xs
xsm
sm
md
lg

๙ ที่กล้าของ ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล
บทกวีแด่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ในวาระเปิดพรรคการเมืองใหม่

๙ ที่กล้าของ ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’

                -- ๑ --
หน้ากลมกลม ร่างก็กลม สูงสมส่วน
ดูไม่ผอม ไม่อ้วน แต่เอิบอิ่ม
ผิวขาวขาว สมค่าคน “แซ่ลิ้ม”
แย้มและยิ้มยามใครได้พบพาน
ยุรยาตรย่างก้าวดุจเจ้าพยัคฆ์
หยัดยืนท้าสง่าศักดิ์ดั่งคชสาร
เพ่งมองเรื่องราวรุดดุจเหยี่ยวทะยาน
ล้วงลึกข่าวฉาวฉานดั่งหนอนไช
เคี่ยวตำราประวัติศาสตร์มาสูงส่ง
แต่ทะนงเดินขึ้นหอคอยได้
จึงเลือกสื่อสานฝันอันอำไพ
ทุ่มกายใจให้สังคมอุดมการณ์

            -- ๒ --
เมื่อเชี่ยวสื่อจึงคิดสร้างสำนักสื่อ
จนร่ำลือเรื่องราวให้เล่าขาน
ในเชิงรุกปลุกปั้นชั้นเชิงชาญ
สร้างตำนานสื่อมวลชนนำประชา
จาก “ประชาธิปไตย” ได้สืบสาน
สู่อาณาจักร “ผู้จัดการ” แกร่งกล้า
ยึดอุดมการณ์มั่นเทิดจรรยา
จึงเป็นตักกะศิลาร่ำลือไกล
ในยุคโลกาภิวัตน์ จัดจ้าน
ก็ก้าวผ่านสานสื่อได้สมสมัย
เติมโลกไซเบอร์ล้ำนำเจียระไน
ยิ่งใหญ่ในนาม “เอเอสทีวี”

             -- ๓ --
คือ “ลูกจีนรักชาติ” ประกาศชัด
เทิดศาสน์-กษัตริย์ เหนือเกศี
“ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง” เปล่งวจี
ประกาศทั่วธรณีพร้อมพลีชีวิต
ผู้จุด “เทียนแห่งธรรม” นำประชา
เทียนต่อเทียนจรัสจ้าทุกดวงจิต
ก้อง “เพลงเทียนแห่งธรรม” ทุกสารทิศ
หลอมชนร่วมภารกิจกู้บ้านเมือง
ผู้ก่อเกิด “ปรากฏการณ์สนธิ”
ปัญญาผลิดอกผลจนลือเลื่อง
ปลุกผู้คนลุกขึ้นสู้อยู่นองเนือง
ต่อเนื่องเป็น “พันธมิตรฯ” พิชิตมาร

               -- ๔ --
คือ “พ่อหมอ” ดูมากมนต์เป็นคนขลัง
แท้มากคลังความรู้ลึกผนึกผสาน
ใช้ความจริงจับเค้าลางร่างเหตุการณ์
ทำนายทายทักทานสะท้านสะเทือน
จาก “เมืองไทยรายสัปดาห์” กล้าชี้แนะ
ยก “ลูกแกะหลงทาง” ถูกสร้างเงื่อน
รุมสะกำระห่ำบ้าและบิดเบือน
อย่างป่าเถื่อนถ่อยสถุลสุดรุนแรง
ต้อง “สัญจร” ร่อนเร่ระเหระหก
เหนือออกตกกลางใต้หลายหล้าแหล่ง
อาศัยสวน “ลุมพินี” ที่สำแดง
อาสัยแสง “ธรรมศาสตร์” สาดส่องทาง

            -- ๕ --
“ต้องแพ้เสียก่อนจึงจะชนะ”
คืออมตะวาทะที่อิงอ้าง
หนังสืออัตชีวประวัติวาง
แนวถากถางสร้างสังคมอุดมชัย
เคยต่อกรเผด็จการทหารกล้า
จึ่งพฤษภาทมิฬไม่เกรียมไหม้
แต่ตัวตนต้องหลบลี้ต้องหนีภัย
นำทุกสิ่งสะสมไว้ใช้เดิมพัน
และเคยถูกถล่มด้วยคมอาวุธ
จากเหล่าสารเลวสุดร่วมลงขัน
ดีที่ธรรมยังค้ำคุ้มคนครองธรรม์
แค่สาหัส ใช่สากรรจ์ขั้นตกตาย

             -- ๖ --
เมื่อโครตโกงโกงกินกันทั้งโครต
สมุนโฉดก็ฉ้อฉลอย่างล้นหลาย
ใครคัดค้านถูกฆ่าเข่นเช่นวัวควาย
แถมยังขายชาติได้ง่ายดายนัก
จึงเกิด “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ทุกถิ่นที่
ลุกขึ้นป้องปฐพีเป็นที่ประจักษ์
“กองทักธรรม” นำทัพร่วมพิทักษ์
ธงธรรมชักนำประชาเข้าฝ่าฟัน
“เอาประเทศไทยของเราคืนมา”
กัมปนาทประกาศกล้าอย่างเต็มกั้น
มหากาฬย์แห่งยุคอารยัน
ไล่เผ่าพันธุ์พวกอนารยชน

             -- ๗ --
คือต้นเสียง “ท้า.า.า..ก..ษิณ ออกไป”
นำขับไล่ทรราชอุบาทว์พ้น
กระหึ่มดังทั้งแผ่นดินได้ยินยล
แถมยังพ่นบนมือถืออื้ออึงไป
“เราจะสู้เพื่อในหลวง” ของปวงราษฎร์
นำทั้งชาติประกาศแจ้งแถลงไข
ให้เสาหลักปักค้ำไทยให้คงไท
คงมั่นไว้ชั่วลูกหลานอย่าร้างรา
คือผู้นำถือธรรมกระทำชัด
เป็นต้นแบบปฏิบัติอุบัติจ้า
ดั่งที่เปรย “เงยหน้าไม่อายฟ้า”
แลถึงครา “ก้มหน้าไม่อายดิน”

            -- ๘ --
ในท่ามกลางการเมืองเก่าที่เน่าเฟะ
โกงกันเละกินกันเลอะเปอะไปสิ้น
นักการเมืองทำเขื่องขู่อยู่อาจิณ
ข้าราชการร่วมกังฉินอย่างยินยอม
จึงเกิด “การเมืองใหม่” ไล่ของเก่า
ล้างน้ำเน่าฉาวโฉ่ ให้โอ่หอม
ผู้นำธรรมชำระคราบความจอมปลอม
แล้วหลอมผู้ดีพร้อมเข้าสภาฯ
“ซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญ ทำงานเป็น”
คือคุณสมบัติเฟ้นคนเห็นค่า
ยอมเปลื้องตนเปลืองตัวเกลือกกลั้วทา
วาดหวังยกจิตวิญญาประชาไทย

             -- ๙ --
จากนักประวัติศาสตร์สู่สร้างประวัติศาสตร์
มุ่งหยุดมาร-การเมืองอุบาทว์บ้าเบื่อใบ้
ตัดวงจร “สี่วินาทีประชาธิปไตย”
ในนาม “พรรคการเมืองใหม่” ของมวลประชา
จากเชื้อสายเจ้าของสื่อสู่สร้างสื่อ
มุ่งมั่นถือ “ตะเกียงธรรม” ส่องนำหล้า
จนร่ำลือคือ “โมกุล” หมุนโลกา
ปั้น “ค่ายสื่อแห่งศรัทธามหาชน”
จากเลือดทัพมังกรถิ่นสุโขทัย
บ่มรู้ใต้ปีกอินทรีย์มิสับสน
“ภูมิปัญญาตะวันออก” ตอกตรึงตน
ตอกย้ำความเป็นคนของสังคม
-------------------------------------
ตอกตรึงใจไทยท้นท่วมแผ่นดิน
-------------------------------------
ตอกต่อท้นข้นเข้มเต็มแผ่นดิน

         ภู-ติ-รัก

       ๑๘ / ๑ / ๒๕๕๓

กำลังโหลดความคิดเห็น