xs
xsm
sm
md
lg

ทีมกฎหมาย “เทพหัสดิน” แถลงซีวิค “แพรวา” ไม่ได้ชนรถตู้ - แนะ มธ.พิจารณาให้ดีก่อนฟ้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทีมกฎหมายครอบครัว เทพหัสดิน ณ อยุธยา ออกแถลงการณ์ อ้างที่ผ่านมาข่าวคลาดเคลื่อน ความจริงแล้วซีวิคไม่ได้ชนรถตู้ ไม่เช่นนั้น “แพรวา” คงตายแล้ว เพราะรถเก๋งเล็กกว่ารถตู้มาก อีกทั้งไม่ปรากฏว่ามีสีของซีวิคไปติดที่รถตู้ เผย ผู้เสียหายบางคนเรียกร้องเงินสูงเกินกว่ากำลังครอบครัวจะปฏิบัติได้ วอนสังคมขอความเป็นธรรม พร้อมฝากถึง “ทีมกฎหมายธรรมศาสตร์” พิจารณาคดีให้รอบคอบก่อนฟ้อง

วานนี้ (25 ก.พ.)  ทีมกฎหมายครอบครัว เทพหัสดิน ณ อยุธยา ส่งแถลงการณ์ในฐานะตัวแทนของครอบครัวของผู้ต้องหาในคดีอุบัติเหตุบนทางยกระดับ อุตราภิมุข ว่า ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงต่อกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจกับทุกท่านที่ต้องสูญเสียผู้เป็นที่รักอีกครั้งหนึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาทางครอบครัวของผู้ต้องหานั้น ไม่ได้ออกมาให้ข่าวต่อสื่อมวลชนมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ในแง่ของมนุษยธรรม ทางครอบครัวของผู้ต้องหาก็พยายามที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น โดยไม่คำนึงถึงว่าใครจะผิดถูก เพราะเป็นที่ทราบชัดเจนว่า อุบัติเหตุดังกล่าวก่อให้เกิดความสูญเสียเป็นอันมาก และจะเป็นอุทาหรณ์เพื่อเตือนสติกับบุคคลทั่วไปที่ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งเป็นกรณีศึกษาที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะได้ศึกษาและหาทางป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมจราจร และบุคคลผู้ใช้ถนนสาธารณะ

แต่ในส่วนของกระบวนการตามกฎหมายนั้น ขอเรียนว่า เราได้ให้ข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ผู้ต้องหาก็ได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ตนมิได้เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารดังที่เป็นข่าว แต่เพราะต้องหักหลบรถตู้โดยสารที่เปลี่ยนเส้นทางกะทันหันเข้ามาในช่องทางที่ผู้ต้องหานั้นขับรถอยู่ จนทำให้รถที่ผู้ต้องหาขับขี่มานั้นเสียหลักชนเข้ากับกำแพงกั้นขอบทาง เป็นเหตุให้รถยนต์เก๋งซีวิคได้รับความเสียหาย และตัวผู้ต้องหาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

ทีมกฎหมายขอเรียนว่า อุบัติเหตุดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่พึงประสงค์และทุกคนไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และผู้ต้องหาก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ส่วนบิดา และ มารดาของผู้ต้องหาก็ได้ระมัดระวังป้องกันมิให้ผู้ต้องหาขับรถมาตลอด จนกระทั่งต้องจำหน่ายรถยนต์ที่มีอยู่ในบ้านออกไปอีกหนึ่งคัน คงเหลือไว้สำหรับบิดาใช้ 1 คัน และ มารดาอีก 1 คัน เท่านั้น ส่วนการที่ผู้ต้องหาไปใช้รถยนต์ของบุคคลอื่นมาขับนั้น ทางครอบครัวเองก็ไม่เคยทราบมาก่อน ซึ่งหากรู้ก็คงต้องห้ามปราม และลงโทษอย่างแน่นอน

ส่วนข้อเท็จจริงที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ยังมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏทางสื่อ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งจากหลักฐานที่มีอยู่สามารถยืนยันได้ว่าไม่มีร่องรอยการชนเข้าไปด้านหลังเต็มๆ อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ หรือที่เรียกว่า ชนเข้าอย่างจังจนเป็นเหตุให้รถตู้โดยสารเสียหลัก ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้น ผู้ต้องหาย่อมต้องเสียชีวิตไปแล้วอย่างแน่นอน เพราะรถยนต์เก๋งซีวิค มีน้ำหนัก และขนาดเล็กกว่ารถตู้โดยสารมาก และหากมีการชนอย่างที่ว่านั้นจริง จะต้องปรากฏร่องรอยการชนบนรถทั้งสองคันอย่างแน่นอน

อีกทั้งการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวมีข้อน่าสังเกตหลายประการ โดยเฉพาะการขับรถตู้โดยสาร เพราะเหตุใดจึงขับรถในช่องทางด้านขวา ทั้งที่เป็นรถสาธารณะ หรือรวมทั้งเพราะเหตุใดต้องขับคร่อมเลน และปรับเปลี่ยนช่องทางโดยกะทันหัน รวมทั้งจากการตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้น ก็ไม่ปรากฏว่าสีของรถยนต์เก๋งซีวิค ไปปรากฏบนส่วนหนึ่งส่วนใดของรถตู้ และในทางกลับกัน สีของรถตู้ก็ไม่ปรากฏบนตัวถังของรถยนต์เก๋งซีวิค ซึ่งสิ่งเหล่านี้ปรากฏชัดจากหลักฐานที่มีอยู่บนตัวถังรถทั้งสองคัน และจนถึงปัจจุบันกองพิสูจน์หลักฐานก็ยังไม่ได้ลงความเห็นชัดเจนต่อการเกิด อุบัติเหตุดังกล่าว ว่ามีการเฉี่ยวชนกันอย่างแท้จริงหรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงเหล่านี้ คงต้องนำไปพิสูจน์กันในชั้นพิจารณาคดีของศาลต่อไป

ในส่วนของครอบครัวผู้ต้องหาในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น ไม่มีโอกาสที่จะร้องขอความเห็นใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น เพราะข่าวที่ออกมาทางสื่อมวลชนและสื่อทางอินเทอร์เน็ตต่างๆ ทำให้ผู้คนทั่วไปได้พิพากษา ว่า ผู้ต้องหามีความผิดล่วงหน้าไปแล้ว ทั้งที่ศาลยังไม่ได้มีการพิจารณาพิพากษาตัดสินคดีแต่อย่างใด และข้อเท็จจริงก็ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น รวมทั้งการออกมาให้ข่าวของบุคคลหลายคนต่อสื่อมวลชนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ก่อให้เกิดผลกระทบทางจิตใจของผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กและกระทบต่อครอบครัวของ ผู้ต้องหาเป็นอันมาก

ทีมกฎหมายขอเรียนว่า การดำเนินคดีนั้นเป็นสิทธิของผู้เสียหายที่อยู่ภายใต้กรอบบทบัญญัติของกฎหมาย และเป็นเรื่องที่ศาลจะต้องพิจารณาในเนื้อหาของคดี แต่อย่างไรก็ตาม ก็อยากร้องขอไปยังทุกท่าน ให้พิจารณาให้รอบคอบถึงข้อเท็จจริงและเหตุผลในการดำเนินคดี และขอให้ดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมายเท่านั้น รวมทั้งขอให้ระมัดระวังในการให้ข่าวต่อสื่อมวลชนให้ตรงกับความเป็นจริงด้วย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวท่านและทางฝ่ายของผู้ต้องหา

ทีมกฎหมายขอเรียนไปยังทุกท่าน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายของผู้ต้องหา เพราะที่ผ่านมา ทางฝ่ายผู้ต้องหาถูกประณามถึงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายผู้ต้องหาได้พยายามดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างดีที่สุดตามกำลังความสามารถเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งการติดต่อขอพบผู้ได้รับบาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งบางท่านก็ได้รับแจ้งว่า ไม่สะดวกที่จะให้เข้าพบ บางท่านก็ได้เข้าพบและเจรจา โดยบางท่านได้เสนอข้อเรียกร้องเป็นจำนวนเงินที่สูงมากเกินกว่ากำลังความสามารถที่ครอบครัวจะพึงปฏิบัติได้ ทั้งที่ข้อเท็จจริงบางเรื่องยังไม่ได้สรุปชัดเจนและศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษา จึงอยากจะร้องขอให้ทุกท่านได้พิจารณา รวมทั้งทีมงานด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวให้รอบคอบก่อนดำเนินการ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

สุดท้ายนี้ ทีมกฎหมายขอขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณารับฟังข้อเท็จจริง และหวังว่า ทุกท่านคงจะเข้าใจเนื้อหา รวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้น และโปรดให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายผู้ต้องหาด้วย จนกว่าเรื่องดังกล่าวจะได้รับการพิสูจน์ความจริงต่อไปกราบเรียนทุกท่านมา ด้วยความเคารพ ทีมกฎหมายครอบครัว เทพหัสดิน ณ อยุธยา
กำลังโหลดความคิดเห็น