ปรับครม.เริ่มรวน !?

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

00 ทำท่าไม่ลงตัวกันในพรรคภูมิใจไทยระหว่างก๊วน “สมศักดิ์-เนวิน” ที่ตอนแรกชื่อของ “ประศาสตร์ ทองปากน้ำ” เข้ามาเพียงคนเดียว แต่เอาเข้าจริงมีลูกลังเลทั้งจาก “ลูกพี่” สายตรงเข้าของโควตาอย่างสมศักดิ์ เพราะงานนี้มีคนเสนอตัวเข้ามาหลายคนพร้อมกัน ที่สำคัญก็ต้องมีการต่อรองตัดหน้ากันว่าใครจะให้ “เท่าไหร่” รวมไปถึงการฉกฉวยโอกาสเข้ามาแทรกขอแสดงความคิดเห็นของกลุ่ม “เสี่ยห้อย” ก็ยิ่งทำให้ชวนปวดหัวพอสมควร แต่ถึงที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าใครมีข้อเสนอที่ดีกว่าก็ได้ไป

00 สำหรับประชาธิปัตย์ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยแล้ว โดยรวมถือว่าไร้แรงกระเพื่อมจนเกินพอดี เพราะทุกอย่างตัดสินกันด้วยระบบพรรคมีการโหวตอย่างเท่าเทียม แม้ก่อนหน้านั้นจะมีรายการล็อบบี้กันบ้างก็ถือว่าไม่ผิดกติกา เพราะต่างฝ่ายต่างก็ทำเหมือนกัน แต่เมื่อนับมือกันแล้วใครชนะก็เอาไป

00 สรุปกันอีกที ถ้ามองกันในแง่ตำแหน่งสำหรับ กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ที่ต้องลุกจากเก้าอี้รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ อาจะไม่หรูหรา แต่การไปนั่งตำแหน่งเลขาธิการนายกฯก็ถือว่าไม่ธรรมดา อย่าลืมว่าสมัยก่อนเขามักเรียกขานกันว่า “นายกฯ น้อย” ขึ้นอยู่กับว่ารู้จักใช้ให้เป็นแค่ไหน ขออย่างเดียวอย่าเดินซ้ำรอย นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ที่บ่มิไก๊ ก็แล้วกัน

00 คราวนี้คงได้สวมชุดขาวสมใจเสียทีสำหรับ “ดร.สามสี” เพราะรอจนเกือบเหงือกแห้ง และคราวนี้ก็น่าจะเป็นการทิ้งทวนครั้งสุดท้ายในชีวิต พ้นไปจากนี้ก็ถือว่า “นอนตาหลับ” แล้ว ดังนั้นหากทบทวนกันอีกที การปรับครม.ครั้งนี้ก็มีแค่ 4 ตำแหน่งตามที่นายกฯอภิสิทธิ์ เคยระบุเอาไว้ ที่เหลืออีก 3 ตำแหน่ง คือ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นรมว.สาธารณสุข ชินวรณ์ บุญยเกียรติ เป็น รมว.ศึกษาฯ และอีกตำแหน่งมาแทน มานิต นพอมรบดี ในเก้าอี้ รมช.สาธารณสุข

00 เพราะถ้าขืนเขย่ามากกว่านี้ก็มีสิทธิ์กระเพื่อมบานปลายจนคุมไม่อยู่ ในสถานการณ์เข้าด้ายเข้าเข็มเผชิญศึกรอบด้าน สู้ปิดเกมกันแบบรวบรัดเอาไว้ก่อน ที่เหลือค่อยว่ากันไปตามสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังศึกซักฟอกที่จะต้องรออีกขยักหนึ่ง ก็ยังไม่สายเกินไป

00 ทำไปทำมาพวก “แดงบนเขายายเที่ยง” ทำท่าจะกลายเป็นการทำลายมวลชนคนกันเองเสียแหล่ว เพราะถ้าคิดให้ดี การมุ่งเล่นงาน “สุรยุทธ์ จุลานนท์” เพื่อกระทบชิ่งให้สะเทือนไปถึง “ฟ้า” อาจได้ไม่คุ้มเสีย เพราะผลสะท้อนที่จะดีดกลับจะตามมาหลายอย่าง อย่างแรกก็ย่อมเสียมวลชนบนเขายายเที่ยง เพราะต้องไม่ลืมว่าหากให้คืนที่ดินของ “บิ๊กแอ้ด” ก็ต้องคืนของคนอื่นอีกนับร้อยแปลงด้วย จะแยกเป็นสองมาตรฐานไม่ได้

00 กรณีของ สุรยุทธ์ แม้ในที่สุดแล้วก็ต้องคืนที่ดินแน่นอน แต่ปัญหาก็คือ เมื่อกรมป่าไม้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบใน 60 วัน ก็ต้องดำเนินการเหมือนกัน ทีนี้แหละคุณเอ๋ยจะมีรายการโวยวายเรียกร้องให้ดำเนินการรื้อกันหมดทั่วประเทศอีกนับล้านแปลง นับล้านคน และในจำนวนนั้นก็ย่อมมีทั้งนายทุนพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงระดับรากหญ้าปนอยู่ไม่น้อย ก็คิดหาทางลงเอาไว้ล่วงหน้าให้ดีก็แล้วกัน

00 แต่สำหรับ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่ยืนยันล่าสุดว่า ยังไม่คืนที่ดินแปลงดังกล่าว ก็ต้องบอกตามตรงว่า “เขี้ยว” ไปหน่อย และถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย เพราะมันจะกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ !!