“เทพเทือก” ปัดนายกฯ บีบ “มานิต” ไขก๊อก ชี้พูดโดยหลักการในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ยันพรรคร่วมไม่มีรอยร้าว ไม่มีใครต่อรองให้ออกแลกผลประโยชน์หรือเก้าอี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (8 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุขจะลาออกจากตำแหน่งว่า เรื่องข่าวต้องใจเย็นๆหน่อย อย่างที่ตนเรียนการเมืองมันมีเหตุผลที่ทุกคนต้องถือเป็นหลัก หากเราใช้หลักเหตุผลในการแก้ไขปัญหาต่างๆเรื่องมันก็สามารถที่จะคลี่คลายไป โดยราบรื่นได้เป็นที่ถูกใจของคนส่วนใหญ่ได้ ฉะนั้นตนยังเชื่อมั่นในหลักการของเหตุผลอยู่ พรรครัฐบาลทั้งหลายก็คำนึงถึงเรื่องเหตุผลเหล่านี้ เพียงแต่ในเวลาที่เกิดกรณีใดกรณีหนึ่งเราจำเป็นที่จะให้แต่ละฝ่ายมีเวลาใน การคิดใคร่ควรตรึกตรองเหตุผลต่างๆ ตนจึงได้กราบเรียนตั้งแต่ต้นว่าไม่ค่อยหนักใจอะไร ทุกอย่างเมื่อเราใช้เหตุผลเข้ามาเป็นหลักในการแก้ไขก็ทำได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯพูดค่อนข้างชัดเจนต้องการให้นายมานิต ลาออก เช่นเดียวกับนายวิทยา แก้วภราดรัย ที่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการและนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ในสัปดาห์หน้า เป็นการบีบให้นายมานิตต้องรีบตัดสินใจหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่เป็นอย่างนั้น นายกฯคงไม่ได้บีบบังคับใคร แต่ท่านก็ยืนยันในแนวทางในหลักการที่เคยกำหนดไว้ในฐานะที่เป็นหัวหน้าคณะ รัฐบาล ฉะนั้นเมื่อเราไปถามทุกครั้งท่านก็ต้องเรียนยืนยันในหลักการนี้
เมื่อถามว่าได้ประสานพรรคภูมิใจไทยหรือไม่เพราะมีรายงานข่าวนายมานิตพร้อมจะออก แต่พรรคมีมติไม่ให้ออก นายสุเทพ กล่าวว่า การพูดคุยกันคงมีหลายรอบ ที่พูดไปแล้วตนได้เรียนไปแล้วก็จบกันแค่นั้น แต่หลังจากนี้ตนคงจะได้ไปพบปะพูดคุยกับทางผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยในโอกาสต่อ ไป และจะได้เรียนให้ทราบ เมื่อถามว่าหากจะไปคุยกับผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยจะมีวัตถุประสงค์อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ธรรมดา เวลาไปเจอกัน 5 วัน 10 วัน ตนก็ไปเจอพรรคโน้นพรรคนี้พูดคุยเรื่องสถานการณ์การเมืองอย่างนั้นอย่างนี้ และหารือกันเพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาประเทศชาติบ้านเมืองอย่างไร แต่เรื่องของนายมานิตคงไม่ไประบุเจาะจงอะไร วิธีทำงานของตนไม่ใช่เป็นคนที่ไปมีอำนาจบาตรใหญ่อะไร ก็ไปปรึกษาหารือกับผู้คนฝ่ายโน้นฝ่ายนี้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อกัน
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ต้องให้ยุติภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ เพราะสัปดาห์หน้านายกฯจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ นายสุเทพ กล่าวว่า คิดว่ายังมีเวลาแต่จะเป็นเมื่อไรไม่สามารถเรียนได้ ก็ค่อยๆคุยกันไป เมื่อถามว่าจะส่งผลให้รอยร้าวระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยมาก ขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่จะเป็นรอยร้าว ทุกคนเข้าใจกันดีว่าที่เรามาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อที่จะรักษาบ้านเมือง ให้อยู่ได้ อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ ก็ต้องจัดเรียงดับความสำคัญของเรื่องราว
เมื่อถามว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยออกมาระบุว่านายกฯ ตัดสินใจอย่างไรต้องแจ้งให้หัวหน้า พรรคนั้นๆทราบก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกท่านพูดจากถูกแล้ว นายกฯก็พูดในหลักการของท่าน นายชวรัตน์ก็พูดถึงเรื่องความเป็นตัวตนของแต่ละพรรค ก็ถูกต้องแล้วไม่มีใครผิดพลาดอะไร เรื่องในพรรคแต่ละพรรคต้องให้เขาเป็นคนดำเนินการแก้ไขปัญหาตัดสินใจเอง เหมือนกับกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะเลือกคนมาเป็นรัฐมนตรีก็เป็นเรื่องของ พรรคประชาธิปัตย์ตั้งมีขั้นตอนวิธีการใครจะวิพากษ์วิจารณ์พูดอะไรก็ได้ แต่จะแทรกแซงไม่ได้ เมื่อถามถึงกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯออกมาบอกว่ากฎเหล็ก 9 ข้อนายกฯตั้งก็เป็นเรื่องของนายกฯเอง นายสุเทพ กล่าวว่า ถือเป็นความเห็นของประธานสภาฯ ถ้าเราไปถามท่านก็ต้องมีคำตอบอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ทีนี้ถ้าเราไปจับเอาคำพูดของแต่ละฝ่ายแต่ละคนมาเรียงเป็นเรื่องเดียวกันบาง ทีมันก็ต่อกันไม่สนิทก็เลยกลายเป็นประเด็นตะกุกตะกักขึ้นมา
“อย่าไปกังวลใจมากเรื่องนี้ยังไงก็ต้องคลี่คลายได้ เพราะทุกคนต้องยึดเอาเรื่องสำคัญคือการดูแลรักษาชาติบ้านเมืองในภาวะนี้ให้อยู่ได้” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าหากนายมานิต ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะส่งผลเสียต่อรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่พูดไปถึงขนาดนั้น วางไปทีละขั้นๆ อย่ากังวลใจเลยเกินไปเพราะมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เมื่อถามว่าหากนายมานิตลาออก พรรคประชาธิปัตย์จะต้องมอบอะไรเป็นการแลกเปลี่ยนให้กับพรรคภูมิใจไทย มีการต่อรองกันหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีใครต่อรองเรื่องอะไรกันทั้งสิ้น อยน่างที่ตนเรียนแล้วทุกอย่างเป็นเรื่องเหตุผล เรื่องความเหมาะสมสำหรับการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะยังอยู่ในโควต้าเดิมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องเดิมอยู่
