“โฆษกมาร์ค” ยัดเยียดแผนเสื้อแดง ก่อความรุนแรง “นช.แม้ว” จะปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ เชื่อรู้เช่นเห็นชาติ เหน็บนิยมความรุนแรงตามยุทธศาสตร์ “ยิปซีทักษิณ” อัดที่ปรึกษา “กม.แม้ว” อย่าหลับหูหลับตาเชลียร์นายใหญ่ ย้อนถามจะนำคดียึดทรัพย์ไปฟ้องศาลโลกดาวอังคารหรืออย่างไร
วันนี้ (2 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ซึ่งได้ใช้มาตรการความรุนแรงตามที่ประกาศไว้ โดยขณะนี้ได้มีการดำเนินการตามที่ได้ประการไว้จริง ซึ่งมีการปาสิ่งของใส่บ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ตนคิดว่าเป็นมาตรการเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ซึ่งความรุนแรงทั้งหมดตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะผู้บงการหรือเจ้าของงบตัวจริงคงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
ส่วนการที่ให้ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายได้ออกมาชี้แจงโดยอ้างคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงและไม่เห็นด้วยกับการข่มขู่ศาล และบอกคนรอบข้างแล้วว่าให้สู้อย่างสันติวิธี และอหิงสา รวมทั้งออกมาระบุว่าไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผีปล่อยข่าวนั้น นายเทพไทกล่าวว่า เป็นเพียงคำแก้ตัวของทีมงานที่ปรึกษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในลักษณะแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ดังนั้นจึงขอถามว่า หากไม่ทราบว่าเรื่องนี้มาจากใคร ตนขอเสนอว่าให้ไปดูเวทีปราศศรัยของคนเสื้อแดง ที่มีนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช. นายอดิศร เพียงเกษ และพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่ประกาศใช้ความรุนแรงมาโดยตลอด โดยเฉพาะการประกาศว่าจะใช้ขวดเปล่าบรรจุน้ำมันและใช้ผ้าขี้ริ้ว ซึ่งอุปกรณ์ที่จะใช้ความรุนแรงดำเนินการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่มีการประกาศเรื่องนี้บนเวทีม็อบคนเสื้อแดง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ทุกครั้ง
นายเทพไทกล่าวว่า ทั้งนี้ การวิดีโอลิงก์มาในเวทีม็อบทุกครั้ง เพราะฉะนั้น ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รับรู้พฤติกรรมของคนเสื้อแดงว่า ใช้ความรุนแรงจริงๆ ซึ่งการที่ พ.ต.ท.ทักษิณว่าตัวเขาเป็นนักประชาธิปไตย เป็นการต่อสู้แบบอหิงสา เหมือนกับมหาตมะคานธี แต่พฤติกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการต่อสู้ในลักษณะอิจฉาของทักษิณยิปซีมากกว่า ดังนั้นจึงอยากจะให้ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไปดูข้อเท็จจริงและรายงานให้นายใหญ่ได้ทราบว่าความรุนแรงได้มีการประกาศที่เวทีคนเสื้อแดงจริง ไม่ควรจะหลับหูหลับตาแก้ตัวให้นายใหญ่ เพราะการทำหน้าที่ในการแก้ตัวโดยเอาความเท็จมาพูดต่อสังคม จะทำให้สังคมเข้าใจไขว้เขวได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฏหมายก็ควรให้คำปรึกษาด้านกฎหมายให้ครบถ้วนเสียดีกว่า โดยเฉพาะกรณีจะนำคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ฟ้องศาลโลก ตนขอฝากถามว่าโลกนี้ หรือโลกหน้า หรือโลกดาวอังคาร
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ฉะนั้นในฐานะเป็นที่ปรึกษากฎหมายก็ควรทำหน้าที่ตามที่มอบหมาย ไม่ควรจะออกปฏิเสธเรื่องความรุนแรง เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นที่ประจักษ์ของสังคม และเชื่อว่าหลังจากนี้คนเสื้อแดงจะทวีความรุนแรงขึ้น และก็จะทำปรากฏการณ์ในลักษณะเช่นนี้บ่อยครั้งมากยิ่งขึ้น ซึ่งตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองต้องรับผิดชอบอย่างจริงจัง โดยเริ่มต้นจากบ้านของผู้นำประเทศ ดังนั้น ตนเชื่อว่าบ้านบุคคลสำคัญต่างๆ ก็คงมีพฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะไม่หวังผลต่อความเสียหาย แต่บุคคลเหล่านี้ก็พยายามหวังผลในลักษณะเป็นข่าว เพื่อสร้างความวุ่นวาย รุนแรง และป่วนเมืองตามแผนของกลุ่มเสื้อแดงที่พยายามทำเพื่อไม่ให้รัฐบาลมีสมาธิในการบริหารประเทศได้
