กกต.ตั้งอนุกรรมการไต่สวน “ส.ว.วิชาญ” ผิดรัฐธรรมนูญ ม.265 ใน 30 วัน หลัง “เรืองไกร” ร้องเป็นอนุ กก.ใน สกว. พร้อมขยายเวลาไต่สวน 26 ส.ส.ถือหุ้นต้องห้ามไปอีก 30 วัน รวมทั้งขยายเวลาไต่สวน “ชวรัตน์” มีลูกเมียถือหุ้นซิโน-ไทยไปอีก 10 วัน และ ขยายเวลากรณี “บรรณวิทย์” ร้องยุบ 6 พรรค เหตุ “มาร์ค” เอาคนตัดสิทธิทางการเมืองร่วมหารือปรับ ครม.อีก 30 วัน
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.แถลงว่า ที่ประชุม กกต.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องขอให้ตรวจสอบนายวิชาญ เอกชัยศิริวัฒน์ ส.ว.สรรหา กระทำการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 265 (1) อันอาจเป็นเหตุให้สมาชิกภาพความเป็น ส.ว.สิ้นสุดลงตามมาตรา 119 (5) หรือไม่ กรณีไปมีชื่อเป็นอนุกรรมการจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล ในคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนจัดทำนโยบายระดับชาติเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางทะล สังกัดสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ที่อยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้คณะอนุกรรมการไต่สวนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
นอกจากนี้ยังมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาการไต่สวนกรณีนายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ ขอให้ตรวจสอบการกระทำของ ส.ส.26 ราย ที่ถือหุ้นต้องห้ามขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 48 ประกอบ 265 (1) และ 267 ออกไปอีก 30 วันนับแต่วันที่ 22 ม.ค.-21 ก.พ. และเห็นชอบให้ขยายเวลาการไต่สวนกรณีนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ขอให้ กกต.ใช้อำนาจตาม มาตรา 182 วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย สิ้นสุดลง ตามมาตรา 182 (7) เนื่องจากกระทำการต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ประกอบมาตรา 265 (2) โดยบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ภรรยาและบุตรของนายชวรัตน์ถือครองหุ้นอยู่ เข้ามาเป็นคู่สัญญาสัมปทานกับรัฐ ออกไปอีก 10 วันนับจากวันที่ 25 ม.ค.-3 ก.พ. รวมถึงเห็นชอบให้ขยายเวลาการไต่สวนกรณี พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย (ส.ป.ท.) และพวกขอให้ กกต.ตรวจสอบพรรคการเมือง และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เชิญผู้ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเข้าหารือประชุมเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บ้านพิษณุโลก อันอาจเป็นเหตุเข้าข่ายให้ยุบ 6 พรรคร่วมรัฐบาลออกไปอีก 30 วัน โดยจะครบกำหนดวันที่ 12 ก.พ.
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.แถลงว่า ที่ประชุม กกต.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องขอให้ตรวจสอบนายวิชาญ เอกชัยศิริวัฒน์ ส.ว.สรรหา กระทำการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 265 (1) อันอาจเป็นเหตุให้สมาชิกภาพความเป็น ส.ว.สิ้นสุดลงตามมาตรา 119 (5) หรือไม่ กรณีไปมีชื่อเป็นอนุกรรมการจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล ในคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนจัดทำนโยบายระดับชาติเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางทะล สังกัดสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ที่อยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้คณะอนุกรรมการไต่สวนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
นอกจากนี้ยังมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาการไต่สวนกรณีนายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ ขอให้ตรวจสอบการกระทำของ ส.ส.26 ราย ที่ถือหุ้นต้องห้ามขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 48 ประกอบ 265 (1) และ 267 ออกไปอีก 30 วันนับแต่วันที่ 22 ม.ค.-21 ก.พ. และเห็นชอบให้ขยายเวลาการไต่สวนกรณีนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ขอให้ กกต.ใช้อำนาจตาม มาตรา 182 วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย สิ้นสุดลง ตามมาตรา 182 (7) เนื่องจากกระทำการต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ประกอบมาตรา 265 (2) โดยบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ภรรยาและบุตรของนายชวรัตน์ถือครองหุ้นอยู่ เข้ามาเป็นคู่สัญญาสัมปทานกับรัฐ ออกไปอีก 10 วันนับจากวันที่ 25 ม.ค.-3 ก.พ. รวมถึงเห็นชอบให้ขยายเวลาการไต่สวนกรณี พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย (ส.ป.ท.) และพวกขอให้ กกต.ตรวจสอบพรรคการเมือง และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เชิญผู้ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเข้าหารือประชุมเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บ้านพิษณุโลก อันอาจเป็นเหตุเข้าข่ายให้ยุบ 6 พรรคร่วมรัฐบาลออกไปอีก 30 วัน โดยจะครบกำหนดวันที่ 12 ก.พ.
