เครือข่ายผู้บริโภคร้องศาลฯ เลิกสัญญาอัปยศโทลล์เวย์

เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค จับมือนักฎหมายสิทธิมนุยษชน ร้องศาลปกครองมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราว กรณีบริษัททางด่วนโทลล์เวย์ขึ้นค่าทางด่วน ส่งผลให้รัฐและปชช. เสียผลประโยชน์ พร้อมร้องขอให้เพิกถอนสัญญาอัปยศ และมติ ครม.บันทึกข้อตกลงปี 50 จำนวน 3 ฉบับ

วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ศาลปกครอง น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ร่วมกับสถาบันพัฒนา นักกฎหมายสิทธิมนุษยชน นักศึกษา และประชาชนผู้เสียหายจากการขึ้นค่าผ่านทางโทลล์เวย์ ร้องต่อศาลปกครองกลาง ฟ้องอธิบดีกรมทางหลวง ปลัดกระทรวงคมนาคม รมว.คมนาคม และคณะรัฐมนตรี โดยขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาสัมปทาน บันทึกข้อตกลงที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และมติครม.ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะข้อ 5 ที่ให้อำนาจเอกชนเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการใช้อำนาจแทนรัฐ ขึ้นราคาค่าบริการสาธารณะ ตามบันทึกข้อตกลงฉบับที่ 3/2550 ที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของมหาชน แต่กลับเอื้อประโยชน์เอกชน โดยการให้เอกชนนั้นกำหนดอัตราค่าบริการได้โดยไม่ต้องบอกรัฐ

อย่างไรก็ตาม ในการร้องครั้งนี้ก็ขอให้ศาลมีคำสั่งการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว เพื่อให้จ่ายค่าบริการโทลล์เวย์ในอัตราเดิม จนกว่าศาลจะมีคำสั่งจนถึงที่สุด เพราะขณะนี้ผู้ฟ้องและประชาชนได้รับความเดือดร้อนเพราะทางเลือกที่มีอยู่เป็นทางเลือกที่ไม่สะดวก

น.ส.สารี กล่าวอีกว่า จากการศึกษาสัญญาสัมปทานและการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญา ทั้งหมด 3 ฉบับ องค์กรผู้บริโภค และนักวิชาการด้านกฎหมายพบว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ทำให้มีการตัดอำนาจของรัฐในการดูแลประชาชนด้านบริการสาธารณะ โดยเฉพาะอำนาจในการกำหนดอัตราค่าผ่านทางที่เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประชาชนในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีการขยายเวลาอายุสัมปทานออกไปอีก 20 ปี จากเดิม 25 ปี เป็น 45 ปี

“ในสัญญาสัมปทานพวกเราพบว่ามีความฉ้อฉล เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ไม่รักษาผลประโยชน์สาธารณะ ขัดต่อสิทธิและแนวนโยบายแห่งรัฐตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ขัดหลักกฎหมายมหาชน และทำให้เกิดความเสียหายและรัฐและประชาชน การคืนผลกำไรตอบแทนกลับสู่รัฐอยู่ในราคาที่ต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ทรัพย์สินของรัฐตลอดระยะเวลาสัมปทาน 25 ปี ที่รัฐได้เงินเพียงวันละ 22 บาท หรือ 8,000 บาทต่อปี ขณะที่บริษัทมีรายได้เฉลี่ย 4.4 ล้านบาทต่อวัน ดังนั้น ผู้ฟ้องต้องการให้ศาลเพิกถอนสัญญาสัมปทานโดยเฉพาะมติ ครม.เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2550 รวมถึงบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานทางหลวง ฉบับที่ 3/2550” น.ส.สารี กล่าวและว่า การร้องครั้งนี้อย่างน้อยก็หวังผลให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติ ครม.ในยุคของ คมช.ที่ทำให้เราเสียประโยชน์มาก