“รองนายกฯ สุเทพ” เชื่อ “เติ้ง” เดินสายรวมเสียงพรรคร่วมฯ-ฝ่ายค้าน ไม่ใช่เกมบีบ ปชป. อ้างทำความเข้าใจกันแล้ว ระบุที่ประชุมสัมมนาพรรคจังหวัดกระบี่ได้ข้อสรุปแก้ รธน. พร้อมหนุนแก้แค่ 2 ประเด็น ไม่ต้องทำประชามติ อ้างไม่กระทบต่อชีวิตประชาชนโดยตรง ย้ำจุดยืนไม่โยงแก้นิรโทษกรรม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวก่อนการประชุม ครม.ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังจากที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชิตไทย แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เตรียมเดินสายหารือพรรคร่วมรัฐบาลเป็นรายพรรคเพื่อแก้รัฐธรรมนูญว่า ไม่มีอะไรที่น่าแปลกใจ ท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญชัดเจนและได้บอกกับพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนว่าต้องการแก้ไขเพียงสองประเด็นคือ มาตรา 190 และระบบการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว และตนได้รับทราบท่าทีนี้เพื่อนำไปแจ้งให้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคได้หารือกันชัดเจนแล้ว และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จะให้คำตอบเป็นที่ชัดเจนก่อนที่จะเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการสมานฉันท์เสนอให้แก้ไข 6 ประเด็น แต่ทำไมตอนนี้จึงเหลือแค่ 2 ประเด็น นายสุเทพกล่าวว่า การเสนอ 6 ประเด็นในขณะนั้นหมายความว่าทุกพรรคการเมืองไม่ว่าฝ่ายค้านหรือพรรคร่วมรัฐบาลและวุฒิสมาชิกจะต้องเห็นชอบด้วยกัน และเมื่อเห็นชอบพร้อมกันก็เดินหน้าทำประชามติ แต่ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทย ประกาศไม่เข้าร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย จึงทำให้ 6 ประเด็นเดินหน้าไม่ได้ แต่การแก้ไขสองประเด็นเพื่อทำให้การติดต่องานระหว่างประเทศของรัฐบาลทำได้สะดวกขึ้นและทำให้การแบ่งเขตเลือกตั้งเล็กลง ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยก็พร้อมที่จะเดินหน้าตามแนวทางนี้ และไม่ต้องทำประชามติ เพราะไม่ใช่ประเด็นที่มีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุมสัมมนาพรรคประชาธิปัตย์ที่ จ.กระบี่ ระหว่างวันที่ 22-24 ม.ค.นี้จะได้ข้อสรุปหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนตั้งใจว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมดจะเกิดความชัดเจน เพื่อจะได้มีเวลาพูดคุยกับสมาชิกพรรคด้วยกันให้มากยิ่งขึ้นและจะมีคำตอบให้พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อกลับมากรุงเทพฯ เมื่อถามว่า การแก้ไขเพียง 2 ประเด็น วุฒิสภาจะไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยเพราะไม่นำไปสู่การสร้างความสมานฉันท์ได้อย่างแท้จริง นายสุเทพกล่าวว่า ทั้งหมดอยู่ที่เหตุผลและข้อเท็จจริง ที่จะต้องมีการอธิบายและทำความเข้าใจต่อไป แต่ภาระของตนคือต้องทำความชัดเจนให้เกิดขึ้นภายในพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้สมาชิกทุกคนได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะต้องออกมาเป็นมติของพรรค
เมื่อถามว่า หากมติพรรคไม่เห็นด้วยจะมีปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายุสเทพกล่าวว่า อย่าเพิ่งคาดการณ์ว่าพรรคจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพราะสุดท้ายแล้วพรรคมีความเห็นอย่างไรก็จะเปิดเผยต่อสื่อมวลชน
เมื่อถามว่า การเดินสายของนายบรรหารรวมไปถึงพรรคฝ่ายค้านด้วยเพื่อให้ได้เสียงสนับสนุน 114 เสียง จะเป็นการบีบพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นการบีบคั้นอะไร ตนได้พบและหารือกับนายบรรหารเป็นประจำต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันดี ไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา เพราะนายบรรหารได้แสดงท่าทีชัดเจนตั้งแต่ต้นและพยายามผลักดันให้มีการแก้ไข เมื่อถามว่า การแก้ไข 2 ประเด็นซึ่งเป็นประโยชน์ของฝ่ายการเมืองจะตอบคำถามของสังคมอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า หากจะแก้ไขทั้ง 6 ประเด็นก็มีเรื่องที่ต้องเปลี่ยนแปลงและมีผลกระทบต่อประชาชน ถือเป็นการแก้ใหญ่ ก็ต้องให้ทุกฝ่ายร่วมไม้ร่วมมือกันและให้ประชาชนเห็นชอบด้วย จึงนำไปสู่การทำประชามติตามที่ได้มีการเตรียมการไว้ เมื่อพรรคฝ่ายค้านไม่เอาด้วยก็ไม่สามารถเดินหน้าได้ ส่วนการแก้ไข 2 ประเด็นเป็นการแก้ไขเล็ก ไม่มีผลต่อชีวิตของประชาชนโดยตรง
เมื่อถามว่า การแก้ไขเพียง 2 ประเด็นจะนำไปสู่การสร้างความสมานฉันท์ได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องบอกว่าแนวคิดการสร้างความสมานฉันท์และนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนได้ข้อสรุป 6 ประเด็นเกิดจากการชุมนุมทางการเมือง จนทำให้เกิดความวุ่นวายในเดือน เม.ย.52 ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประเด็น ซึ่งมีการเรียกร้องจนนำไปสู่การหาทางออกได้เรียบร้อย แต่เมื่อฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยก็ไม่สามารถเดินตามแนวทางนั้นได้ เมื่อถามว่าหลายฝ่ายเป็นห่วงว่าต้นทางแก้เพียง 2 ประเด็น แต่สุดท้ายอาจมีการขยายนำไปสู่ประเด็นอื่น โดยเฉพาะการนิรโทษกรรม พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนคือ ไม่มีเรื่องนิรโทษกรรม
