xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก” ยี้! ระเบิดพลีชีพ คำรามจะไม่รอให้เสื้อแดงเผาเมืองอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุเทพ เทือกสุบรรณ
รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ไม่ปักใจเชื่อเสื้อแดงขู่ใช้ระเบิดพลีชีพเผาบ้านเผาเมือง แต่ยืนยันจะไม่ประมาท ชี้ตั้งจุดตรวจทั่วกรุงถือเป็นมาตรการเฝ้าระวัง สั่งผู้ว่าฯ เข้มใช้กองกำลังผสม 38 ดูแลพื้นที่แดง ลั่นกำลังพลพร้อม กร้าวชิงลงมือก่อนตกเป็นตั้งรับ เจียดงบรัฐจ่ายเบี้ยเลี้ยงทหาร-ตร.

วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งกองกำลังไป 38 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งหวั่นเกรงกันว่าจะทำให้ประชาชนเกิดความตกใจว่า จะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ข่าวที่ออกไปจะเกินความเป็นจริงไปหน่อย เพราะความจริงตนในฐานะที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง ได้สั่งการไปยังจังหวัดต่างๆ ให้ติดตาม ตรวจสอบ ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากมีกรณีที่การข่าวเห็นว่า จะเกิดอันตรายกับสถานที่ราชการที่สร้างด้วยภาษีของประชาชน ก็ให้ผู้ว่าฯ มีอำนาจที่จะสั่งใช้กำลังทั้งตำรวจ ทหาร และพลเรือน เพื่อเฝ้าดูแล ระวัง รักษาสถานที่ราชการ และดูแลรักษาความเรียบร้อยในจังหวัด และให้รายงานให้ตนทราบได้ตลอดเวลา ซึ่งผู้ว่าฯ ทั้ง 38 จังหวัด จะมีอำนาจเด็ดขาดในการสั่งการเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ในฐานะที่เป็น ผอ.กอ.รมน.จังหวัด

เมื่อถามว่าได้มีการประสานกับทางกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ เพราะนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย บอกว่าไม่ทราบเรื่องนี้เลย นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นไร ก็ยังต้องพูดคุยและปรึกษารายละเอียดกันอีกมาก ก็ต้องทำไปเรื่อยๆ

“ที่เราต้องดำเนินการอย่างนี้ ก็เพราะกลุ่มเสื้อแดง หรือแกนนำหลายคนออกมาพูดจาปลุกระดมในพื้นที่ต่างๆ แล้วประกาศว่าเมื่อถึงวันเวลานั้น เวลานี้ ก็จะไปยึดศาลากลางจังหวัด ให้เอาน้ำมันไปด้วย มีการเผยแพร่ทำระเบิดเพลิงในเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ฝ่ายความมั่นคงกังวลใจว่า ฝ่ายบริวารของคุณทักษิณ กำลังคิดที่จะใช้วิธีต่อสู้นอกรูปแบบ ไม่ใช่การต่อสู้ตามระบอบวิถีทางประชาธิปไตย แต่จะใช้ความรุนแรง ใช้กำลัง สร้างสถานการณ์ให้เกิดการจลาจล เพื่อให้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับกลุ่มคนเหล่านี้ แล้วจะได้เอาไปเป็นข้ออ้างในการขยายผล ทำสิ่งที่เขาเรียกว่าสงครามประชาชน แต่ขอประชาชนอย่ากังวลใจ เพราะผมเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เขาต่อต้าน เขาไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าใครจะทำก็ตาม และยืนยันว่าได้กำชับเจ้าหน้าที่ไม่ให้ใช้ความรุนแรงเด็ดขาด ต้องเข้มแข็ง ต้องเป็นหลักให้ประชาชนให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดเหตุร้ายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาในสมัยรัฐบาลก่อน รัฐบาลนี้จะพยายามไม่ให้เกิดเหตุอย่างนั้น” รองนายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า 38 จังหวัดที่ส่งกองกำลังไปมีความเข้มงวดแค่ไหน รองนายกฯ กล่าวว่า ความจริงไม่ใช่การส่งกองกำลังไปจาก กทม. แต่เป็นการผสมกำลังกันขึ้นในจังหวัด โดยมีตำรวจของแต่ละจังหวัดเป็นกำลังหลัก นอกนั้นก็อยู่ที่ดุลพินิจของผู้ว่าฯ ที่จะใช้กำลังฝ่ายใดมาเสริม ถ้าจังหวัดนั้นมีหน่วยทหารอยู่ก็ขอกำลังเสริมได้ หากกำลังหลักที่มีอยู่ไม่เพียงพอ เมื่อถามว่าใน กทม.มีการตั้งจุดไว้ถึง 200 จุด จะทำให้เห็นว่าสถานการณ์ส่อเค้าความรุนแรงหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เราจำเป็นต้องเข้มงวด เพราะเราเคยเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วในช่วงเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา ซึ่งหลักการของตนก็คือจะต้องดำเนินการเพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

“ต่อไปนี้ถ้าผมเห็นว่ามันจะเกิดเหตุ ผมจะไม่รอให้คนมา เราจะเอากำลังของเราออกมาก่อน เราจะรักษาพื้นที่ รักษาบ้านเมืองของเราก่อน” นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามว่าจะมีการดูแลเข้มงวดเป็นพิเศษในพี้นที่ ที่จะเป็นเส้นทางสายที่จะมีการเดินทางมาจากภาคอีสาน ภาคเหนือ เป็นพิเศษหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ก็ดูทั่วไป ตรงไหนที่จะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายคน และที่ต้องตั้งด่านหรือจุดตรวจก็เพราะเกรงว่าจะมีคนนำเอาอาวุธเข้ามา

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกฯ ออกมาพูดเป็นระยะๆ ว่าจะมีเหตุอย่างโน้นอย่างนี้ จะเป็นการสร้างความตื่นกลัวให้ประชาชนหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คนพูดตอนนี้มีเยอะ ตนก็พยายามจะขอให้พูดกันให้อยู่ในแนวทางเดียวกัน บางคนก็พูดตามพื้นที่ความรู้ ความเข้าใจที่แตกต่างกันบ้าง แต่จุดประสงค์จริงๆ ของรัฐบาลคือต้องการสื่อสาร รายงานข้อเท็จจริงให้ประชาชนทุกระยะ และไม่ประสงค์ให้เกิดความวิตกกังวล แต่ประชาชนในฐานะเจ้าของประเทศต้องทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นอย่างไร เท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้เกิดความตระหนกอะไร เมื่อถามว่าแล้วประชาชนจะฟังใคร รองนายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนก็พยายามพูดและสื่อสารกับประชาชนผ่านทางสื่อต่างๆ อยู่แล้ว ถ้ามีอะไรก็จะพยายามสื่อไปถึงประชาชนให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าในทางการข่าวมีความรุนแรงถึงขนาดจะมีการใช้ระเบิดพลีชีพหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า “ผมยังไม่เคยได้ยินเรื่องระเบิดพลีชีพ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็แล้วแต่ เราก็ไม่ประมาท เพราะมันก็มีอะไรที่บางทีก็แปลกๆ เหมือนกับที่ก่อนหน้านี้มี คนออกมาบอกว่าถูกนายกฯข่มขืน ซึ่งข่าวอย่างนี้เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย ผมก็เลยต้องระมัดระวังทั้งนั้น” นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามว่างบประมาณที่จะใช้ครั้งนี้จะนำมาจากส่วนไหน นายสุเทพกล่าวว่า ก็ของบประมาณจากรัฐบาล โดยจำนวนเท่าใดนั้นจะดูตามสถานการณ์ ซึ่งเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร วันหนึ่งก็ 120 บาท ซึ่งยืนยันว่างบประมาณดังกล่าวนี้ไม่รั่วไหล เพียงแต่อาจจะเบิกได้ช้า 4-5 เดือน แต่ครั้งนี้ตนได้แจ้งให้ทางฝ่ายที่ดูแลการเงิน ทางกรมบัญชีกลางสำนักงบประมาณได้อนุมัติให้ใช้เงินทดรองไปก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น