สองมาตรฐานตัวพ่อ!! "นช.แม้ว" สั่งเสื้อแดงเคลื่อนไหว ปลุกปั่นบ้านเมืองลุกเป็นไฟ กระซิบ "ตุ๊ดตู่" โพล่ง!! กองกำลังเถื่อนก่อวินาศกรรม "ศิริราช" หนึ่งในเป้าหมาย ชี้ แกนนำแดงถ่อย ผีเจาะปากพูด สร้างสถานการณ์ให้เป็นกระแส ขณะที่ "ฮิวแมนไรท์วอทช์" ตะแบง รบ.ไทย ละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามตำราสองมาตรฐาน "นช.แม้ว" เชื่อ สมุนแดง ชักใย เขียนสคริปต์ฝรั่ง โจมตีรบ.อภิสิทธิ์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันศุกร์ที่ 22 มกราคม มี น.ส.กมลพร วรกุล นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้มีวิทยากรรับเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการอาวุโส สื่อเครือผู้จัดการ และนายปฏินันท์ สันติเมทนีดล ผู้สื่อข่าวอาวุโส มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่พยายามหาช่องทางช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนวันที่ 26 ก.พ.นี้ ศาลจะตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท
น.ส.กมลพร กล่าวเปิดประเด็นว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ได้ออกมาเปิดเผยว่า กำลังจะมีกลุ่มบุคคลก่อวินาศกรรมหลายจุด โดยหนึ่งในนั้นมีโรงพยาบาลศิริราชด้วย ซึ่งเป้าหมายการก่อการดังกล่าว เพื่อต้องการป้ายสีว่าเป็นฝีมือคนเสื้อแดง
นายชัชวาลย์กล่าวประเด็นนี้ว่า นายจตุพรเป็นคนที่มีนิสัยผีเจาะปากมาพูด โดยจะเห็นได้ว่าพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อให้เป็นกระแส และถ้าหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เชื่อการเคลื่อนไหวของแก๊งสามเกลอหัวขวดแล้ว เพราะทำงานพลาดบ่อย จึงหันไปใช้พวกฮาร์ดคอร์อย่างนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แทน เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ดุดันกว่า ดังนั้น คำพูดของนายจตุพรถือว่าไม่มีน้ำยาแล้ว
น.ส.กมลพร กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อโฟนอินมาบอกว่า มีพี่น้องเกษตรกรภาคใต้ ที่ไปเรียกร้องขอความเป็นธรรม กลับถูกยิงเสียชีวิต แต่ตอนองคมนตรี บุกรุกที่ดินป่าไม้ดันไม่มีความผิด แบบนี้เรียกว่าสองมาตรฐานชัดๆ
นายตุลย์กล่าวประเด็นนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามใช้สื่อต่างๆ เพื่อโกหกและขยายประเด็นให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ โดยจะเห็นว่าที่ผ่านมาคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกจับผิดได้ทุกครั้ง ดังนั้น เชื่อว่าวันนี้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง มีแต่เสีย อีกทั้งยังสู้แล้วแต่แพ้อีกด้วย
น.ส.กมลพร กล่าวว่า นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการแผนกเอเชียขององค์การฮิวแมนไรท์วอตช์ ได้แถลงประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ประจำปี 2552 โดยระบุว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนัก เพราะได้ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินที่ลำเอียง คือ ขณะที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงถูกดำเนินคดีสารพัด แต่กลับไม่มีการสอบสวนที่เป็นกลาง จึงเกิดข้อเปรียบเทียบกับการดำเนินคดีของพันธมิตรฯ ซึ่งการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ทำให้เกิดรัฐบาลนายอภิสิทธิ์
น.ส.กมลพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายแบรดยังได้แถลงอีกว่า การท้าทายของกลุ่มคนเสื้อแดง ทำให้ นายอภิสิทธิ์ต้องหันพึ่งพากองทัพมากขึ้น เพื่อโต้ตอบคนเสื้อแดง โดยระดมกำลังทหาร และสั่งสลายชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา รวมทั้งกระสุนปืนจริง ดังนั้น ในช่วงเหตุการณ์ความวุ่นวายเมื่อเดือนเมษายน ปี 2552 มีผู้ชุมนุมเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 123 คน
นายโสภณกล่าวประเด็นนี้ว่า ด้าน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาล ได้วิจารณ์คำแถลงของนายแบรดว่า เป็นการพูดข้างเดียว โดยเป็นการวิเคราะห์ทางการเมืองมากกว่าจะกล่าวถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน และเป็นมองสถานการณ์ตามเนื้อผ้า ไม่ได้มีความสลับซับซ้อนอะไร
นายโสภณกล่าวต่อว่า คำแถลงของนายแบรดสะท้อนให้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง โดยในการประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ไม่ได้มีการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดง ไปก่อความรุนแรง หรือทำลายการประชุมระดับประเทศ ดังนั้น จึงไม่มีความเป็นกลางอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่เป็นองค์กรเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน แต่ไม่ได้พูดถึงความรุนแรงของกลุ่มคนเสื้อแดงเลย
นายตุลย์กล่าวเสริมว่า คำแถลงดังกล่าวเหมือนข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากมีการบิดเบือนข้อมูล เพื่อต้องการสร้างความเข้าใจผิด โดยนายแบรด รู้หรือไม่ว่า ช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว มีแต่กลุ่มคนเสื้อแดงที่ไปทำร้ายผู้อื่น ไม่ใช่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ แต่อย่างใด ฉะนั้น หากสังเกตดีๆ ความเคลื่อนไหวหรือคำแถลงบางประโยคคล้ายคลึงกับสิ่งที่ นายใจ อึ๊งภากรณ์ และนายจักรภพ เพ็ญแข ดังนั้น ครั้งนี้เป็นการเขียนสคริปต์ให้ต่างชาติพูดแน่นอน
น.ส.กมลพร กล่าวว่า คำแถลงนายแบรดยังระบุอีกว่า รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาประชาธิปไตยได้ โดยเฉพาะกฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งถือเป็นการริบรอนสิทธิการแสดงออกทางความคิดเห็น
นายปฏินันท์กล่าวประเด็นนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชอบพูดว่ารัฐบาลหรือประเทศไทยสองมาตรฐาน แต่ตัวเองไม่ยอมเลิกทำตัวเป็นเด็กเลี้ยงแกะ เพราะจริงๆ คำว่าสองมาตรฐาน ก็มีแต่ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทำเช่นนั้น ดังนั้นจึงได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อสองมาตรฐาน หรือเป็นเจ้าของต้นตำรับคำพูดนี้ เนื่องจากได้มีการสั่งคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวแบบสองมาตรฐาน โดยปลุกปั่นผู้คนให้ไปเขายายเที่ยงหรือเขาสอยดาว แต่ไม่ยอมไปทวงที่ดินไม่ชอบด้วยกฏหมายจากสนามกอล์ฟอัลไพน์ หรือที่เขาใหญ่ ซึ่งเคยไปจัดคอนเสริ์ต
นายชัชวาลย์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชอบตะแบงคำว่าสองมาตรฐาน โดยไม่ยอมบอกมาตรฐานตัวเองว่า ถ้าหากถูกตัดสินว่าผิดเมื่อไหร่จะต้องหนี ซึ่งมาตรฐานคนแบบนี้ต่างหากที่ถือว่าสองมาตรฐานของจริง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันศุกร์ที่ 22 มกราคม มี น.ส.กมลพร วรกุล นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้มีวิทยากรรับเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการอาวุโส สื่อเครือผู้จัดการ และนายปฏินันท์ สันติเมทนีดล ผู้สื่อข่าวอาวุโส มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่พยายามหาช่องทางช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนวันที่ 26 ก.พ.นี้ ศาลจะตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท
น.ส.กมลพร กล่าวเปิดประเด็นว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ได้ออกมาเปิดเผยว่า กำลังจะมีกลุ่มบุคคลก่อวินาศกรรมหลายจุด โดยหนึ่งในนั้นมีโรงพยาบาลศิริราชด้วย ซึ่งเป้าหมายการก่อการดังกล่าว เพื่อต้องการป้ายสีว่าเป็นฝีมือคนเสื้อแดง
นายชัชวาลย์กล่าวประเด็นนี้ว่า นายจตุพรเป็นคนที่มีนิสัยผีเจาะปากมาพูด โดยจะเห็นได้ว่าพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อให้เป็นกระแส และถ้าหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เชื่อการเคลื่อนไหวของแก๊งสามเกลอหัวขวดแล้ว เพราะทำงานพลาดบ่อย จึงหันไปใช้พวกฮาร์ดคอร์อย่างนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แทน เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ดุดันกว่า ดังนั้น คำพูดของนายจตุพรถือว่าไม่มีน้ำยาแล้ว
น.ส.กมลพร กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อโฟนอินมาบอกว่า มีพี่น้องเกษตรกรภาคใต้ ที่ไปเรียกร้องขอความเป็นธรรม กลับถูกยิงเสียชีวิต แต่ตอนองคมนตรี บุกรุกที่ดินป่าไม้ดันไม่มีความผิด แบบนี้เรียกว่าสองมาตรฐานชัดๆ
นายตุลย์กล่าวประเด็นนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามใช้สื่อต่างๆ เพื่อโกหกและขยายประเด็นให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ โดยจะเห็นว่าที่ผ่านมาคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกจับผิดได้ทุกครั้ง ดังนั้น เชื่อว่าวันนี้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง มีแต่เสีย อีกทั้งยังสู้แล้วแต่แพ้อีกด้วย
น.ส.กมลพร กล่าวว่า นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการแผนกเอเชียขององค์การฮิวแมนไรท์วอตช์ ได้แถลงประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ประจำปี 2552 โดยระบุว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนัก เพราะได้ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินที่ลำเอียง คือ ขณะที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงถูกดำเนินคดีสารพัด แต่กลับไม่มีการสอบสวนที่เป็นกลาง จึงเกิดข้อเปรียบเทียบกับการดำเนินคดีของพันธมิตรฯ ซึ่งการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ทำให้เกิดรัฐบาลนายอภิสิทธิ์
น.ส.กมลพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายแบรดยังได้แถลงอีกว่า การท้าทายของกลุ่มคนเสื้อแดง ทำให้ นายอภิสิทธิ์ต้องหันพึ่งพากองทัพมากขึ้น เพื่อโต้ตอบคนเสื้อแดง โดยระดมกำลังทหาร และสั่งสลายชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา รวมทั้งกระสุนปืนจริง ดังนั้น ในช่วงเหตุการณ์ความวุ่นวายเมื่อเดือนเมษายน ปี 2552 มีผู้ชุมนุมเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 123 คน
นายโสภณกล่าวประเด็นนี้ว่า ด้าน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาล ได้วิจารณ์คำแถลงของนายแบรดว่า เป็นการพูดข้างเดียว โดยเป็นการวิเคราะห์ทางการเมืองมากกว่าจะกล่าวถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน และเป็นมองสถานการณ์ตามเนื้อผ้า ไม่ได้มีความสลับซับซ้อนอะไร
นายโสภณกล่าวต่อว่า คำแถลงของนายแบรดสะท้อนให้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง โดยในการประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ไม่ได้มีการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดง ไปก่อความรุนแรง หรือทำลายการประชุมระดับประเทศ ดังนั้น จึงไม่มีความเป็นกลางอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่เป็นองค์กรเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน แต่ไม่ได้พูดถึงความรุนแรงของกลุ่มคนเสื้อแดงเลย
นายตุลย์กล่าวเสริมว่า คำแถลงดังกล่าวเหมือนข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากมีการบิดเบือนข้อมูล เพื่อต้องการสร้างความเข้าใจผิด โดยนายแบรด รู้หรือไม่ว่า ช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว มีแต่กลุ่มคนเสื้อแดงที่ไปทำร้ายผู้อื่น ไม่ใช่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ แต่อย่างใด ฉะนั้น หากสังเกตดีๆ ความเคลื่อนไหวหรือคำแถลงบางประโยคคล้ายคลึงกับสิ่งที่ นายใจ อึ๊งภากรณ์ และนายจักรภพ เพ็ญแข ดังนั้น ครั้งนี้เป็นการเขียนสคริปต์ให้ต่างชาติพูดแน่นอน
น.ส.กมลพร กล่าวว่า คำแถลงนายแบรดยังระบุอีกว่า รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาประชาธิปไตยได้ โดยเฉพาะกฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งถือเป็นการริบรอนสิทธิการแสดงออกทางความคิดเห็น
นายปฏินันท์กล่าวประเด็นนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชอบพูดว่ารัฐบาลหรือประเทศไทยสองมาตรฐาน แต่ตัวเองไม่ยอมเลิกทำตัวเป็นเด็กเลี้ยงแกะ เพราะจริงๆ คำว่าสองมาตรฐาน ก็มีแต่ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทำเช่นนั้น ดังนั้นจึงได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อสองมาตรฐาน หรือเป็นเจ้าของต้นตำรับคำพูดนี้ เนื่องจากได้มีการสั่งคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวแบบสองมาตรฐาน โดยปลุกปั่นผู้คนให้ไปเขายายเที่ยงหรือเขาสอยดาว แต่ไม่ยอมไปทวงที่ดินไม่ชอบด้วยกฏหมายจากสนามกอล์ฟอัลไพน์ หรือที่เขาใหญ่ ซึ่งเคยไปจัดคอนเสริ์ต
นายชัชวาลย์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชอบตะแบงคำว่าสองมาตรฐาน โดยไม่ยอมบอกมาตรฐานตัวเองว่า ถ้าหากถูกตัดสินว่าผิดเมื่อไหร่จะต้องหนี ซึ่งมาตรฐานคนแบบนี้ต่างหากที่ถือว่าสองมาตรฐานของจริง