xs
xsm
sm
md
lg

"นช.แม้ว" ปูคดี 7.6 หมื่นล้านซ้ำรอยซุกหุ้น หลอกใช้"เสื้อแดง"รอจังหวะรบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"นช.แม้ว"ขาลง!! อิทธิฤทธิ์เสื่อม เดินเกมยุทธศาสตร์ฝ่อ พลาดท่าเกือบแผนพัง เผย คดี 7.6 หมื่นล้าน "นช.แม้ว" หวังปูทางให้เหมือนซุกหุ้นภาคแรก จึงหลอกใช้ "เสื้อแดง" กดดัน เพื่อเล่นเกมนอกสภาอุ่นเครื่องก่อนรอสัญญาณรบจริง เชื่อ พ้นปีนี้ "นช.แม้ว" เสื่อมจากการกระทำ



 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว" 

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. วันอังคารที่ 19 ม.ค. มี นายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้มีการเชิญ นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาการเมืองภาคประชาชน และนายประพันธ์ คูณมี กรรมการพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยในรายการถึงสถานการณ์การเมืองที่ร้อนระอุ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามเคลื่อนไหวก่อนศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท

นายชัยวัฒน์ กล่าวถึงการต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ตนมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังเลือกเล่นเกมที่หลากหลาย แม้บางเรื่องจะเป็นการเคลื่อไหวเพื่อซื้อเวลา แต่ก็มีบางเรื่องที่ต้องการสะสมกำลัง เพื่อนำไปสู่เป้าหมาย โดยภาพรวมฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ เรียกว่าแพ้ทางยุทธศาสตร์ไปแล้ว ซึ่ง 3 ยุทธศาสตร์ที่ได้ดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นโลกล้อมประเทศ ก็ทำให้เสื่อมเสียความน่าเชื่อถือในระดับนานาชาติ หรือจะเป็นการสร้างกระแสการเมือง ที่ตอนนี้ก็ขาดหายไปแล้ว ยกเว้นเพียงกลยุทธ์การสร้างมวลชนที่มาจากชนบท ซึ่งต้องยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงมีอยู่

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สะสมไว้ในช่วง 6 ปีที่อยู่ในอำนาจ จึงทำให้เกิดกลุ่มเครือข่ายในระดับราชการ ดังนั้น เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องการเดินเกมเจรจาเพื่อต่อรอง โดยเฉพาะการเลือกโจมตีองคมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณต้องการทำเพื่อกระแสให้การเจรจาต่อรองเรื่องคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ซึ่งหากยังจำบทเรียนได้ ครั้งนี้จะมีการใช้วิธีการเหมือนตอนคดีซุกหุ้นภาค 1 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สร้างภาพว่ามีเจตนาดี ทำให้คนรุมเชื่อให้โอกาส แต่ตนอยากแย้งว่า หากจะใช้วิธีนี้อีก ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เนื่องจากตอนนี้หลอกคนไม่ได้แล้ว เพราะคนเห็นหมดแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือ ตัวปัญหาของชาติ

"เพื่อนผมที่เป็นนักธุรกิจใหญ่บอกว่า ทักษิณ มีคุณนามความดี แต่ตกใจกันหมด เพราะเป็นคุณนามความดีที่สามารถทำให้คนทั้งประเทศออกมาต่อต้านได้ เพราะฉะนั้น ถึงตอนนี้กลายเป็นเสือบ้า เสือดุขึ้นมาแล้ว ดังนั้น คุณทักษิณ ก็อยากทำให้คนเห็นอีกว่า ไม่ได้เป็นเสือที่เที่ยววิ่งไล่กัดคนอื่นไปทั่ว กัดสถาบัน กัดทำลายอะไรต่างๆ ก็ต้องอนุโลมให้กับเขา เขาจะเล่นได้ทุกรูปทุกแบบขึ้นมา ขณะเดียวกันก็สร้างความปั่นป่วน ใช้คนจำนวนน้อยที่ออกไป โดยผมมาไล่ดูจำนวน พอคุณวีระ หรือแกนนำคนเสื้อแดง อยากให้คนเห็นในเชิงเรื่องปริมาณ เหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลา หรือเหตุการณ์ที่ผ่านมา เพื่อกดดันด้วยจำนวนคน แต่ปรากฏว่า ชุมนุมจริงๆ คนมาร่วมน้อย อย่างที่เขายายเที่ยง คนมาร่วมไม่มาก"

นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ เอาจุดอ่อนมาไล่จุดแข็ง โดยเป็นวิธีแบบการเมืองสมัยเก่า จึงทำให้คนเห็นชัดเจนว่า ภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีแต่ความสกปรก มีการทุจริตคอรัปชั่น นอกจากนั้น ยังไปพาดพิงถึง พล.อ.เปรม และพล.อ.สุรยุทธ์ ที่มีภาพแข็งกว่า เพราะฉะนั้น การที่เอาจุดอ่อนไปกระทบของแข็ง มันจึงทำให้เสียหาย ดังนั้น ประเด็นที่บอกว่าจะใช้กำลังรุนแรงต่างๆ ตนให้น้ำหนักเรื่องนี้น้อย แต่ประเด็นหลักจริงๆ ตนมองไปที่ความพยายามจะทำให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ แล้วกดดันให้รัฐบาลยุบสภา โดยใช้มวลชนภายนอกช่วยกดดัน ซึ่งเกมนี้ สมุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะไม่เพียงพอ จึงต้องยืมมือคนในพรรคร่วมรัฐบาลในการเดินเกมนี้

"ตอนนี้กำลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าดูจากการเลือกตั้งที่สกลนคร หรือนครพนม ที่ชนะ แต่พอมามหาสารคามและปราจีนบุรี กลับเริ่มแพ้ ยิ่งถ้าเวลาผ่านไปจนถึงสิ้นปี หากยังไม่มีเหตุการณ์ยุบสภา หรือการเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะเสื่อมลงเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น เวลานี้รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลต้องประเมินสถานการณ์ตรงนี้ให้ออก ถึงแม้มีความคิดอยากแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องพ้นจากหลังปีนี้ไป กำลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะอ่อนลง เสบียงต่างๆ ก็จะลดลง โดยเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มออกอาการแล้ว" นายชัยวัฒน์ กล่าว

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ ภาพยิ่งชัด เมื่อมีการปล่อยข่าวว่า บรรดาส.ส.ฝ่ายค้าน จะเดินทางไปติวเข้มกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในศึกซักฟอกรัฐบาล ตนอยากถามว่าสติปัญหาของ ส.ส.พวกนี้อยู่ที่ไหน มันแสดงให้เห็นว่า ส.ส.พวกนี้ไม่มีอะไรเลย ถึงต้องไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ติวเข้ม ดังนั้น ภาพเช่นนี้จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ่ายแพ้เร็วขึ้นเรื่อยๆ โดยเรื่องนี้ขึ้นอยู่ที่รัฐบาลจะจัดการอย่างไร

นายประพันธ์ กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองและท่าที พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ปมของสถานการณ์บ้านเมืองที่จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในเชิงอำนาจ ตนคิดว่ามีอยู่ 3 จุด 1.การเคลื่อนไหวของกลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ และระบอบ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ใช้คนหลากหลายกลุ่ม ที่มาเสนอตัวขอรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นทหารแก่หรือทหารเก่า ที่คิดว่ามีศักยภาพและมีฤทธิ์เดช มาเสนอผลงานป่วนรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เอาไว้ หรือจะเป็นกลุ่มซ้ายที่มีความคิดแบบคอมมิวนิสต์ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เอาไว้ ไปรวมกับขบวนการล้มเจ้า เพื่อที่จะใช้คนพวกนี้ เปิดทางช่วยเหลือคดีความผิดของตัวเอง ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เลี้ยงไว้หมด หากใครเสนอตัวมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง

"ถ้าเมื่อไหร่ ทักษิณ มันได้ผลสำเร็จตามเป้าหมาย แม้กระทั่งกลุ่มคนเสื้อแดง ทักษิณ ก็คงมองเป็นเพียงเครื่องมือทางการเมือง มาช่วยแก้ปัญหาส่วนตัว ไม่ได้มีความรักหรือความจริงใจใดๆ ทั้งหมดนี้ คือ กระบวนการหนึ่งที่จะมาสร้างความปั่นป่วนให้แก่บ้านเมือง" นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มที่เป็นห่วงที่สุด คือ กลุ่มอำนาจใหม่ ที่ประกอบไปด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายเนวิน ชิดชอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญกับความขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้ารัฐบาล โดยความขัดแย้งอันนี้ มีตัวพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเชื้อไฟ ซึ่งตนไม่รู้ว่าคนในพรรคประชาธิปัตย์จะทนสภาพเช่นนี้ได้อีกนานหรือไม่ เพราะหลายคนอึดอัดกับสภาพนี้ ที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกลุ่มคนเหล่านี้ย่ำยี่ครอบงำ

"ผมเชื่อว่าถึงอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องการใช้สถานการณ์นำให้เกิดกระบวนการวิ่งเต้นหรือล็อบบี้ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของตัวเอง ก็เหมือนกับฆ่าเวลาให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวช่วงนี้ เพื่ออุ่นเครื่องก่อนสู้จริง โดยผมเชื่อว่า หากเป้าหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ มองแล้วว่ายากลำบาก นั่นคือ เวลาที่จะกดสัญญาณแบบชักธงในการระดมผู้คนไปก่อความรุนแรง ซึ่งงานนี้ นายอภิสิทธิ์ อาจจะต้องกลับบ้าน" นายประพันธ์ กล่าว
นายเติมศักดิ์ จารุปราณ
นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย
นายประพันธ์ คูณมี
กำลังโหลดความคิดเห็น