เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 เสร็จเรียบร้อยกันไปแล้วสำหรับตัวบุคคลในโควตาพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมานั่งเก้าอี้ รมว.สาธารณสุขแทน วิทยา แก้วภราดัย หลังจากโชว์สปิริตลาออก แม้ว่าอาจมีการประหลาดใจเล็กๆ กับการโยก “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ไปคุมกระทรวงคุณหมอ และส่ง ชินวรณ์ บุญยเกียรติ มานั่งเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ เป็นบำเหน็จรางวัล สาเหตุที่ต้องดัน จุรินทร์ ไปนั่งว่าการ สธ.เที่ยวนี้ว่ากันว่าต้องออกแรงล็อบบี้เจ้าตัวกันพอสมควรเพราะที่ผ่านมา “เสี่ยอู๊ดด้า” ก็ทำงานแก้ปัญหาโครงการเรียนฟรี 15 ปี รวมไปถึงแก้ปัญหาภายในได้ดีจนมีผลงานเข้าตา
00 ด้วยบุคลิคเป็นคนทำงานละเอียด คว่ำหวอดในวงการเมืองมานาน จึงต้องดึงไปช่วยสะสางงานในกระทรวงสาธารณสุขที่หมักหมมในเรื่องปัญหาทุจริตเรื้อรังมานาน การได้ตัว จุรินทร์ ไปกำกับดูแลถือว่าน่าจะเหมาะสมที่สุดในภาวะจำกัดจำเขี่ยแบบนี้ ขณะที่ ชินวรณ์ นั้นแม้ว่าจะอาวุโสพรรษาถึง และถึงคิวต้องตอบแทนให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ในเมื่อยังหัดขับ จู่ๆจะส่งไปนั่งเก้าอี้ตัวใหญ่ เมื่อเจอ บรรดาคุณหมอ-บริษัทยาเขี้ยวๆ ก็อาจต้องตกอยู่ในสภาพแบบเดียวกับ วิทยาก็เป็นได้
00 ดังนั้นส่งมาดูแลกระทรวงศึกษาธิการก็น่าจะเหมาะสมกว่าอีกทั้งยังมีภูมิหลังเป็นครูมาก่อนก็น่าจะพอกล้อมแกล้มไปได้ แต่เชื่อว่าคนที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการตัวจริงก็คือ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่นแหละ เพราะในเรื่องนโยบายการศึกษาเขาก็มีความมุ่งมั่นมานานแล้ว
00 มีอาการน้อยใจบ้างเป็นธรรมดา และพอเข้าใจได้สำหรับ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่ต้องวืดเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นคำรบสอง ถึงกับต้องตัดพ้อประชดว่า เลิกหวังจะได้ลุ้นแล้ว ก็อดทนอีกนิดแล้วกัน หากรัฐบาลยังดิ้นรนอยู่ต่อไปได้และมีการปรับหลังซักฟอกอีกรอบก็ไม่น่าจะพลาด
00 แต่ที่น่าหนักใจก็เห็นจะเป็นกรณีของ มานิต นพอมรบดี จากพรรคภูมิใจไทยโควตาของ สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่จนถึงวันนี้ยัง “ด้าน” ไม่รู้สึกรู้สา ทำเป็นไม่สนใจคำว่าจริยธรรมและสปิริตทางการเมือง ล่าสุดยังทำโยกโย้ ยียวนขอลาพักราชการเพื่อลดแรงกดดันแต่ก็ถูกนายกฯเบรกหัวทิ่มไม่อนุมัติ พร้อมส่งสัญญาณกดดันกลับไปอีกว่า หากยังมั่นใจว่าตัวเองไม่มีความผิดหรือทุจริตก็ให้ “ด้าน” นั่งทำงานสู้หน้ากับสังคม และตอบคำถามสื่อมวลชนต่อไปก็แล้วกัน
00 บางครั้งคนเราเรื่องของคำพูดและท่าทีทางการเมืองมันก็สะท้อนอะไรได้หลายอย่าง ดังตัวอย่างของพรรคภูมิใจไทยและบรรดาแกนนำหลายคนต่างออกมาปกป้อง มานิต กันแบบไม่สนใจความรู้สึกของสังคมใดๆทั้งสิ้น ฟังเหตุผลของแต่ละคนไล่ลงมาตั้งแต่หัวดำยันหัวหงอกไม่ว่าจะเป็น ชัย ชิดชอบ หรือ ชวรัตน์ ชาญวีระกูล ที่อ้างกันแบบตะแบงๆข้างๆคูเพื่อ “ชำเรา” ประเทศกันต่อไป ได้ยินแล้วก็สุดแสนทุเรศ ก็อย่าได้แปลกใจที่บ้านเมืองมันวุ่นวาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรายังมีนักการเมืองประเภทนี้อยู่กันจนรกสภานั่นเอง
00 การออกอาการแข็งกร้าวของ นายกฯอภิสิทธิ์ เที่ยวนี้ถือว่าน่าจับตา เพราะสองดอกที่ออกมาล่าสุดถือว่าได้น้ำได้เนื้อพอสมควร เหมือนกับส่งสัญญาณพร้อมยุบสภา ทั้งในเรื่องสั่งคว่ำ “หวยออนไลน์” กลางคัน และการกดดันให้คณะรัฐมนตรีคำนึงถึงกฎเหล็กในเรื่องจริยธรรมให้เข้มงวดเอาจริงเอาจัง ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ทั้งสองกรณีจะลงเอยอย่างไร แต่เบื้องต้นก็ต้องชมไว้ก่อนว่า มาถูกทางแล้ว !!