xs
xsm
sm
md
lg

เคาะข่าวริมโขง : บึ้ม!! ทบ. อนุภาพทำลายล้างรุนแรง จุดชนวนเปลี่ยนขั้ว ผบ.ทบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เคาะข่าวริมโขง : สะเทือนวงการ ทบ. ยิงเอ็ม 79 ใส่ห้องทำงาน "อนุพงษ์" หยามหน้ากองทัพ ด้าน "เสธ.ถ่อย" ผู้ต้องสงสัย ออกโรงปฏิเสธ พร้อมแนะให้ ผบ.ทบ. หอบลูกพาเมียหนี แฉ เกมนี้ปูทางจุดชนวนเปลี่ยนขั้วแม่ทัพ ก่อนศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ "นช.แม้ว"



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”  
 
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม มี น.ส.กมลพร วรกุล รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยมีวิทยากรรับเชิญ ได้แก่ นายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ นายมนตรี จอมพันธ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส และนายสำเริง คำพะอุ นักหนังสือพิมพ์อาวุโสระดับบรรณาธิการ

น.ส.กมลพร กล่าวเปิดประเด็นว่า กองทัพบกออกมายืนยันแล้วว่ามีการยิงเอ็ม 79 จริง แต่เป็นรอยตรงกำแพง ข้างๆกับห้องทำงาน ผบ.ทบ. โดยนักข่าวถามว่า ทำไมมีการปิดข่าว แต่ ทบ. ออกมาปฏิเสธ บอกว่าไม่ได้ปิด แต่ไม่มีใครถาม ผบ.ทบ. เรื่องนี้ ซึ่งหากสังคมยังไม่ตั้งข้อสงสัยก็ไม่ควรเปิดเผย เพราะจะทำให้เกิดความตื่นตระหนก

นายสำเริง กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกว่า เกิดเรื่องนี้ขึ้น แล้วใครเป็นคนบอกตั้งแต่แรกว่า หากออกมาจากกองทัพ จะกระทืบ เพราะฉะนั้นเวลานี้ ต้องยอมรับความจริงได้แล้วว่า สถานการณ์มันไม่ปกติ เนื่องจากมีการเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ วันนี้เมื่อผู้สื่อข่าวไปทำข่าว ทางกองทัพก็มากันพื้นที่สื่อมวลชน แล้วอย่างนี้จะนำเสนอข้อเท็จจริงได้อย่างไร

นายประพันธ์ กล่าวเสริมว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องปกปิดเอาไว้ จะมาบอกว่าเสียศักดิ์ศรี ทั้งที่มันเป็นความจริง โดยเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เหตุใดถึงยังปกปิดเอาไว้ เพราะการยิงเข้าไปในกองทัพ ไม่ว่าจะระเบิดจะตกที่ตรงไหน ก็ถือว่าเป็นการหยามหน้ากองทัพ ซึ่งประเทศไทย ตั้งแต่มีขึ้นมา เพิ่งเคยเกิดเช่นนี้ครั้งแรก ที่ยิงอาวุธเข้าไปในกองทัพบก ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าทหารจากเดิมที่เคยมีเกียรติวินัย แต่วันนี้เปลี่ยนแปลงไปหมด ทำให้กฏหมายทหารไม่ศักดิ์สิทธิ์

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายวัน แต่ทำไมถึงปิดข่าว ทั้งที่เรื่องจริงๆ มีการยิงสองแห่ง คือ กระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนผิดสังเกตว่า พล.อ.ประวิตร เป็นคนเซ็นคำสั่งพักราชการ เสธ.แดง แต่ทำไม เสธ.แดง ถึงไม่ผูกใจเจ็บ รมว.กลาโหม โดยเวลานี้เหมือนจะมีการสร้างการณ์เพื่อนำทางให้ทหารมาปฏิบัติการอะไรบางอย่าง

น.ส.กมลพร กล่าวว่า ล่าสุด เสธ.แดง ออกมาประกาศกร้าวว่า จะสู้แน่ ไม่มีถอย แต่ไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ยิง ทบ. ที่เกิดขึ้น นายประพันธ์ กล่าวประเด็นนี้ว่า น่าจะมองอีกมุมหนึ่ง คนที่อยากได้อำนาจพิเศษจากเรื่องนี้ มันก็มี เพราะเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีปัญหา เห็นแล้วว่า เกมในสภาไม่สามารถจะแก้ปัญหาให้ตัวเองได้ ส่วนอีกฝ่ายก็เช่นกัน กำลังพยายามจะช่วยเหลือน้องชายตัวเองให้พ้นผิดได้ ซึ่งงานนี้ อาจเกิดการสลับขั้วก็ได้ แต่คงไม่ถึงเก้าอี้นายกฯ

น.ส.กมลพร กล่าวว่า ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้บอกออกมาระบว่าการลอบยิงห้องทำงาน ผบ.ทบ. ทางพรรคเพื่อไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่า มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้น จึงยากที่คนนอกจะเข้าไปก่อเหตุ ดังนั้น จึงเชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อปูทางอำนาจให้มีการปฏิวัติ โดยเรื่องนี้ไม่ควรพุ่งเป้าว่าเป็นฝีมือพรรคเพื่อไทย เพราะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องสร้างสถานการณ์นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง

นายมนตรี กล่าวแย้งประเด็นนี้ว่า ลำพังเพียงแค่ยิงห้อง ผบ.ทบ. อย่างเดียว น้ำหนักมันยังไม่ได้ แต่ถ้าพรุ่งนี้หรือวันต่อๆไปเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับที่พักหรือที่ทำงานบุคคลสำคัญอีก มันก็เป็นไปได้ว่า เป็นการส่งสัญญาอะไรบางอย่าง ซึ่งสื่อมวลชนรู้สึกมาตลอดว่า ที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ได้ทำผลงานอะไรเลย นอกจากหายใจทิ้งไปวันๆ จึงต้องจับตามองไปที่เก้าอี้ ผบ.ทบ. ต่อไป แต่ถ้าจะบอกว่าจะนำสู่การปฏิวัติมันทำไม่ได้

นายประพันธ์ กล่าวว่า เสธ.แดง ออกมาเตือน ผบ.ทบ. ให้พาลูกและเมียหนี ตนคิดว่านี่คือการปูทางของสถานการณ์ที่ตรึงเครียด โดยถ้าหาก ผบ.ทบ. ยังปล่อยให้มีคนข่มขู่กองทัพเช่นนี้ ตนอยากถามว่า กองทัพจะพร้อมปกป้องชีวิตประชาชนได้อย่างไร เพราะแม้แต่ตัว ผบ.ทบ. ยังถูกลอบยิงห้องทำงาน นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำให้ ผบ.ทบ. ไปแจ้งความกับตำรวจ ทั้งที่เป็นถึงผู้นำทหาร

ช่วงต่อมา มีการสัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์ นายไชยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงประเด็นสถานการณ์การเมือง ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงถึงความมั่นคงของกองทัพว่าเวลานี้เหลือน้อยแล้ว โดยจากเดิมตนคิดว่า น่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนวันที่ 26 ก.พ. เพราะคิดว่าตอนนี้น่าจะเป็นแค่การอุ่นเครื่องของกลุ่มคนเสื้อแดงก่อน แต่พอมีกรณี ยิงเอ็ม 79 มันก็มองได้ว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างทหาร หรือถ้ามองอีกมุมก็อาจเป็นความขัดแย้งเรื่องการเมืองก็ได้ ซึ่งตนคิดว่า จริงๆแล้วอาจเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ เพราะโดนขนาดนี้แล้ว แต่ตัว ผบ.ทบ. ยังนิ่งเฉยอยู่ อย่างไรก็ตาม เวลานี้เกิดความสับสนวุ่นวาย อีกฝ่ายที่จะเสียแน่นอน คือ รัฐบาล ส่วนฝ่ายที่จะได้รับผลประโยชน์เต็มๆ คือ ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ

"ปัจจัยนี้ผมมองว่าคงไม่สามารถจะทำให้เห็นภาพการเข็นรถถังออกมาอีกครั้งได้ แต่ผมคิดว่า เรื่องนี้ทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือฝ่ายการเมือง น่าจะมองเกมล่วงหน้าไปแล้วว่า มีทหารบางกลุ่ม ที่อาจเห็นว่าน่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก่อนคดียึดทรัพย์ตัดสิน ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น ก้อาจเกิดเหตุการณ์บานปลาย จนทำให้รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ดังนั้น กรณีนี้ อาจจะเป็นการตกลงผลประโยชน์ที่ลงตัวระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ ฝ่ายทหารบางพวก ยังต้องการให้ออกมาเช่นนี้ เพื่อให้สถานการณ์การเมืองพาไปสู่การเปลี่ยนแปลง เพราะลำพังจะแทรกแซงอำนาจตรงๆ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์คงไม่ยอม
กำลังโหลดความคิดเห็น