รายงานลับถึงยูเอ็นระบุ อาวุธโสมแดงที่ถูกจับในไทยเตรียมส่งให้อิหร่าน

เอเจนซี - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเผยรายงานลับของรัฐบาลไทย ระบุการขนส่งอาวุธจากเกาหลีเหนือ ที่ถูกจับยึดได้โดยเจ้าหน้าที่ของไทยในเดือนที่ผ่านมานั้นมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่อิหร่าน

เจ้าหน้าที่ไทยสามารถยึดอาวุธหนักกว่า 35 ตันจากเครื่องบินขนส่งสินค้า ที่พวกเขากล่าวว่ามาจากเกาหลีเหนือ พร้อมจับลูกเรือได้ 5 คน หลังจากที่เครื่องบินลำดังกล่าวลงจอดฉุกเฉินในสนามบินดอนเมืองในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

รายงานที่ส่งถึงคณะกรรมการวางมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือของคณะมนตรีความมั่นคงเผยว่า การขนส่งอาวุธดังกล่าวประกอบไปด้วยจรวด ฟิวส์ ฐานยิงจรวด และระเบิดแสวงเครื่อง

เครื่องบินขนส่งสินค้าลำนี้เดินทางออกจากกรุงเปียงยาง และมีจุดหมายปลายทางที่สนามบินเมห์ราบัด ในกรุงเตหะราน ภายใต้บริษัทขนส่งโคเรีย เมคานิคอล อินดัสทรี รายงานฉบับดังกล่าวเสริม

การเคลื่อนย้ายอาวุธโสมแดงไปยังอิหร่านนั้นเหมือนว่าจะเป็นความพยายามที่ละเมิดมาตรการลงโทษของยูเอ็นต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งถูกทางการไทยจับได้เสียก่อน แต่สำหรับอิหร่าน ซึ่งก็ถูกยูเอ็นวางมาตรการลงโทษเนื่องมาจากโครงการนิวเคลียร์ของประเทศตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ถูกห้ามน้ำเข้าอาวุธแต่อย่างใด

คณะทูตของยูเอ็น ซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ กล่าวว่า คณะกรรมการวางมาตรการลงโทษอาจจะหารือเกี่ยวกับรายงานของทางการไทยในเดือนหน้า เมื่อถึงเวลาพิจารณารายงานรายไตรมาสรอบล่าสุด ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ โดยจะส่งหนังสือถึงเปียงยาง และเตหะรานเกี่ยวกับรายละเอียดการขนส่งอาวุธครั้งใหญ่นี้ด้วย

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเจอบทลงโทษล่าสุดจากยูเอ็นในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการลงโทษฐานทำการทดลองนิวเคลียร์ในเดือนพฤษภาคม ปี 2009 ซึ่งเป็นการทดลองครั้งที่ 2 โดยมาตรการลงโทษเพิ่มเติมนั้นได้ห้ามการค้าขายอาวุธ ที่เป็นการส่งออกสำคัญที่นำรายได้มาให้แก่เกาหลีเหนือมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี

เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า การค้าขายอาวุธที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือนั้นมาจากการส่งออกขีปนาวุธ โดยมีอิหร่าน และประเทศในตะวันออกกลางอื่นๆ เป็นลูกค้า