กรอ.หวั่นเอกชนถอนการลงทุนมาบตาพุด เสนอ “มาร์ค” ออก พ.ร.ก. “ไตรรงค์” ยัน กม.ผ่านสภาสมัยนี้แน่ สอบมวยมาบตาพุดขอนุญาตศาลผิดหลักการ จนถูกศาลสั่งระงับโครงการ ชี้การเมืองไทยทะเลาะกันเพราะนักพูดเยอะ ยันเสถียรภาพรัฐบาลยังดี
วันนี้ (27 ม.ค.) นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจว่า ตัวแทนภาคเอกชนแสดงความห่วงใย ต่อแนวทางการแก้ปัญหาโครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง หลังศาลปกครองมีคำสั่งระงับโครงการ โดยเฉพาะ 30 โครงการได้สอบถามความชัดเจนต่อรัฐบาล ถึงระยะเวลาแก้ปัญหา เพราะถ้าล่าช้าออกไปจะทำให้มีการถอนการลงทุน ซึ่งมีการประเมินไว้ว่าประเทศไทยมีความเหมาะสมที่สุด ในการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน แต่เมื่อติดปัญหาเช่นนี้ ก็จะถอนการลงทุนได้
นายไตรรงค์กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ได้ชี้แจงว่ารัฐบาลมีความตั้งใจแก้ปัญหาให้ถูกต้องตามกฎหมาย และได้เร่งรัดด้านนโยบาย “ท่านนายกฯ ร้อนใจมากต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้ยืนยันว่า รัฐบาลต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งได้เสนอร่างพ.ร.บ.จัดตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาการร้องเรียนโครงการที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างรุนแรง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฏีกา โดยยืนยันว่า จะสามารถเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาสมัยนี้แน่นอน ทั้งนี้ ภาคเอกชนได้เสนอว่ารอไม่ได้ควรออกเป็น พ.ร.ก. ซึ่งท่านนายกฯชี้แจงว่าคงไม่สามารถกระทำได้เพราะไม่เข้าเงื่อนไขการออก พ.ร.ก. อีกทั้งรัฐบาลต้องปฏิบัตตามรัฐธรรมนูญ” นายไตรรงค์กล่าว
นายไตรรงค์กล่าวว่า ใจจริงตนอยากให้ปัญหาดังกล่าวยุติได้ภายใน 5 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้มีความไม่ชัดเจนในเรื่องของหน่วยงาน ต่างคนต่างทำ ทำให้ภาคเอกชนไม่รู้ว่าจะพึ่งพาทางไหน แต่หลังจากครม.มีมติ ตั้งศูนย์บริการข้อมูลด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม และผลกระทบด้านสุขภาพ ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ก็จะทำให้กระบวนการต่างๆ เดินไปได้อย่างคล่องตัวขึ้น
“อย่างกรณีการทำเรื่องขอศาล ก็ขอไม่เป็น แทนที่จะขอให้ดำเนินการก่อสร้างต่อ โดยยืนยันในเรื่องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผลกระทบด้านสุขภาพ แต่ไปขออนุญาตดำเนินกิจการเลย มันก็ไม่ได้ ซึ่งถ้ายื่นเรื่องถูก ได้รับคำปรึกษาที่ถูกต้องก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะศาลท่านก็มีเมตตา เพียงแต่ยื่นเรื่องไม่ถูกเท่านั้นเอง” นายไตรรงค์กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายไตรรงค์ยังมั่นใจว่าเสถียรภาพรัฐบาลยังดีอยู่ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่สถาบันมู้ดดีส์ยอมรับความน่าเชื่อถือธนาคารพาณิชย์ เหลือแค่ห่วงการเมืองในประเทศนั้น ยอมรับว่าเป็นจริงอยู่แล้ว เพราะปัญหาที่เหลืออยู่ตอนนี้คือ ปัญหาทางการเมือง ซึ่งของเรามีความขัดแย้งสูงมาก เพราะการเมืองไทยมีนักพูดเยอะ ที่ขัดแย้งเพราะมีนักพูด พูดกันเยอะ