ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ส.ส.และคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมผู้เหมาะสม และตัวแทนผู้เหมาะสมที่จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงข่าวยืนยันถึงความเป็นเอกภาพ ไร้ความขัดแย้งภายในพรรค โดยชี้แจงเหตุผลของมติพรรค ที่ต้องโยก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะมีคุณสมบัติเหมาะสม
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียืนยัน ปลายสัปดาห์นี้ หรือต้นสัปดาห์หน้า การปรับคณะรัฐมนตรีจะต้องแล้วเสร็จและลงตัว รวมถึงปัญหาของ นายมานิต นพอมรบดี ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้อำนาจพิจารณาดำเนินการ เพื่อรักษามาตรฐานของการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไว้ โดยเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลต่อการร่วมรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย ในอนาคต
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 17 คน ใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง โดยเลือกวิธีลงคะแนนลับสรรหาผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งถือว่าแตกต่างจากธรรมเนียมปฏิบัติของพรรค ที่หัวหน้าพรรคจะต้องเป็นผู้เสนอชื่อผู้เหมาะสมเพียงคนเดียว และชื่อเดียวเข้ารับตำแหน่ง โดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ได้รับคะแนนสูงสุด จึงได้รับเลือกให้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เมื่อพิจารณาคุณสมบัติแล้ว เห็นควรให้ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงเสนอสลับตำแหน่งกับนายจุรินทร์
ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ได้คะแนนจากคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นอันดับที่ 2 จึงมีการเสนอชื่อให้เข้ารับหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล แต่นายนิพิฏฐ์ปฏิเสธ เนื่องจากติดภารกิจการทำหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย ในการสู้คดี 13 ส.ส.ถือครองหุ้นขัดรัฐธรรมนูญ ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนมติพรรคที่เลือก นายวิทยา แก้วภราดัย เข้ารับหน้าที่ประธานวิปรัฐบาล ให้เหตุผลถึง ความรู้ความสามารถด้านกฎหมาย และความเชี่ยวชาญทางการเมือง รวมถึงประสบการณ์ ที่จะทำหน้าที่ประสานกับทุกพรรคได้เป็นอย่างดี ส่วนข้อกล่าวหาเกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นคนละประเด็นที่ต้องแยกออกจากกัน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียืนยัน ปลายสัปดาห์นี้ หรือต้นสัปดาห์หน้า การปรับคณะรัฐมนตรีจะต้องแล้วเสร็จและลงตัว รวมถึงปัญหาของ นายมานิต นพอมรบดี ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้อำนาจพิจารณาดำเนินการ เพื่อรักษามาตรฐานของการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไว้ โดยเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลต่อการร่วมรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย ในอนาคต
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 17 คน ใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง โดยเลือกวิธีลงคะแนนลับสรรหาผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งถือว่าแตกต่างจากธรรมเนียมปฏิบัติของพรรค ที่หัวหน้าพรรคจะต้องเป็นผู้เสนอชื่อผู้เหมาะสมเพียงคนเดียว และชื่อเดียวเข้ารับตำแหน่ง โดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ได้รับคะแนนสูงสุด จึงได้รับเลือกให้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เมื่อพิจารณาคุณสมบัติแล้ว เห็นควรให้ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงเสนอสลับตำแหน่งกับนายจุรินทร์
ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ได้คะแนนจากคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นอันดับที่ 2 จึงมีการเสนอชื่อให้เข้ารับหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล แต่นายนิพิฏฐ์ปฏิเสธ เนื่องจากติดภารกิจการทำหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย ในการสู้คดี 13 ส.ส.ถือครองหุ้นขัดรัฐธรรมนูญ ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนมติพรรคที่เลือก นายวิทยา แก้วภราดัย เข้ารับหน้าที่ประธานวิปรัฐบาล ให้เหตุผลถึง ความรู้ความสามารถด้านกฎหมาย และความเชี่ยวชาญทางการเมือง รวมถึงประสบการณ์ ที่จะทำหน้าที่ประสานกับทุกพรรคได้เป็นอย่างดี ส่วนข้อกล่าวหาเกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นคนละประเด็นที่ต้องแยกออกจากกัน
