“พัลลภ” โหมโรงชี้ “สุรยุทธ์” ไม่คืนเขายายเที่ยง จุดชนวนความขัดแย้ง อ้าง 2 มาตรฐานพ่วงคดียึดทรัพย์ “แม้ว” นำไปสู่รุนแรง ฟันธงเกมแตกหักไม่เกินปีนี้ เชื่อ “แม้ว” จะกลับมาในสถานการณ์พิเศษ อัด ผบ.ทบ.2 มาตรฐาน สั่งพักราชการ เสธ.แดง ฟังไม่ขึ้น ลั่นพร้อมเป็นหัวหน้ากองโจรร่วม 500 ทหารพรานเสื้อแดงลุย
วันนี้ (13 ม.ค.) พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ปฏิเสธคืนที่ดินเขายายเที่ยง โดยจะรอให้คณะกรรมการสอบเขายายเที่ยงพิจารณาแล้วเสร็จว่า พล.อ.สุรยุทธ์ สามารถตัดสินใจได้อยู่แล้วว่าจะคืนที่ดินเขายายเที่ยงหรือไม่ โดยไม่จำเป็นต้องรอคณะกรรมการสอบสวน โดยเฉพาะในฐานะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นประธานมูลนิธพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็ควรแสดงความรับผิดชอบโดยคืนที่ดิน ดังนั้น หาก พล.อ.สุรยุทธ์ ยื้อเวลาคืนที่ดินเขายายเที่ยงออกไป บอกได้เลยว่ามีแต่ผลเสีย เพราะเคยเป็นถึงอดีตนายกฯ อดีต ผบ.ทบ. โดยเฉพาะเป็นถึงองคมนตรีซึ่งควรจะรักษาเกียรติยศนี้เอาไว้
เมื่อถามว่ามองว่าการที่ พล.อ.สุรยุทธ์ อ้างคำยกฟ้องของอัยการมองว่ามีน้ำหนักหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ไม่มีน้ำหนัก หากเป็นตนจะคืนที่ดินตั้งแต่สมัยที่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีต สนช.ได้แถลงในสภาฯ เพราะถ้า พล.อ.สุรยุทธ์ คืนที่ดินให้กับรัฐก็จะทำให้กระแสสังคมดีขึ้นและสามารถรักษาภาพของท่านได้ และวันนี้ท่านเป็นองคมนตรี สมบัติที่ได้ก็เป็นสมบัตินอกกาย ท่านน่าจะหาที่อื่นได้ดีกว่านี้
เมื่อถามว่า มีการมองกันว่าเหตุผลที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ยังไม่คืนที่ดินว่า อาจเป็นเพราะไม่ต้องการถูกกดดันจากกลุ่มเสื้อแดง พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า “เขาคงอยากได้ แต่ผมก็ไม่รู้ คงต้องไปถามท่านเอง แต่เรื่องเกิดขึ้นมาตั้งแต่ น.ต.ประสงค์ ออกมาอภิปรายในสภาฯ ในส่วนเสื้อแดงเพียงเอาข้อมูล เพราะเห็นว่าเป็นกรณี 2 มาตราฐานชัดเจนจาก น.ต.ประสงค์ ดำเนินการในเรื่องของข้อเท็จจริงเท่านั้น ส่วนผมรู้แค่ว่าคุณหญิงท่านรับโอนมาจากคุณสุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ เท่านั้น”
เมื่อถามว่ากลุ่มเสื้อแดงจะนำประเด็นเขายายเที่ยงจะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า กรณีเขายายเที่ยงเป็นกรณีของเป็นการเลือกปฏิบัติสองมาตราฐาน ดังนั้นน่าเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความรุนแรงได้
เมื่อถามว่า กรณีที่ศาลฎีกาจะนัดฟังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ในวันที่ 26 ม.ค. ซึ่งกลุ่มเสื้อแดงก็ประกาศที่จะเลื่อนการชุมนุมใหญ่ให้เกิดขึ้น 23-24 ม.ค.นี้ ถือเป็นการเร่งเดินเกมของกลุ่มคนเสื้อแดงก่อนรู้ผลคดีหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เชื่อว่ากรณียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นชนวนสำคัญในการนำไปสู่ความรุนแรง เพราะควรต้องแยกทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาจากทรัพย์ที่มีอยู่ดั้งเดิม และของเครือญาติไม่ใช่ไปยึดทั้งหมด 7.6 หมื่นล้านบาท
เมื่อถามว่าได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ถึงการเคลื่อนไหวหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ได้คุยล่าสุดในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปกัมพูชา ท่านโทร.มาบอกว่า “พี่ มันจะเอาเอฟ 16 เล่นผม ส่วนเรื่องคดียึดทรัพย์ท่าน ก็คงรอดู แต่เชื่อว่าท่านคงไม่เครียดแต่คงมีความรู้สึกเฮิร์ตนิดหน่อยเพราะเป็นเงินที่ท่านหามา แต่เรื่องที่มีการมองว่ากลุ่มเสื้อแดงเร่งปิดปิดเกมหรือแตกหัก คงไม่ได้มีการแตกหักในปีนี้ เรื่องนี้ไม่อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณฝ่ายเดียว ถ้าถามผมเรื่องการเคลื่อนไหว ผมไม่ทราบว่าท่านใช้เงินของท่านเคลื่อนไหวหรือเปล่า เพราะผมไปหาท่านที่ดูไบ 2 ครั้ง ได้รองเท้ากอล์ฟมาคู่เดียว แล้วก็มามีข่าวว่าผมได้เงิน 6 พันล้าน จากการไปช่วยเลือกตั้งซ่อมที่มหาสารคาม”
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคยพูดว่าจะกลับมาประเทศไทยภายใต้เงื่อนไขที่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ถ้ากลับมาเมื่อมีการเลือกตั้ง คงเป็นเป็นไปไม่ได้ แต่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาภายใต้สถานการณ์พิเศษ
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.สั่งพักราชการ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ต้องถามว่ากองทัพใช้พิจารณาตามระเบียบของกองทัพ หรือใช้หลัก 2 มาตราฐาน เพราะแค่ข้อกล่าวหาว่า พล.ต.ขัตตยะ ว่าหนีราชการไปต่างประเทศคงฟังไม่ขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังไปต่างประเทศตีกอล์ฟที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเช้าวันนี้ 13 มค.ตนได้ปลอบ เสธ.แดงไปว่า ขนาดตนเคยถูกข้อหากบฏลี้ภัยไป 5 ปี กลับมายังได้ยศเป็นพลเอก แต่ เสธ.แดง ยศยังแค่พลตรีและไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องกังวล
เมื่อถามว่า เสธแดง.ประกาศว่าหลังจากนี้จะใช้สงครามกองโจรในการต่อสู้กับรัฐบาล พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า “ถ้าเสธ.แดง จะทำสงครามกองโจร ก็คงต้องมาปรึกษาผม หัวหน้ากองโจรก่อน เพราะผมเป็นผู้มีประสบการณ์การรบทั้งนอกเครื่องแบบ เพราะแต่ละยุทธวิธีไม่เหมือนกัน ทราบว่าในส่วนของทหารพรานปักธงชัยซึ่งจะมาร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มเสื้อแดงครั้งนี้จะมีจำนวนมากกว่า 500 คน เพราะเขารู้สึกว่าประเทศไม่มีความยุติธรรม”