xs
xsm
sm
md
lg

"พิภพ" ย้อน 4 ปี "พันธมิตรฯ"-"สำราญ" อ่านเกมแดงคลั่ง เผา "ทักษิณ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แกนนำพันธมิตรฯ ร่วมย้อนรำลึกครบ 4 ปี การต่อสู้พันธมิตรฯ "พิภพ" แกนนำรุ่น 1 เปิดใจพี่น้องรบระบบทักษิณตั้งแต่วันแรก จนได้รับชัยชนะ ชี้ พลังประชาชนเหนียวแน่น ขจัดขวากหนามได้หมด ขณะที่ "สำราญ" แกนนำรุ่น 2 อ่านเกมเสื้อแดง ยิ่งคลั่งเผาบ้านเผาเมือง "นช.แม้ว" ยิ่งแพ้เร็ว คาด แผนป่วน เกิดได้ทั้งก่อนและหลังตัดสินคดียึดทรัพย์ แนะ รบ.หาแผนรับมือ เชื่อ ศึกซักฟอก อาวุธรบไม้ตายใช้ปราบ "อภิสิทธิ์" หลังแก๊งค์แดง แพ้ราบคาบ


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" 

รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น.วันศุกร์ที่ 12 ก.พ. โดย น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้มีการเชิญ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 1 และนายสำราญ รอดเพชร แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 มาร่วมย้อนรำลึกจุดกำเนิดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ระยะเวลาล่วงเลยมา 4 ปีแล้ว แต่พลังความเข้มแข็งไม่เสื่อมคลาย

นายพิภพ กล่าวถึงการรวมตัวของแกนนำพันธมิตรฯ ว่า ตอนนั้นได้รับการทาบทามให้เป็นแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อมาต่อสู้กับระบบทักษิณ ตนยังรู้สึกนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นการส่วนตัว แต่หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกัน จนคุ้นเคย จึงผนึกกำลังกันเพื่อต่อสู้ โดยย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น พันธมิตรฯ ไม่พอใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ลอยนวลจากคดีซุกหุ้น ภาคแรก ทำให้พบความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง ดังนั้น พันธมิตรฯ จึงเคลื่อนไหว เพื่อตีแผ่ให้เห็นว่ามีการแทรกแซงระบบตุลาการ และมีการใช้เงินเพื่อดิ้นหลุดพ้นคดี

"เวลานั้นช่วงที่ตัดสินจะเป็นแกนนำพันธมิตรฯ หรือไม่ มีคนมากระซิบตลอด เตือนตลอด บอกให้ถอนตัว แต่ผมบอกทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะกำลังเคลื่อนทัพแล้ว หากอะไรข้างหน้าจะเกิด ขอปล่อยให้มันเกิด แต่ทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไป และแล้วทุกอย่างก็เรียบร้อยดี ไม่มีอะไรสะดุดหรือติดขัด ทำให้หยุดชะงัก" นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ กล่าวถึงการต่อสู้ภาคประชาชนว่า การต่อสู้ของพันธมิตรฯ เป็นภาพที่สวยงาม ซึ่งการรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น สามารถกดดัน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อย่างหนัก เพราะการต่อสู้กับพลังของประชาชนทำได้ยาก และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ประชาชนไม่ยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจาก เห็นถึงพฤติกรรมว่าที่ผ่านมา สมัยที่มีอำนาจ ไม่เคยเคารพหรือยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้ใด ดีแต่เชื่อมั่นในตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้ประชาชนรวมตัวกันเป็นพลังที่เข้มแข็ง ดังนั้น ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจผิดตั้งแต่แรก ที่คิดจะตบตาประชาชน ทำสิ่งที่ผิดให้เป็นความถูกต้อง

"ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้พันธมิตรฯ เข้มแข็งขึ้น มาจากสื่อเครือผู้จัดการและเอเอสทีวี ที่ยืนเคียงข้าง ทำให้พันธมิตรฯ เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ โดยส่วนตัวแล้ว เห็นแล้วว่า การเป็นพันธมิตรฯ ทำประโยชน์ให้ส่วนรวม ดังนั้น พวกที่เคยดูถูกพลังพันธมิตรฯ บัดนี้คงเห็นแล้วว่าทรงอนุภาพมากเท่าใด ซึ่งพลังประชาชนจะเข้มแข็งหรือไม่ ทุกอย่างต้องอยู่ที่ประชาชน" นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ กล่าวถึงการต่อสู้ ซึ่งนำพาแนวคิด "สร้างการเมืองใหม่" ว่า ตอนนี้พันธมิตรฯ มีอาวุธชิ้นใหม่ ที่นำออกมาต่อสู้กับความถูกต้อง นอกจากนี้ การต่อสู้ทั้ง 193 วัน ทำให้พันธมิตรฯ และฝ่ายต่างๆ ตื่นตัวกับคำว่า การเมืองใหม่ เพราะไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ที่จะล้างการเมืองให้ขาวสะอาด ซึ่งพอเกิดแนวคิดนี้ขึ้น ก็ตามมาด้วยการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคครั้งนี้ ต้องยืนอยู่ท่ามกลางสายตาประชาชนและพี่น้องพันธมิตรฯ ที่จับจ้องอยู่ ดังนั้น เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ ว่าต้องทำหน้าที่ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ

ด้าน นายสำราญ กล่าวถึงเมื่อครั้งได้รับตำแหน่ง แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ว่า งานแรกก็รับบทหนัก สำหรับการเป็นแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 เพราะเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ที่รับช่วงวันที่ 7 ตุลาฯ พอดี โดยงานนี้ ต้องยกความดีความชอบให้พี่น้องพันธมิตรฯ ที่สู้ด้วยความสงบและอสิงหา แม้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงก็ไม่เคยย่อท้อ

นายพิภพ กล่าวการต่อสู้พันธมิตรฯว่า ตอนนั้นพันธมิตรฯ ต้องการขับไล่รัฐบาลนอมินี นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งต่อมาฝ่ายรัฐบาลได้ถูกกดดันมากๆ จึงสั่งใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม แต่แกนนำพันธมิตรฯ และพี่น้องพันธมิตรฯ เลือกแนวทางสงบ จึงตกเป็นผู้กระทำ เพราะเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เผาบ้านเผาเมืองตั้งแต่แรก ซึ่งตนขอเอ่ยถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบ้างว่า หากตัด พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปจากสมการการต่อสู้ จะมีความคิดไปทวงคืนที่ดินเขายายเที่ยงหรือไม่ ดังนั้น คนพวกนี้ไม่ได้ทำเพื่อประชาธิปไตย แต่ทำเพื่อคนๆเดียว โดยตนอยากบอกว่า หากจะใช้ความรุนแรง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม มันไม่มีวันสำเร็จ

นายสำราญ กล่าวเสริมว่า ตนมองเกมยุทธศาสตร์คนเสื้อแดงเวลานี้ คิดว่าต้องมีการวางแผนให้การเคลื่อนไหวไม่ตรงกับช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะถ้าหากยื่นซักฟอกเมื่อไหร่ ก็เท่ากับปิดประตูตาย ไม่ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา ดังนั้น แนวทางเคลื่อนไหวเวลานี้ ต้องรอดูท่าทีของการชุมนุมก่อน ว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ แล้วจึงค่อยเดินแผนจัดการกับรัฐบาลด้วยวิธีอื่น

นายสำราญ กล่าวต่อว่า ใช่ว่าวิธีใช้ความรุนแรงของกลุ่มคนเสื้อแดง จะนำชัยชนะมาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะช่วงเดือนเมษาฯ เลือด ก็เห็นชัดแล้วว่า ใครเป็นฝ่ายได้ ใครเป็นฝ่ายเสีย โดยถ้าหากให้วิเคราะห์ ตนคิดว่า เหตุร้ายหรือความวุ่นวายต่างๆ มีโอกาสเกิดได้ทั้งก่อนและหลังวันที่ 26 ก.พ. ดังนั้น รัฐบาลต้องเตรียมแผนตั้งรับให้ดี
น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์
นายพิภพ ธงไชย
นายสำราญ รอดเพชร
กำลังโหลดความคิดเห็น