ชาวบ้านจากคลองด่าน นำโดยนายเฉลา ทิมทอง ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกฯ ขอให้ดำเนินการเอาผิดต่อรัฐมนตรีพร้อมกับพวกที่ทุจริตในคดีคลองด่าน และยังมีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองอยู่ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ก่อนที่จะใกล้หมดอายุความของคดี
วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายเฉลา ทิมทอง แกนนำชาวบ้านตำบลคลองด่าน พร้อมด้วยชาวบ้านคลองด่านกว่า 50 คน เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือกรณีการทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน เขตควบคุมมวลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ ต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในกรณีขอให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พ.ย.52 ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ดำเนินการจ้างบริษัทที่ปรึกษาสำรวจเพื่อประเมินสภาพเชิงวิศวกรรมด้านความเสียหาย และมูลค่าของความเสียหายของสิ่งก่อสร้างภายใต้โครงการออกแบบรวมก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย รวมทั้งในท้องที่คอลงด่าน เพื่อนำผลการดำเนินการดังกล่าวไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา ซึ่งเห็นว่ามติดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นมติที่เอื้อประโยชน์ให้ผู้รับเหมา ซึ่งเป็นเครือญาติของรัฐมนตรีรวมรัฐบาล มิต้องติดคุกและถูกฟ้องล้มละลาย เป็นมติทำลายแวดล้อมทำลายวิถีชีวิตชุมชน เศรษฐกิจชุมชนและของชาติ โดยมีนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง 3 คนคือ นายยิ่งพันธ์ มนะสิการ อดีตรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย ซึ่งได้มีคำพิพากษาของศาลให้จำคุก 10 ปี และได้หลบหนีไปยังเพื่อนบ้านแล้ว และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรมช.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผู้อนุมัติโครงการ โดยมี ร.อ.ทวิช ศุภวรรณ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับเรื่องร้องทุกข์สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน
ต่อจากนั้นนายเฉลา ทิมทอง ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ ป.ป.ช.นำสำนวนการทุจริตในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านส่งอัยการฟ้องก่อนขาดอายุความ ซึ่งเป็นคดีที่เริ่มจาก ปี 2538 มีอายุความ 15 ปี และคดีดังกล่าวจะหมดอายุความในเดือนมิถุนายน 2553 นี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ผลาญงบประมาณกว่า 23,000 ล้านบาท