อยไปรวบรวมรายชื่อโครงการก็ได้ จะได้สามารถกำหนดแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ก็ขอให้ความมั่นใจเรื่องปี 54 ต้องมาทบทวนเกณฑ์จัดสรรงบท้องถิ่นด้วย เริ่มมีการถถกเถียงกันอยู่ กำลังเร่งรัดโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกำลังเร่งรัดเพื่อปรับระบบการจัดสรรงบประมาณท้องถิ่น เชื่อว่าปีนี้จะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติลดปัญหาไปได้ระดับหนึ่ง รัฐบาลยืนยันในการสนับสนุนโดยเฉพาะการรวมตัวเป็นชมรม ภาคประชาชน เป็นเรื่องที่รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ก็ขอขอบคุณอีกครั้ง
“ส่วนการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี ผมเคยเดินทางไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 51 ไปหาเสียงบรรยากาศดีมาก จริงๆ แล้วเป็นเรื่องของธรรมชาติผมก็เข้าใจ เดินทางไปก็เป็นเรื่องปกติพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่นิสัยใจคอชอบ ไม่ชอบกัน ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ใครมาที่บ้านเขาก็ต้อนรับ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ในสภาวะที่มีการเคลื่อนไหวเป้าหมายเฉพาะผมก็ไม่มีปัญหา หาความพอดี แต่ขณะเดียวกัน การไปทำอะไรที่ถูกมองไปท้าทายไปยั่วยุเกิดปัญหาขึ้น ส่วนตัวผมแล้วไม่มีปัญหาอะไร ก็จะรอดูถ้ามีโอกาสคงจะได้ไป” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่หัวหน้าอบต. ได้กล่าวว่า มีหลายคนมองว่า จังหวัดอุดรธานีเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง ซึ่งตนคุยกันนายกฯแล้ว ก็เชื่อว่า ไม่ได้เป็นแบบนั้น เชื่อว่าคนอุดรฯกว่าครึ่งไม่ได้เป็นแบบนั้น
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะนำผลการทดสอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 มารายงานกับตนในวันนี้ โดยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะได้มีข้อสรุป และผลออกมาเป็นอย่างไรจะดำเนินการไปตามนั้น
ขณะที่วาระการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้(16 ก.พ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เสนอให้พิจารณาแผนหลักป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ พ.ศ.2553-2557 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะรายงานผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 ด้านกระทรวงสาธารณสุข เสนอให้พิจารณาอนุมัติงบประมาณ กว่า 550 ล้านบาท เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ 10 จังหวัด 172 โรงพยาบาล ที่รอพิสูจน์สถานะบุคคล
ทั้งนี้ ยังมีเรื่องที่ต้องติดตาม โดยสืบเนื่องจากการประชุมหน่วยงานความมั่นคงวานนี้ ที่ประชุมเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง ซึ่งมี นายสุเทพเป็นประธาน เพื่อดูแลสถานการณ์ในช่วงเวลานี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 07.00 น. ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางมาถึงได้มีเจ้าหน้าที่ทหารนำสุนัขมาดมกลิ่นหาวัตถุต้องสงสัยโดยรอบตึกไทยคู่ฟ้า ขณะที่การรักษาความปลอดภัยรอบนอกทำเนียบรัฐบาล พบว่าบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยราชมงคล วิทยาเขตพาณิชย์พระนคร ซึ่งเพิ่งถูกยิงด้วยระเบิดM79 ได้มีการตั้งเต็นท์ของสารวัตรทหาร(สห.) ซึ่งมีสห.ประจำ 5 นายด้วยกัน และจากการสังเกตรถประจำตำแหน่งของบรรดารัฐมนตรีที่มาร่วมประชุมครม.ในวันนี้ พบว่าส่วนใหญ่ยังใช้รถประจำตำแหน่งของตัวเอง แต่มีเพียง 4 คน เท่านั้นที่ใช้รถเร้นจ์โรเวอร์ขับเคลื่อนสี่ล้อกันกระสุนที่เคยนำไปใช้ให้ ผู้นำประเทศอาเซียนนั่งในการประชุมอาเซียนซัมมิทครั้งที่ผ่านมา คือ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และเป็นที่น่าสังเกตอีกว่าเดิมทีคนที่ใช้รถกันกระสุนมีเพียงนายกฯ นายสุเทพ และนายกษิตเท่านั้น แต่ปรากฏว่าในวันนี้นายกรณ์ ได้เปลี่ยนจากรถตู้โฟล์คสวาเก้นมาเป็นรถกันกระสุนแล้ว
