xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ลั่นไม่แปลกวิพากษ์คดียึดทรัพย์ “แม้ว” เหตุบุคคลสาธารณะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
“โฆษกมาร์ค” มั่นใจศาลจะไม่ตัดสินคดียึดทรัพย์ “แม้ว” ตามกระแสสังคม ชี้คดีความนักการเมืองย่อมตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เพราะถือเป็นบุคคลสาธารณะ เชื่อสามเกลอ ได้รับความไว้วางใจถือธงนำเสื้อแดงป่วนเมือง เย้ย “พัลลภ-เสธ.แดง” เสียงอ๋อยเพราะเงินจุกปาก เหน็บ พท.กระอักเลือดหลังพรรคร่วมเกี๊ยเซียะเลื่อนแก้ไข รธน. แขวะญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ใช่เทศกาลทอดกฐิน



วันนี้ (12 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ บุตรของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา ได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อไม่ให้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพื่อไม่ให้ คตส. หรือบุคคลอื่นออกมาแสดงความกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งตนคิดว่าเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ในเรื่องนี้ตนคิดว่าเป็นคดีของนักการเมืองที่เป็นบุคคลสาธารณะ จึงไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมได้ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวเห็นว่า ตัวเองถูกบิดเบือนให้ได้รับความเสียหายก็สามารถใช้ช่องทางดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทได้ ไม่ควรที่จะไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อปิดปากการแสดงความเห็น อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าศาลควรจะไปสั่งให้บุคคลที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินของศาลน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะวันนี้มีหลายฝ่ายออกมาแสดงความเห็นในลักษณะชี้นำคำพิพากษาของศาลไว้ล่วงหน้า ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

นายเทพไทกล่าวว่า การที่ออกมาแสดงคามเห็นในเรื่องข้อเท็จจริง เกี่ยวกับประเด็นข้อกฎหมาย เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ถ้าตราบใดที่ยังไม่ไปล่วงเกินคำพิพากษาของศาล ตนคิดว่าศาลควรที่จะดำเนินการกับบุคคลที่เคลื่อนไหวกกดดันการทำงานของศาล เช่น กรณีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ที่ได้ออกสื่อของตัวเองในลักษณะปลุกระดม โดยระบุว่าแกนนำได้จดชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและทราบที่อยู่ของตุลาการทุกคน ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นการพยายามข่มขู่ กดดันการทำงานของตุลาการ รวมถึงการบิดเบือนใส่ร้าย เกี่ยวกับคดีนี้ว่ามีการให้สินบนร้อยละ 20 คนคิดว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความจริง เรื่องอย่างนี้ต่างหากที่ศาลควรจะมีคำสั่ง แต่การที่จะอออกมาอ้างว่าการแสดงความเห็นของ คตส.และบุคคลบางฝ่าย อาจจะเป็นการสร้างกระแสชี้นำคำตัดสินของศาลนั้น ตนเชื่อมั่นในดุลพินิจของศาล และเชื่อว่าศาลจะตัดสินคดีความใด ก็เป็นข้อเท็จจริงตามกฎหมาย มากกว่ากระแสสังคม และตนก็ไม่เชื่อว่าศาลจะยึดกระแสสั่งคม มาเป็นคำวินิจฉัย เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่น ว่าศาลสามารถให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายได้

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ท่ามกลางกระแสข่าวความขัดแย้งการจัดการชุมนุมใหญ่ว่าจะมีก่อนหรือหลังวันที่ 26 ก.พ.นั้นว่า ตนคิดว่าถ้าดูจากกำหนดการเคลื่อนไหวและท่าทีของคนเสื้อแดง โดยเฉพาะท่าทีของสามเกลอที่ส่งสัญญาณชัดเจนว่า จะมีการชุมนุมใหญ่ก่อนวันที่ 26 ก.พ.ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นไปตามเป้าประสงค์ของสามเกลอ เพราะกระบวนการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมทั้งหมด อยู่ภายใต้การนำของสามเกลอทั้งสิ้น เมื่อสามเกลอต้องการเคลื่อนไหวก็คงจะไม่มีใครขัดขวางได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณคงจะวางเฉย เพราะในทัศนะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนคิดว่าชุมนุมใหญ่ยิ่งเร็วก็จะเป็นประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นกลุ่มที่เห็นต่างจากสามเกลอก็คงสยบไปโดยปริยาย เพราะไม่สามารถที่จะมาอ้างเหตุผลใดๆ เพื่อโต้แย้งได้

“แม้แต่คนระดับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี และ เสธ.แดง ที่ถือว่าเก่งกล้า สามารถในหมู่คนเสื้อแดง ก็ยังยอมสยบ แต่จะสยบด้วยสิ่งใดนั้น ต้องตามไปดูว่าคนเหล่านี้ว่า ถูกเงินปิดปากหรือเงินจุกปาก หรือเพราอะไร แต่ในสังคมไทยผมคิดว่า เงินเป็นวัตถุชิ้นเดียวที่ปาหัวใครแล้วคนถูกปาก็จะไม่โกรธ เพราะฉะนั้นต้องกลับไปตรวจสอบดูว่า ทุกฝ่ายที่สยบให้กับสามเกลอและพ.ต.ท.ทักษิณ นั้นเป็นเพราะอำนาจเงินใช่หรือไม่” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทกล่าวว่า แต่ถ้าดูจากรายงานของ หน่วยข่าวที่รายงานเรื่องความเคลื่อนไหวของ นปช.ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 26 ก.พ.จะเห็นว่ามีการวางจังหวะก้าวอย่างชัดเจน เป็นการจุดกระแสในพื้นที่ต่างๆ แล้วหวังว่า ถ้าจุดกระแสการชุมนุมติดเมื่อใดคนเหล่านี้ก็จะถือโอกาสเปิดการชุมนุมใหญ่ในทันที

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ปรากฏการณ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ที่สามารถผลักดันการเปลี่ยนแปลงวาระการประชุมเป็นผลสำเร็จ ก็คงทำให้ฝ่ายค้านได้เห็นว่า ความสามัคคี ในพรรคร่วมรัฐบาลยังแน่นแฟ้น จึงทำให้ฝ่ายค้านคิดหนักในการที่จะยื่นญัตติ อภิปรายไม่ไว้วางใจ และท่ามกลางความขัดแย้งของแกนนำพรรคเพื่อไทยทั้งสองขั้ว คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ไม่มีความพร้อมในการที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็อยากเรียกร้องว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่เทศกาลกฐิน ที่เมื่อถึงเวลาแล้วต้องทอดกฐิน ถ้าหากว่าไม่มีความพร้อมหรือข้อเท็จจริงเพียงพอ ก็ไม่ควรที่จะดื้อรั้นอภิปรายไปตามประเพณี เพราะฉะนั้น อยากฝ่ายค้านไปเตรียมข้อมูลและหาความเป็นเอกภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหาตัวนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ให้ได้เสียก่อน

นายเทพไทกล่าวว่า ตนสนับสนุนให้บุคคลตามมาตรา 158 มาจากบุคคลในพรรคเพื่อไทยมากกว่าที่จะไปหยิบฉวยเอาบุคคลภายนอก ตามที่มีกระแสข่าว เพราะอย่างน้อยวันที่มีการโหวตเลือกตั้งนายกฯ ก็เห็นได้ชัดว่าพรคเพื่อไทยสิ้นคนที่เหมาะสมจะเป็นนายกฯ โดยจะไปยก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก จากพรรคการเมืองอื่นมาเป็นนายกฯ ตนคิดว่าถ้าหากว่าทำอย่างนั้นอีก ก็คงจะทำลายความรู้สึกของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ดังนั้นจึงอยากสนับสนุนให้คนเพื่อไทยเปิดโอกาสเป็นผู้นำในสภาผู้แทนราษฎร และเป็นผู้นำตามรัฐธรรมนูญมาตรา158 ทั้งนี้เชื่อว่าคนในพรรคเพื่อไทย คงไม่สิ้นไร้ไม่ตรอก ที่จะหาคนมาเป็นนายกฯอุปโลกได้
กำลังโหลดความคิดเห็น