“เทพไท” เย้ย “เพื่อไทย” ไร้ข้อมูลซักฟอก ดีแต่โฆษณาสร้างกระแสข่าว ปัดปรับครม.หนีซักฟอก งง “เฉลิม-ปานปรีย์” พูดคนละเรื่องเดียวกัน ถามหาสำนึก “แดงถ่อย” ชาวบ้านต่อต้านยังจะเสนอหน้าไปรุกรานอีก อย่าใส่ร้ายใครหนุนหลัง ยันกฎเหล็ก 9 ข้อยังศักดิ์สิทธิ์ แต่ต้องใช้เวลาสักหน่อย โยนนายกฯตัดสินจัดการ “มานิต” เอง
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น ตนยังเห็นว่ามีความขัดแย้งในเรื่องดังกล่าวอยู่ ทั้งในส่วนของ ร.ต.อ.เฉลิม และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ยังมีความขัดแย้งในการกำหนดวันอภิปราย และกำหนดวันชุมนุมใหญ่ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งนั่นเป็นเพราะข้อมูลในการอภิปรายของพรรคเพื่อไทยยังไม่มี เป็นเพียงการโฆษณาสร้างกระแสข่าวว่าต้องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้งๆ ที่ข้อมูลไปหาเอาดาบหน้า เช่นเดียวกับการกำหนดวันชุมนุมใหญ่ เพียงเพื่อรอสัญญาณจากนายใหญ่ที่เป็นผู้สนับสนุนทั้งสิ้น ถ้าจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็อยากจะเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมด้วยการกำหนดวันให้ชัดเจน เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้มีการเตรียมความพร้อม ทั้งฝ่ายอภิปรายและฝ่ายถูกอภิปราย เพื่อให้ประชาชน เป็นผู้ตัดสิน
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนการที่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวพาดพิงการปรับ ครม.ที่มีการสลับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขว่า ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่เป็นปรับเพื่อหนีการอภิปรายนั้น ตนขอยืนยันว่า พรรคจะไม่มีการปรับ ครม.หนีการอภิปราย หรือถ้าหากจะเลือกการปรับ ครม.เพื่อหนีการอภิปราย ก็จะถือโอกาสปรับใหญ่ก่อนอภิปรายแล้ว แต่การปรับเพียงสลับสองกระทรวงนั้น มีเหตุผลว่า เมื่อมีความจำเป็นไม่มีรัฐมนตรีมาบริหารราชแผ่นดินจึงจำเป็นต้องปรับ ไม่ได้มีการปรับเพื่อหนีการอภิปราย เพราะฉะนั้นจึงไม่เกี่ยวกับเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น แต่เกี่ยวกับเรื่องของประโยชน์ของประชาชน เพราะหากว่ากระทรวงว่างเว้นการมีรัฐมนตรีแล้วอาจทำงานกระทรวงนั้นๆชะงักได้ ส่วนกรณีที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาแสดงความเห็นว่า รัฐบาลควรจะปรับ ครม.ทั้งชุด ตนอยากจะถามจุดยืนของพรรคเพื่อไทยว่า จุดยืนทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยคืออะไร เพราะในขณะอีกสายนั้นอยากให้รัฐบาลปรับ ครม.ทั้งชุด แต่อีกฝ่ายกล่าวหาว่าถ้าจะปรับ ครม.ก็เป็นการหนีการอภิปราย
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา ในวันที่ 11 มกราคมนี้ว่า หลังจากที่พบมีการต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่นั้น ตนรู้สึกกังวลหากกลุ่มคนเสื้อแดงไปรุกรานและคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชนในพื้นที่ก็อาจจะเกิดการปะทะและเหตุรุนแรงได้ และอยากให้กลุ่มคนเสื้อแดงได้สำนึกว่า การเคลื่อนไหวใดไม่ควรไปลิดรอนสิทธิของผู้อื่น ในการที่จะนำคนไปบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลหรือป่าสงวนล้วนแล้วแต่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น ดังนั้น ไม่ควรกระทำใดๆ ที่ตนเองต้องการที่จะเรียกร้องความถูกต้อง แต่เป็นผู้กระทำเสียเอง ทั้งนี้ อยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองเข้าไปดูแลประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ในพื้นที่ ที่มีความรักสงบ และกลุ่มเสื้อแดงไม่ควรกล่าวว่า ประชาชนเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิทธิเป็นการสนับสนุนของฝ่ายทหารหรือฝ่ายการเมือง ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องเคารพสิทธิประชาชนด้วย และการใส่ร้ายป้ายสีประชาชนเพื่อให้เป็นประเด็นทางการเมือง และเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ตนคิดว่าเป็นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงอยากเรียกร้องไปยังแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดง
ส่วนกรณีที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกฎเหล็ก 9 ข้อว่า ใช้เฉพาะกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะทำให้ส่งผลกระทบต่อการมาตราฐานทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายเทพไท กล่าวว่า กฎเหล็ก 9 ข้อ ของรัฐบาลก็ถือว่ายังศักดิ์สิทธิ์และยังขลังอยู่ แต่บทที่จะพิสูจน์ว่ามากน้อยแค่ไหนต้องใช้เวลา ต้องดูผลสรุปและบทสุดท้ายว่าจะจบอย่างไร ก็ไม่มีอะไรเห็นผลทันตา และเชื่อว่านายกฯก็พยายามที่จะรักษากฎเหล็ก9ข้อนี้ และทุกคนต้องปฏิบัติตาม โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในครม.ทุกคน ทั้งนี้ กฎดังกล่าวก็ต้องทำให้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่เช่นนั้นผู้เสียคือนายกรัฐมนตรีเอง ขณะการที่นายมานิต นพอมรวดี รมช.สาธารณสุข ขอลาพัก 30 วัน แต่นายกฯไม่อนุมัตินั้น นายเทพไทกล่าวว่า นายกฯยืนยันว่าให้นายมานิตจัดการกับตัวเองก่อน หากทำไม่ได้นายกฯก็จะเป็นผู้จัดการให้ ส่วนวิธีการจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ เพราะนายกฯ มีอำนาจในการปลด แต่งตั้ง และปรับ และนายกฯมีสิทธิ์ที่จะบอกหรือไม่บอกก็ได้