“มาร์ค” พร้อมช่วยเหลือคนไทยใน “เฮติ” หลังธรณีวิปโยค “มาร์ค” แนะเปิดเสรี นำเข้า “แพทย์ต่างชาติ” รักษาคนป่วยต่างชาติยากจนในไทย พร้อมแนะเปิดเสรี นำเข้า “แพทย์ต่างชาติ” รักษาคนป่วยต่างชาติยากจนในไทย เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์
วันนี้ (14 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการให้ความช่วยเหลือคนไทย หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นที่สาธารณรัฐเฮติ เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ว่า เท่าที่ทราบมีคนไทย 2 คน แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งการให้ความช่วยเหลือก็คงต้องรอรายละเอียดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน
นายอภิสิทธิ์ยังได้เปิดโอกาสให้ ศาสตราจารย์ ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน อุปนายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น นำรองศาสตราจารย์ ดร.สุมนต์ สกลไชย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะเข้าพบ เพื่อชี้แจงโครงการพัฒนาโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ให้เป็นศูนย์กลางการบริการรักษาพยาบาลของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้กล่าวรายงานโดยสรุปว่า โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันมีจำนวนเตียง 1,100 เตียง ให้การรักษาผู้ป่วยนอกปีละ 800,000 คน ผู้ป่วยในปีละ 50,000 คน มีอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยเฉลี่ยปีละ 8-10%
โดยขีดความสามารถในการรักษาผู้ป่วย ช่วยบรรเทาผู้ป่วยในการเข้าไปรักษาในกรุงเทพมหานคร สนับสนุนให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์กลางการพัฒนาการศึกษาทางการแพทย์และสาธารณสุขในระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ตามแนวเศรษฐกิจออก-ตก รวมทั้งมีส่วนช่วยรักษาพยาบาลผู้ป่วยจากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาลของ เอเชีย
นายอภิสิทธิ์ ได้สอบถามข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับโครงการพัฒนาโรงพยาบาลศรีนครินทร์ฯ พร้อมกล่าวถึงการออกนอกระบบราชการของโรงพยาบาลว่า หากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ฯ จะดำเนินการออกนอกระบบราชการก็จะช่วยให้มีการบริหารจัดการคล่องตัวขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่าง โรงพยาบาลบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ที่ออกนอกระบบราชการไปแล้วและมีการดำเนินงานบริหารจัดการที่คล่องตัวมาก
นายอภิสิทธิ์ได้กล่าวเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาบุคลากรแพทย์ที่ขาดแคลนของโรงพยาบาลรัฐว่า เนื่องจากภาคเอกชนดึงบุคลากรแพทย์จากภาครัฐไปทำงานให้กับโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากว่า ควรมีการเปิดเสรีให้มีการนำแพทย์ชาวต่างชาติ เข้ามาให้บริการรักษาเฉพาะผู้ป่วยชาวต่างชาติในไทยได้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์ได้ระดับหนึ่ง และจะทำให้เกิดการแข่งขันการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ พร้อมกับช่วยลดต้นทุนให้กับโรงพยาบาล
ทั้งนี้ แนวคิดดังกล่าวก็ต้องได้รับการยอมรับจากบุคลากรแพทย์ของไทยด้วย สำหรับในส่วนการขอสนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการพัฒนาโรงพยาบาลฯ จากรัฐบาล ขอให้ทางคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ทำคำของบประมาณเสนอมายังรัฐบาล เพื่อพิจารณาการบริหารจัดการงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการต่อไป
โครงการพัฒนาโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้เป็นศูนย์กลางการบริการรักษาพยาบาลของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง มีระยะเวลาดำเนินการ ระหว่างปี 2553-2556 โดยจะดำเนินการโครงการย่อย 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างอาคารเพื่อขยายและรองรับการให้บริการผู้ป่วยและการวิจัยทาง การแพทย์ จำนวน 2 อาคาร โครงการศูนย์วิจัยเฉพาะทางชั้นเลิศและจัดหาครุภัณฑ์เพื่อพัฒนาศูนย์การแพทย์ ชั้นเลิศเฉพาะทาง และโครงการจัดหาและพัฒนาบุคลากร ใช้งบประมาณดำเนินการรวม 6,243.20 ล้านบาท แบ่งเป็นของบประมาณแผ่นดิน 2,878 ล้านบาท เงินรายได้ของคณะแพทยศาสตร์ฯ 2,805.20 ล้านบาท และงบประมาณสมทบจากการบริจาค 560 ล้านบาท เมื่อดำเนินการโครงการแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถให้บริการเต็มรูปแบบได้ในปี 2557 จะสามารถเพิ่มศักยภาพการให้บริการรักษาพยาบาลมากขึ้น ขยายจำนวนการรักษาผู้ป่วยในเป็นปีละ 60,000 ราย ผู้ป่วยนอกเป็นปีละ 1,300,000 ราย และผู้ป่วยจากประเทศเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็นปีละ 21,000 ราย รวมทั้งพัฒนาเป็นโรงเรียนแพทย์ชั้นนำของประเทศ ผลิตบัณฑิตแพทย์และแพทย์เฉพาะทาง จำนวนไม่ต่ำกว่า 3,000 คนต่อปี และสนับสนุนยุทธศาสตร์ของประเทศในการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับกลุ่ม ประเทศเพื่อนบ้าน โดยสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการศึกษา วิจัยและบริการรักษาพยาบาลด้วย