xs
xsm
sm
md
lg

“เทพเทือก” โอดกำลังใจลด เข้าใจหัวอก “เฮียตือ” ง้อสุดๆ ขอทำพรรคร่วมสบายใจ รับ ปชป.คบยากจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
“เทพเทือก” ยังไม่ได้อ่านจดหมายเปิดผนึก “สมศักดิ์” รับเข้าใจความรู้สึก ง้อพรรคร่วม! อะไรที่ทำให้สบายใจได้ก็จะทำ เชื่อไม่มีสลับขั้วแน่ รับประชาธิปัตย์คบยาก โอดถูกบั่นทอนกำลังใจ แต่ไม่ท้อ ย้ำเสียงในสภาไม่พอแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (28 ม.ค.) นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯด้านความมั่นคง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคร่วมรัฐบาล ภายหลังจากที่นาย สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ทำจดหมายเปิดผนึกทวงสัญญาพรรคประชาธิปัตย์ว่า ส่วนตัวเข้าใจความรู้สึกดี และไม่ได้ติดใจอะไรและตั้งใจว่า อะไรที่จะสามารถทำให้พรรคร่วมรัฐบาลสบายใจขึ้นได้ ในเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากเรื่องรัฐธรรมนูญก็จะพยายาม เพราะคนอยู่ร่วมกันก็ต้องเอาใจกันบ้าง เมื่อถามว่ากรณีนี้กลายเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะนายกฯเป็นคนผิดสัญญาเพื่อนหรือไม่ เลขาธิการปชป.กล่าวว่า ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อถามว่าแสดงว่ายังทำงานร่วมกันได้ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องทำงานร่วมกันให้ได้ เพราะตกลงใจร่วมกันตั้งแต่ต้นแล้วว่าเราเข้าเป็นรัฐบาลร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง ดังนั้นภารกิจนี้ยังเป็นภารกิจที่เราจะต้องกอดคอกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงหรือไม่ว่าจะเป็นแรงกระเพื่อมใต้น้ำ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่ากังวลใจมาก ธรรมชาติของการเมือง ไม่ว่าประเทศไหน มันไม่มีราบเรียบเป็นแผ่นกระจกหรอก ก็ต้องมีคลื่นลมบ้างเป็นปกติ เพราะการเมืองเป็นการทำงานของคนหลายฝ่าย จึงมีความเห็นที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเราต้องหลอมรวมอยู่ด้วยกันให้ได้ในท่ามกลางความแตกต่างนี้ เมื่อถามว่าจะเอาอะไรไปซัฟพอร์ตความรู้สึกนี้ของพรรคร่วมฯ เลขาธิการปชป.กล่าวว่า เอาความเป็นจริง เอาข้อเท็จจริง เอาเหตุผลจริงไปพูดกัน กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเพียงเรื่องหนึ่งเท่านั้นเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำว่าเขียนด้วยมือแล้วลบด้วยเท้า พรรคประชาธิปัตย์ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ นายสุเทพ กล่าวว่า “ธรรมดาครับ เป็นคน แม้จะรู้สึกก็ต้องอดทนบ้าง อย่างคุณกับผมดีกัน วันหนึ่งคุณเกิดหงุดหงิดว่าผมแรง ๆ ผมก็รู้สึก แต่ผมก็เข้าใจว่า ที่คุณว่าผมเพราะคุณรู้สึกอย่างนั้น ถ้าเรามีความคิดที่อยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจก็โอเค” นายสุเทพ กล่าวและว่า ไม่รู้สึกหนักใจในฐานะที่เป็นคนประสานเพราะมันเป็นหน้าที่ บางวันก็ทำงานได้สบาย ง่าย บางวันก็ยาก ก็ต้องใช้ความมานะ อดทนเป็นพิเศษ และเป็นเรื่องธรรมดาที่ถูกแรงปะทะรอบด้านในขณะนี้ ไม่เป็นไร

เมื่อถามว่าจริง ๆ มีการตกลงกันอย่างไรในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะขณะนี้มีการมาร้องหาใบเสร็จ เลขาธิการปชป.กล่าวว่า ตนคงไม่พูดถึงอดีตแล้ว แต่จะพูดถึงวันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ พูดถึงอนาคต ถ้าไปย้อนรอยหาอดีตกันก็เหนื่อย และเสียเวลาด้วย เดินหน้าดีกว่า เมื่อถามว่าสิ่งที่นายสมศักดิ์ พูดถึงสัญญาที่ให้กันไว้จริงหรือไม่ ในฐานะที่เป็นคนประสานในขณะนั้นด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า ก็มีทั้งจริงบ้างและอาจจะไม่จริงบ้าง แล้วแต่เพราะในการพูดคุยประสานงานที่จะมาจัดตั้งรัฐบาลกันนั้น มีการพูดคุยกันหลายครั้ง แต่สิ่งที่นายกฯพูดไปก็เป็นความจริงในมุมที่นายกฯได้ทราบ ได้เห็น แต่สิ่งที่ตนพูดกับพรรคร่วมฯก็เป็นความจริงอีกเรื่องหนึ่ง บางทีคนฟังเอาเรื่องที่ตนพูดมาต่อกับเรื่องที่นายกฯพูดก็กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก็แล้วแต่ว่าใครจะหยิบฉวยตรงไหนมาพูด เมื่อถามว่าแล้วจะให้พรรคร่วมฯฟังใครระหว่างหัวหน้าพรรคกับเลขาธิการพรรค นายสุเทพ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ใครจะฟัง

เมื่อถามต่อว่าในฐานะผู้จัดการรัฐบาลหากเป็นอย่างนี้ก็แสดงว่า เขาเชื่อถือท่านไม่ได้แล้วใช่ใหม เพราะตกลงกันแล้วว่าจะแก้รัฐูธรรมนูญ แต่พรรคไม่เห็นด้วย แล้วอีกหน่อยเขาจะเชื่อถือคำพูดได้หรือ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็คงมีปัญหาบ้าง “วันนี้ก็เครดิตลดลงไปบ้างสำหรับตัวผม ซึ่งผมก็รับสภาพ ก็ต้องไปถามกันว่าวันนี้สถานะผมเป็นอย่างนี้ พรรคร่วมฯยังจะคบกับผมมั๊ย” เมื่อถามว่าแสดงว่าหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคไม่ได้พูดเป็นเสียงเดียวกันใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า พูดคนละเสียงอยู่แล้ว ตนพูดเสียงไปทางปักษ์ใต้นิด ๆ ส่วนนายกฯก็ออกมาทางสำเนียงกรุงเทพฯ ก็ต่างกันบ้าง เป็นธรรมดา

“ไม่ได้เป็นการแตกคอกันเพียงแต่ความคิดไม่ตรงกันในบางเรื่อง ประชาธิปไตยก็อย่างนี้ ซึ่งเราก็ต้องยอมรับความเห็นที่แตกต่าง แต่จนถึงขณะนี้ก็ไม่เคยท้อใจในตำแหน่งเลขาธิการพรรคเลย ผมทำงานทุ่มทั้งชีวิตจิตใจ ทุ่มทั้งตัวและสนุกสนานกับทุกรูปแบบ สำเร็จก็มีความสุข ไม่สำเร็จก็มีความสุขอีกแบบหนึ่ง”เลขาธิการปชป.กล่าว

เมื่อถามว่าจะไม่จบเหมือนพล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนกับพล.ต. สนั่น ต่างกันเยอะ “เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่อยู่ไม่ได้มีไม่กี่คน ส่วนใหญ่เขาก็อยู่ได้ และไม่เชื่อเรื่องอาถรรพ์ ผมเป็นลูกศิษย์วัดสวนโมกข์ ผมเป็นศิษย์อาจารย์ พุทธธาตุ ผมไม่เชื่อไสยสาตย์ ผมเชื่อวิทยาศาสตร์ เชื่อในธรรมชาติความเป็นจริงของชีวิต เชื่อในธรรมมะ”

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่นายกฯบอกว่า ให้พรรคร่วมไปคิดประเด็นที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาภายในหนึ่งสัปดาห์ที่คุยกันที่บ้านนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ จริงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มี นายกฯไม่ได้ไปคุยที่บ้านคุณนิพนธ์ และไม่เคยทราบว่า ให้ไปสรุปประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาในหนึ่งสัปดาห์ แต่เรื่องนานมากแล้ว ตนก็จำไม่ค่อยได้แล้วเพราะเรื่องเยอะ แต่อะไรที่พูดกับตน ตนรับได้ทั้งนั้น

เมื่อถามว่าจะทำให้ถูกมองว่าพรรคประชาธิปัตย์แบ่งบทกันเล่น ไม่จริงใจกับเพื่อนหรือไม่ และต่อไปคำพูดก็คงเชื่อถือไม่ได้ เลขาธิการปชป.กล่าวว่า ขนาดตนทำอย่างนี้แล้วยังถูกหาว่าแบ่งบทกันเล่นอีกเหรอ เมื่อถามว่างานนี้เจ็บจริงใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ไม่เจ็บครับ ถ้าสื่อถามอย่างนี้ ผมตอบผิดเดี๋ยวเป็นเรื่องใหญ่ เคยต้องตอบว่าไม่เจ็บ เพราะเป็นเรื่องของการทำหน้าที่ และผมทำเต็มที่แล้ว ทำสุดตัว เต็มกำลังและทำด้วยความซื่อตรง จริงใจทั้งต่อเพื่อน ต่อพรรคและต่อบ้านเมือง เพราะฉะนั้น ไม่มีต้องเจ็บ”เลขาธิการปชป.กล่าว

เมื่อถามว่าจะนัดเคลียร์กับพรรคร่วมอย่างเป็นทางการหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ได้นัด แต่ก็คงต้องมีนัดกัน แต่ตอนนี้อยู่เฉย ๆ ก่อนสักวัน สองวัน ซึ่งการที่มีจดหมายจากนายสมศักดิ์ ออกมาก็ไม่คิดว่าจะทำให้การพูดคุยยากขึ้น ตอนนี้เหนื่อย ๆ ร้อน ๆ กัน ก็ต้องรอให้ลมโชยไปสักพักหนึ่งก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ย่ามใจหรือมี เพราะอาจเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้แก้ได้ง่าย ๆ ทุกอย่างเลยเป็นแบบนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่หรอก เราไม่ได้ย่ามใจอย่างนั้น เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเราทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องยาก และแม้ประชาธิปัตย์เทเสียงให้ทั้งหมดก็อาจจะไม่พอถ้าสมาชิกวุฒิสภาไม่มาร่วมด้วย แต่เมื่อมติของพรรคออกมาอย่างนี้ก็ดีแล้ว ชัดเจนดีแล้ว ก็จบ

เมื่อถามว่ามีข่าวจากฝ่ายค้านว่า พรรคร่วมได้ติดต่อไปที่ฝ่ายค้านด้วยเหมือนกัน นายสุเทพ กล่าวว่า “ฝ่ายค้านก็จด ๆ จ้อง ๆ อยู่แล้วครับ เห็นสามี ภรรยาเขาทะเลาะกัน ก็รอลุ้นว่าเมื่อไหร่เขาจะหย่ากัน ก็คิดเท่านั้นแหล่ะฝ่ายค้าน หรือถ้าเห็นว่าเขายังไม่หย่ากันก็ยุส่งให้ ก็เป็นเรื่องธรรมดา” เมื่อถามต่อว่าแต่พท.เขาก็เป็นสามีเก่า และสมัยนี้บางทีไม่ต้องหย่ากันก็กลับไปหากันได้ นายสุเทพ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่าอย่าไปพูดอะไรขนาดนั้นเลย ตนก็พูดไปเพื่อให้สบายใจ

ผู้สื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์คบยากหรือไม่ “ยากครับ ยาก และที่ยากก็เพราะว่าขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมมันต่างกัน การทำงานการเมืองของประชาธิปัตย์แตกต่างจากพรรคอื่น โดยเฉพาะยึดแนวทางประชาธิปไตยอย่างเคร่งครัด ถือเอาเสียงข้างมากของสมาชิกเป็นเกณฑ์ ทุกคนสามารถแสดงความเห็นได้หมด แต่ถ้าเป็นพรรคอื่นง่ายกว่านี้ ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคเขาไม่ต้องผลัดกันอภิปรายคนละที ถ้าเป็นพรรคอื่นหัวหน้าพรรคพูด 3 คำก็จบแล้ว เมื่อถามว่าแล้วอย่างนี้ใครจะคบพรรคประชาธิปัตย์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คนที่จะมาคบก็ต้องเข้าใจว่าประชาธิปัตย์มีธรรมชาติในการตัดสินปัญหาอย่างนี้ เมื่อถามว่าคำพูดไม่ต้องยึดถือความจริงหรือ นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราก็ยึดถือความจริงกันทุกอย่าง ซึ่งตอนตั้งรัฐบาลในพรรคก็บอกให้ตนสามารถเจรจาได้ทุกเรื่องเพราะตอนนั้นเชื่อกันว่า เราคงไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และเมื่อไปเจรจาแล้วก็ตกลงกัน

เมื่อถามว่านักการเมืองรู้สึกว่าจะความจำสั้น เลขาธิการปชป.กล่าวว่า “ผมก็ปุถุชน ความจำบางครั้งก็สั้น บางครั้งก็ยาว บางคนจำเรื่องเมื่อวานไม่ได้ แต่จำเรื่องเมื่อ 10 กว่าปีก่อนได้ หรือบางคนจำได้เฉพาะแค่เมื่อวาน เลยไปจากนั้นก็ลืมหมดแล้ว คนเราถ้าไม่หัดลืมบ้างก็เสียสติได้เหมือนกัน” เมื่อถามว่านาย ชวน หลีกภัย บอกว่าไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่ตาย เลขาธิการปชป. กล่าวว่า ก็แน่นอน เมื่อไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่ตาย ก็เป็นฝ่ายค้านไป พรรคการเมืองก็ต้องทำหน้าที่ได้ทั้งเป็นฝ่ายค้านและรัฐบาล แต่ตนมองว่าเมื่อวันนี้เป็นรัฐบาลอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องรีบร้อนที่จะไปเป็นฝ่ายค้าน ก็ทำหน้าที่ในฝ่ายรัฐบาลให้ดี

เมื่อถามว่าในฐานะผู้จัดการรัฐบาลมองว่าพรรคประชาธิปัตย์จะหาพรรคมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้ยากขึ้นหรือไม่ จากกรณีนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ยากหรอก เมื่อเงื่อนไขเปลี่ยนไป สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ก็คุยกันได้ใหม่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยืนยันว่าความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่เป็นปัญหา เมื่อถามว่าทำไมจึงมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา เลขาธิการปชป. กล่าวว่า ตนมั่นใจเพราะได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลมาแต่ต้น มีหลายเรื่องที่ต้องช่วยกันทำให้บ้านเมือง เรื่องแก้รัฐธรรมนูญเป็นเพียงประเด็นหนึ่งเท่านั้น

เมื่อถามว่านายบรรหาร ถ้าโกรธแล้วจะโกรธนาน นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ตนเข้าใจท่าน เมื่อถามว่าไปเรียนเทคนิคจากนาย เนวิน มาเหรอ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่หรอก ตนก็มีวิชาเฉพาะของตนเองเหมือนกัน เมื่อถามว่าที่นายบรรหาร โกรธมากที่มีผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์บอกว่า เป็นเรื่องของนายบรรหารและนาย เนวิน เท่านั้น ซึ่งเป็นการดูหมิ่นน้ำใจกันเกินไป เลขาธิการปชป. กล่าวว่า การพูดในพรรคก็มีหลากหลาย บางคนพูดตรงประเด็น บางคนก็พูดเฉียดไปเฉียดมา เราคงไปจับเฉพาะประเด็นมาคงไม่ได้ และคนที่อยู่ในพรรคก็ใหญ่กันทั้งนั้น และความจริงก็เป็นการแสดงความเห็นกันภายใน แต่สื่อเก่ง เพราะของตนเองเกือบได้ครบทุกคำพูด เห็นแล้วบางทียังไม่ค่อยแน่ใจว่าพูดไปจริงหรือเปล่า

ผู้สื่อข่าวถามว่าท่าทีนายกฯดูเหมือนไม่ให้เกียรติพรรคร่วมฯเกินไปหรือไม่ เลขาธิการปชป.ไม่ตอบ แต่ กล่าวว่า “สื่อต้องระวัง อย่าถามให้ผมไปวิจารณ์ผู้บังคับบัญชา เพราะมันเสี่ยงต่อการตกงานได้ ไม่มีหรอก นายกฯก็ทำตรงไป ตรงมา ตามลักษณะของท่าน วันนี้ต้องยอมรับว่านายกฯเป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล พวกผมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานายกฯก็ต้องทำตามนายกฯ”

เมื่อถามว่าจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าท่านจะชอบฉายาที่สื่อทำเนียบตั้งให้ว่า “แม่นมอมทุกข์”แล้วใช่ใหม นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ถ้าผมอยู่ถึงปีหน้าช่วยตั้งให้ดีหน่อย เพราะชักไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองเพศอะไรกันแน่”

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าการเมืองไม่ยกระดับ คนรุ่นหลังจะดูเป็นตัวอย่างได้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง คนติดตามการเมืองสามารถวิเคราะห์ได้ทุกแง่ทุกมุม จะบอกว่าการเมืองไม่ยกระดับก็ไม่ใช่
กำลังโหลดความคิดเห็น