เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไม่รู้ข่าวคอมมิวนิสต์ต่างชาติผสมโรง “ปลวกแดง” ป่วน ยันยังไม่พบรายงาน รับสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ แต่เชื่อทุกฝ่ายจะร่วมมือกันเพื่อบ้านเมือง เผยตำรวจสรุปคดี 5 ผู้ต้องหาบินขนอาวุธส่งอัยการแล้ว โยนอัยการตัดสินส่งตัวกลับไปดำเนินคดีในชาติตนตามคำร้องหรือไม่ ยันปลัดกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้รายงานสหประชาชาติว่าบินขนอาวุธจอดหวังส่งไม้ต่อ “แขกเปอร์เซีย”
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีถึงสิ่งที่จะรายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงสถานการณ์ความไม่สงบหลังเกิดเหตุบ้านของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถูกปาด้วยอุจจาระ รวมทั้งกระแสข่าวข่มขู่ลอบสังหารบุคคลสำคัญว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองทำงานอยู่ อย่างไรก็ตามตนขอเรียนว่าสถานการณ์บ้านเมืองมันค่อนข้างจะไม่ปกติ เพราะฉะนั้นตนมั่นใจว่าทุกฝ่ายเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง เพราะฉะนั้น คงจะร่วมมือกันแก้ปัญหาไปได้ แล้วก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของชาติ ทุกฝ่ายคงทำสิ่งดีดีให้กับชาติบ้านเมือง ตนมั่นใจว่าคงไม่มีปัญหาอะไร
ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางการเมืองล่าสุดได้มีกลุ่มกองกำลังพรรคคอมมิวนิสต์จากนอกประเทศมาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินข่าวนี้ แต่ตนคิดว่าเราเป็นคนไทยด้วยกันทุกสิ่งทุกอย่างเราน่าจะแก้ไขปัญหากันได้ ซึ่งในเวลาที่บ้านเมืองต้องการความสมัครสมานสามัคคีกันตนคิดว่าเป็นโอกาสที่เราจะทำอย่างนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานความปกติแต่อย่างใด
เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาขนอาวุธต่างชาติว่า ตอนนี้ตำรวจได้สรุปสำนวนคดีส่งไปยังชั้นของอัยการซึ่งอัยการต้องเป็นหน่วยงานที่สั่งคดี ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าจะมีการส่งอาวุธต่อไปที่ประเทศอิหร่านนั้นตนยืนยันว่าตนได้คุยกับนายธีรกุล นิยม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศแล้วว่า ในรายงานที่เรามีไปถึงยูเอ็นไม่ได้มีการกล่าวหาหรือว่ามีการให้ข้อสันนิษฐานว่าอาวุธพวกนี้ไปที่ประเทศอิหร่าน เพียงแต่ว่าเป็นการรายงานข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาหารือกับทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า เราจะปฏิบัติต่ออาวุธที่เรายึดไว้นั้นอย่างไร ส่วนอย่างอื่นไม่มีอะไร
“ในส่วนของกฎหมายไทยเรื่องเครื่องบินก็ดี เรื่องอาวุธก็ดี เรื่องผู้ต้องหาที่ห้าคนก็ดีขณะนี้เรื่องอยู่ที่อัยการหลังจากพนักงานสอบสวน ได้ทำเรื่องส่งไปแล้ว ก็อยู่ที่ดุลพินิจของอัยการจะสั่งฟ้องคดีต่อไป” นายถวิลกล่าว
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาแต่ละคนร้องขอให้ส่งตัวไปดำเนินคดีที่ประเทศของตัวเองนั้น เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศก็รับข้อร้องความร่วมมือที่ประเทศต่างๆ ร้องขอมาไปประกอบการพิจารณาของอัยการแล้ว ซึ่งเรื่องทั้งหมดอยู่ที่อัยการแล้ว
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีถึงสิ่งที่จะรายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงสถานการณ์ความไม่สงบหลังเกิดเหตุบ้านของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถูกปาด้วยอุจจาระ รวมทั้งกระแสข่าวข่มขู่ลอบสังหารบุคคลสำคัญว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองทำงานอยู่ อย่างไรก็ตามตนขอเรียนว่าสถานการณ์บ้านเมืองมันค่อนข้างจะไม่ปกติ เพราะฉะนั้นตนมั่นใจว่าทุกฝ่ายเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง เพราะฉะนั้น คงจะร่วมมือกันแก้ปัญหาไปได้ แล้วก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของชาติ ทุกฝ่ายคงทำสิ่งดีดีให้กับชาติบ้านเมือง ตนมั่นใจว่าคงไม่มีปัญหาอะไร
ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางการเมืองล่าสุดได้มีกลุ่มกองกำลังพรรคคอมมิวนิสต์จากนอกประเทศมาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินข่าวนี้ แต่ตนคิดว่าเราเป็นคนไทยด้วยกันทุกสิ่งทุกอย่างเราน่าจะแก้ไขปัญหากันได้ ซึ่งในเวลาที่บ้านเมืองต้องการความสมัครสมานสามัคคีกันตนคิดว่าเป็นโอกาสที่เราจะทำอย่างนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานความปกติแต่อย่างใด
เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาขนอาวุธต่างชาติว่า ตอนนี้ตำรวจได้สรุปสำนวนคดีส่งไปยังชั้นของอัยการซึ่งอัยการต้องเป็นหน่วยงานที่สั่งคดี ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าจะมีการส่งอาวุธต่อไปที่ประเทศอิหร่านนั้นตนยืนยันว่าตนได้คุยกับนายธีรกุล นิยม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศแล้วว่า ในรายงานที่เรามีไปถึงยูเอ็นไม่ได้มีการกล่าวหาหรือว่ามีการให้ข้อสันนิษฐานว่าอาวุธพวกนี้ไปที่ประเทศอิหร่าน เพียงแต่ว่าเป็นการรายงานข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาหารือกับทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า เราจะปฏิบัติต่ออาวุธที่เรายึดไว้นั้นอย่างไร ส่วนอย่างอื่นไม่มีอะไร
“ในส่วนของกฎหมายไทยเรื่องเครื่องบินก็ดี เรื่องอาวุธก็ดี เรื่องผู้ต้องหาที่ห้าคนก็ดีขณะนี้เรื่องอยู่ที่อัยการหลังจากพนักงานสอบสวน ได้ทำเรื่องส่งไปแล้ว ก็อยู่ที่ดุลพินิจของอัยการจะสั่งฟ้องคดีต่อไป” นายถวิลกล่าว
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาแต่ละคนร้องขอให้ส่งตัวไปดำเนินคดีที่ประเทศของตัวเองนั้น เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศก็รับข้อร้องความร่วมมือที่ประเทศต่างๆ ร้องขอมาไปประกอบการพิจารณาของอัยการแล้ว ซึ่งเรื่องทั้งหมดอยู่ที่อัยการแล้ว
