“เพื่อไทย” โหวกเหวกรับลูกฮิวแมนไรต์วอตช์ มั่วข้อมูลไทยละเมิดสิทธิมนุษยชน จวกรัฐบาล 2 มาตรฐานครอบงำตำรวจ สวมบทถนัดเแสร้งเวทนาพรรคร่วมถูก ปชป.หลอกซ้ำซากเรื่องแก้ รธน.
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ฮิวแมนไรต์วอตช์ เสนอรายงานประจำปี 2552 ระบุว่าประเทศไทยมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงและมีการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกันว่า จากการปฏิบัติเป็น 2 มาตรฐานในการใช้กฎหมายของรัฐบาลที่มีต่อคนเสื้อเหลืองและคนเสื้อแดงจนผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอตช์ เอเชีย โจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า 2 มาตรฐาน บั่นทอนสิทธิมนุษย์ชนและนิติธรรมนั้น ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างจริงจังเหมือนกับที่ดำเนินการกับคนเสื้อแดง อย่าเลือกปฏิบัติ 2 มาตรฐานหรือไร้มาตรฐานเพื่อสร้างความเป็นธรรมอย่างทียมกัน ลดความขัดแย้ง การเผชิญหน้า หลีกเลี่ยงการปะทะของประชาชนในอนาคต รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาชาติ
อีกทั้งวันนี้คดีของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งเป็นผู้ที่คิดแตกต่างและอยู่ขั้วตรงข้ามกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ก็ถูกกล่าวหา ทั้งๆ ที่เพียงแค่ข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกดดันจากฝ่ายการเมือง ให้เร่งออกหมายจับอย่างเร่งด่วนทันที เมี่อเทียบกับกรณีของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนและมีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิตนั้น ตำรวจกลับออกหมายเรียกเพียงแค่ 2 ครั้งและคดีก็ยังไม่คืบหน้าใดๆ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ใช้อำนาจครอบงำเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เลือกปฏิบัติระหว่างคน 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายตน และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่ารับใช้นักการเมืองจนขาดความเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะเมื่อถึงเวลาผู้ที่สั่งการก็จะลอยตัวอยู่เหนือปัญหา คนที่จะรับกรรมก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายพร้อมพงศ์แถลงถึงความเคลื่อนไหวเพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญกำลังเป็นวิกฤตขัดแย้งรุนแรงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ หวังจะนำกระแสการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นประโยชน์กับตนเอง เพราะนายอภิสิทธิ์และแกนนำบางคนเล่นการเมืองแบบตี 2 หน้ามาตลอด โดยด้านหนึ่งให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แสร้งทำดีและให้สัญญากับพรรคร่วมรัฐบาล ในขณะที่อีกด้านหนึ่งนายอภิสิทธิ์และผู้ใหญ่ในพรรคบางคน เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แสดงบทบาทคัดค้าน เหมือนแยกกันเล่นบทละคร 2 เศียร 2 หน้า แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือไม่แก้รัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ที่ไม่ยอมแก้ไขรัฐธรรมนูญและยอมผิดข้อตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เพราะมีความมั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลคงไม่กล้าถอนตัวออกจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ อีกทั้งเพราะเกรงใจกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เป็นแนวร่วมเดิมในการล้มรัฐบาลชุดก่อนๆ
โดยล่าสุดในการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ที่ จ.กระบี่นั้นก็ไม่มีข้อยุติ โยนไปให้กรรมการบริหารพรรคตัดสินในสัปดาห์หน้า จึงน่าเวทนาสำหรับพรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกหลอกซ้ำซาก ปล่อยให้นายอภิสิทธิ์เหยียบบ่าเพื่อนเป็นใหญ่แล้วก็ลืมพันธสัญญาก่อนร่วมรัฐบาล แสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ รวมถึงแกนนำบางคนว่ามีความจริงใจทางการเมืองกับพรรคร่วมรัฐบาลแค่ไหน ควรที่จะลงเรือร่วมรัฐบาลเดียวกันอีกต่อไปหรือไม่