“เด็จพี่” ตีกินตามกระแส!! สะแหลนแนะกองทัพใช้ผ้ายันต์แทนเสื้อเกราะ วอน “บิ๊กป๊อก” เลิกใช้ GT200 จี้ “มาร์ค” ระงับเด็ดขาด จ่อยื่น ป.ป.ช.สอบ พร้อมกรณีจัดซื้อเรือเหาะ อังคารนี้ “วัชระ” วอนทุกฝ่ายยอมรับผลสอบ ก.วิทย์ หวั่นเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ทำทหารขัดแย้งรัฐ หนุนนายกฯ ถามบริษัทต้นทางที่อังกฤษ จี้กองทัพอย่าบิดเบือน
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงผลการตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องจีที 200 ว่าที่ระบุว่าไม่มีประสิทธิภาพในการค้นหาสารประกอบวัตถุระเบิดได้ว่า ผลดังกล่าวตรงกับผลการตรวจสอบของทางการอังกฤษที่เป็นแหล่งผลิตเครื่องดังกล่าว แต่เรื่องนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ยังแถลงข่าวด้วยความเชื่อและยืนยันว่าจะใช้เครื่องจีที 200 ต่อไป ซึ่งการแถลงข่าวเหมือนยึดหลักไสยศาสตร์ ไม่ยึดแนววิทยาศาสตร์ที่มีการพิสูจน์แล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงจะนำผ้ายันต์มาใช้แทนเสื้อเกราะหรือใช้คาถาแทนอาวุธ จึงขอเรียกร้องให้ ผบ.ทบ.อย่าใช้เครื่องจีที 200 อีกเลย ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตนายทหาร ตำรวจชั้นผู้น้อย รวมทั้งประชาชน เพราะตอนนี้ไม่มีใครให้ความเชื่อถือเครื่องมือดังกล่าว ขณะเดียวกันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะต้องออกคำสั่งไปยังหน่วยงานทุกแห่งให้เลิกใช้เครื่องจีที 200 นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้มีการเอาผิดบริษัทที่จัดจำหน่ายให้กองทัพ และเครื่องมือจำนวนมากที่จัดซื้อในปี 2552 ด้วย อย่างไรก็ตาม อยากถามว่ารัฐบาลจะสามารถเรียกเงินคืนได้เท่าไหร่ และขอเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเอาผิดผู้จัดซื้อและผู้อนุมัติ ด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า ตนจะไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบและดำเนินคดีต่อผู้ที่คาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตจัดซื้อเครื่องจีที 200 ในวันที่ 23 ก.พ. และจะไปยื่นให้ตรวจสอบกรณีจัดซื้อเรือเหาะที่มีราคาแพงเกินจริงและน่าจะไร้ประสิทธิภาพด้วย ทั้งนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่า การพิจารณางบประมาณการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และงบลับของกองทัพนั้น คณะกรรมาธิการฯชุดต่างๆ ต้องมีบทบาทมากขึ้น ต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบ
ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงว่า ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยอมรับผลการทดสอบของเครื่องตรวจสอบมวลสารจีที 200ของ คณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงวิทยาศาสตร์ที่รัฐบาลได้ตั้งขึ้นมา และโดยหากยังมีความค้างคาใจขอให้มีการเร่งทำความเข้าใจ โดยหากมีความจำเป็นต้องทำการทดสอบซ้ำขอให้เร่งดำเนินการ นอกจากนี้ขอให้นายกรัฐมนตรีและผู้นำกองทัพโดยเฉพาะผู้บัญชาการทหาร (ผบ.ทบ.) เร่งทำความเข้าใจต่อกันเพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน ทั้งนี้ พรรคฯ ไม่ต้องการเห็นการให้ข่าวที่ไม่สอดคล้องกัน และเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่กลายเป็นความขัดแย้ง ระหว่างกองทัพกับรัฐบาล
นายวัชระกล่าวต่อว่า เมื่อทุกฝ่ายอมรับผลที่ตรงกันแล้ว ก็ควรมีคำสั่งที่ชัดเจนว่าจะให้ใช้เครื่องจีที 200 ต่อไปหรือไม่ ในเมื่อนายกรัฐมนตรีมีความมั่นใจว่าเครื่องมือดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้จริง ควรมีคำสั่งที่เด็ดขาดชัดเจนไปยังหน่วยงานที่มีเครื่องจีที 200 ให้งดใช้โดยเด็ดขาด
“นายกฯ ไม่ควรเกรงใจนายพลคนใด แต่ควรให้ความสนใจกับนายสิบ พลทหาร และประชาชนในพื้นที่ เพราะจีที200 ไม่มีประสิทธิภาพจริง รัฐจึงต้องเร่งจัดหาอุปกรณ์อื่นเพื่อทดแทนให้กองทัพและหน่วยงานความมั่นคง สามารถกุมสภาพในพื้นที่ต่อไป และขั้นตอนต่อไปขอให้ผู้นำเหล่าทัพและ รมว.กลาโหมเร่งทำการตรวจสอบว่ากระบวน การจัดซื้อมีความผิดพลาดอย่างไร มีการทดสอบประสิทธิภาพหรือไม่ และพิสูจน์ว่ามีการจงใจเอื้อประโยชน์ให้เอกชนหรือไม่อย่างไร หากมีการปิดบังข้อมูลของเอกชนไม่ว่าจะเป็นเอกชนในประเทศหรือต่างประเทศขอให้ หาช่องทางทางกฎหมายเพื่อฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย” นายวัชระกล่าว
นายวัชระ กล่าวอีกว่า พรรคชาติไทยพัฒนาสนับสนุนท่าทีของนายกฯที่จะทำหนังสือสอบถามไปยังประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นต้นทางที่ผู้จำหน่ายอ้างว่าเป็นแหล่งผลิต เพื่อสอบถามข้อมูล ทั้งนี้หากเครื่องจีที 200 ใช้งานไม่ได้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องยอมรับความจริงและไม่ปกป้องผู้ใด และอย่าได้กังวลว่าเป็นค่าโง่อีกครั้งของคนไทย เชื่อว่าประชาชนยอมรับได้หากยืดอกยอมรับถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของนายกฯที่จะ แสดงวุฒิภาวะในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ส่วนหน่วยงานความมั่นคงและกองทัพอย่าปิดบังหรือบิดเบือนในการให้ข้อมูล เรื่องนี้