“หมอตุลย์” ย้ำพรุ่งนี้ 10.30 น.เตรียมเดินทางไปพบประธานวุฒิฯ เพื่อแสดงตนยื่นถอดถอน 102 ส.ส.กระเหี้ยนกระหือรือแก้รัฐธรรมนูญสนองตัณหานักการเมืองชั่ว ชี้เข้าข่ายผิด ม.122 ห้าม ส.ส.หรือ ส.ว.ทำหน้าที่ขัดประโยชน์ส่วนรวม ยันไม่หยุดแค่นี้ เดินหน้าร้อง ป.ป.ช.เอาผิดต่อ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เคาะข่าวริมโขง"
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ มี น.ส.กมลพร วรกุล รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้มีวิทยากรรับเชิญ นายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ นายประยูร อัครบวร ที่ปรึกษาพรรคการเมืองใหม่ และนายปฏินันท์ สันติเมษณีดล ผู้สื่อข่าวอาวุโส มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณี ยื่นรายชื่อถอดถอน ส.ส.102 คน ที่เข้าชื่อเพื่อยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญต่อประธานวุฒิสภา
ในรายการได้มีการต่อสายโทรศัพท์สัมภาษณ์สด นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ เครือข่ายปัญญาสยาม ถึงกรณียื่นรายชื่อดังกล่าว ว่า ในวันพรุ่งนี้ (4 ก.พ.) เวลา 10.30 น. ตนและกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนหนึ่งจะเดินทางไปแสดงตนเป็นผู้ถอดถอน ส.ส. 102 คน ที่ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ตนเห็นว่า ส.ส.ทั้ง 102 คน อาจเข้าข่ายผิดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 ที่ห้าม ส.ส.และ ส.ว.ทำหน้าที่ขัดแห่งผลประโยชน์ส่วนรวม
นพ.ตุลย์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่แสดงตนต่อประธานวุฒิสภาแล้ว จะมีการตรวจสอบความถูกต้อง และขั้นตอนต่อไปคือต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงเรื่องการล่าชื่อ ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน จากนั้น เมื่อล่ารายชื่อครบ 20,000 รายชื่อ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาถอดถอน
นพ.ตุลย์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่มีการออกมายื่นถอดถอน ส.ส.จำนวนดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวมและไม่ได้ทำเพื่อประชาชน โดยนอกจากจะยื่นถอดถอนผ่านวุฒิสภาแล้ว ยังเตรียมจะยื่นต่อ ป.ป.ช. ด้วย ในสัปดาห์ถัดไป
นายประพันธ์กล่าวประเด็นนี้ว่า การที่ ส.ส.จำนวน 102 คน ออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายใด ซึ่งหนีไม่พ้นการแก้กฏหมายเพื่อช่วยเหลือตัวเองให้พ้นผิด อีกทั้ง ยังต้องการแก้กฏหมายเพื่อช่วยเหลือใครคนหนึ่ง
นายประยูรกล่าวประเด็นเดียวกันว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 ให้สิทธิ์ประชาชนเต็มที่ในการแสดงความคิดเห็น โดยวันนี้ชัดเจนแล้วว่า นักการเมืองและผู้แทนในสภา เสมือนไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม แต่เป็นการทำเพื่อเรื่องส่วนตัว ดังนั้น มันจึงทำให้การเมืองไทย ต้องตกอยู่ในวังวนเดิม ทั้งที่การตรวจสอบนักการเมืองเข้มข้นขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังมีนักการเมืองบางกลุ่ม พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อคลายกฏระเบียบต่างๆ
นายปฏินันท์กล่าวว่า ตนสงสัยในตัว นายบรรหาร ศิลปอาชา ว่ารู้ตัวหรือไม่ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ เพราะดูเหมือนการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ มีเงื่อนงำที่น่าสงสัยว่าจะเกี่ยวพันด้วยกับผลประโยชน์ของคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีความตั้งใจมาตลอดว่า จะล้มรัฐธรรมนูญปี 2550 ให้ได้ นอกจากนี้ ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังพยายามจะใช้ร่างฉบับของหมอเหวง ฉะนั้น เวลานี้ สิ่งที่นายบรรหารทำ มันแปลได้ชัดเจนว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เคาะข่าวริมโขง"
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ มี น.ส.กมลพร วรกุล รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้มีวิทยากรรับเชิญ นายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ นายประยูร อัครบวร ที่ปรึกษาพรรคการเมืองใหม่ และนายปฏินันท์ สันติเมษณีดล ผู้สื่อข่าวอาวุโส มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณี ยื่นรายชื่อถอดถอน ส.ส.102 คน ที่เข้าชื่อเพื่อยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญต่อประธานวุฒิสภา
ในรายการได้มีการต่อสายโทรศัพท์สัมภาษณ์สด นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ เครือข่ายปัญญาสยาม ถึงกรณียื่นรายชื่อดังกล่าว ว่า ในวันพรุ่งนี้ (4 ก.พ.) เวลา 10.30 น. ตนและกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนหนึ่งจะเดินทางไปแสดงตนเป็นผู้ถอดถอน ส.ส. 102 คน ที่ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ตนเห็นว่า ส.ส.ทั้ง 102 คน อาจเข้าข่ายผิดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 ที่ห้าม ส.ส.และ ส.ว.ทำหน้าที่ขัดแห่งผลประโยชน์ส่วนรวม
นพ.ตุลย์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่แสดงตนต่อประธานวุฒิสภาแล้ว จะมีการตรวจสอบความถูกต้อง และขั้นตอนต่อไปคือต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงเรื่องการล่าชื่อ ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน จากนั้น เมื่อล่ารายชื่อครบ 20,000 รายชื่อ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาถอดถอน
นพ.ตุลย์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่มีการออกมายื่นถอดถอน ส.ส.จำนวนดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวมและไม่ได้ทำเพื่อประชาชน โดยนอกจากจะยื่นถอดถอนผ่านวุฒิสภาแล้ว ยังเตรียมจะยื่นต่อ ป.ป.ช. ด้วย ในสัปดาห์ถัดไป
นายประพันธ์กล่าวประเด็นนี้ว่า การที่ ส.ส.จำนวน 102 คน ออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายใด ซึ่งหนีไม่พ้นการแก้กฏหมายเพื่อช่วยเหลือตัวเองให้พ้นผิด อีกทั้ง ยังต้องการแก้กฏหมายเพื่อช่วยเหลือใครคนหนึ่ง
นายประยูรกล่าวประเด็นเดียวกันว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 ให้สิทธิ์ประชาชนเต็มที่ในการแสดงความคิดเห็น โดยวันนี้ชัดเจนแล้วว่า นักการเมืองและผู้แทนในสภา เสมือนไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม แต่เป็นการทำเพื่อเรื่องส่วนตัว ดังนั้น มันจึงทำให้การเมืองไทย ต้องตกอยู่ในวังวนเดิม ทั้งที่การตรวจสอบนักการเมืองเข้มข้นขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังมีนักการเมืองบางกลุ่ม พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อคลายกฏระเบียบต่างๆ
นายปฏินันท์กล่าวว่า ตนสงสัยในตัว นายบรรหาร ศิลปอาชา ว่ารู้ตัวหรือไม่ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ เพราะดูเหมือนการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ มีเงื่อนงำที่น่าสงสัยว่าจะเกี่ยวพันด้วยกับผลประโยชน์ของคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีความตั้งใจมาตลอดว่า จะล้มรัฐธรรมนูญปี 2550 ให้ได้ นอกจากนี้ ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังพยายามจะใช้ร่างฉบับของหมอเหวง ฉะนั้น เวลานี้ สิ่งที่นายบรรหารทำ มันแปลได้ชัดเจนว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ