รมต.แกะกล่องดี๊ด๊า!! เข้าถก ครม.ครั้งแรก จับตาดันมติ ก.ตร.ถกด้วย

ทำเนียบคึกแต่เช้า!! รัฐมนตรีใหม่ดี๊ด๊า เข้าห้องประชุมอย่างพร้อมเพรียง “สุเทพ” เชื่อ “ไตรรงค์” ทำ ครม.มีสีสัน ผ่าวิกฤตได้แน่ “ชินวรณ์” ลั่นขอรวมใจครูขับเคลื่อนนโยบาย สานต่องาน “จุรินทร์” - “สุชาติ” เข้ากระทรวงก่อน ข้าราชการแห่รับ เผยขอนำพระราชดำรัสในหลวงมาใช้ทำงาน จับตาวาระ ครม.ดันมติ ก.ตร.ถกด้วย

วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล บรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นไปอย่างคึกคัก โดยบรรดารัฐมนตรีใหม่ทั้ง 5 คน ต่างทยอยเดินทางมาถึงกันแล้ว โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจว่า ตนเชื่อว่านายไตรรงค์จะสามารถทำให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่มีความคึกคัก และสามารถช่วยเหลือวิกฤตเศรษฐกิจไทยให้ผ่านพ้นไปได้ เพราะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องเศรษฐกิจเป็นอย่างดี

ขณะที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า ตนขอยึดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการปฏิบัติหน้าที่ภารกิจแรก เมื่อเข้ารับตำแหน่ง คือการรวมใจข้าราชการครูในสังกัดทุกคนให้ได้ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ทั้งการขยายโอกาสทางการศึกษา การเพิ่มคุณภาพของหลักสูตรเพื่อประสิทธิภาพการศึกษา และการปฏิรูปการศึกษาอีกครั้ง และตนเชื่อว่าสามารถสานต่อนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ขณะนี้ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้อย่างแน่นอน

ด้าน นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ ได้เดินทางเข้ามาในกระทรวงคมนาคมก่อนโดยได้เข้าสักการะพระพุทธคมนาคมบพิตร และศาลพระภูมิประจำกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้ มีข้าราชการและพนักงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ให้การต้อนรับ และมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี โดยนายสุชาติเข้ามาดูห้องทำงาน และกล่าวว่า ไม่หนักใจ และพร้อมรับมอบนโยบายจาก นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นงานใหม่ หรืองานเดิม ก็พร้อมรับ โดยตนเคยศึกษางานด้านนี้บ้างแล้ว คงใช้เวลาประมาณ 15-30 วัน ในการศึกษางานและปรับตัว โดยตนจะนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้ในการทำงาน โดยจะตั้งใจทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต

ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (19 ม.ค.) ต้องจับตาว่าจะมีการหารือถึงมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่ให้ 3 นายตำรวจกลับเข้ารับข้าราชการหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นนายกรัฐมนตรีต้องการให้ส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้ความเห็นก่อน

ขณะที่วาระอื่นที่น่าสนใจ อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ เสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินกว่า 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือระยะปานกลางต่อประเทศเฮติ

ขณะที่ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ป.ป.ส.) เสนอขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ป.ป.ส. 6 คน ประกอบด้วย นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.ท.ประกาศ จากภาคเอกชน และนายไพศาล พืชมงคล

นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เสนอรายงานขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่ออีก 3 เดือนด้วย

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลแล้ว โดยจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือเจโทร มาพบเพื่อหารือและชี้แจงกรณีมาบตาพุด และช่วงบ่ายผู้แทนจากสมาคมค้ามันสำปะหลังไทยจะมาเข้าพบด้วย