โฆษกกองทัพบกแจงเหตุจำเป็นขออนุมัติจัดซื้ออุปกรณ์ควบคุมฝูงชน เพื่อใช้รับมือป้องกันเหตุรุนแรงเดือนมกราฯ หวั่นมีความเคลื่อนไหวรุนแรงซ้ำรอยเมษาฯเลือด
วันนี้ (5 ม.ค.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่กองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เสนอของงบประมาณจากรัฐบาล 177 ล้านบาทเศษ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์รับมือการชุมนุมของกลุ่มมวลชนว่า ทาง กอ.รมน.ได้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาชุดป้องกันตนเอง ให้กับกองร้อยรักษาความสงบของกองทัพบก และเตรียมการรองรับเหตุการณ์ ที่จะกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งที่ผ่านมาในการรักษาความสงบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร้องขอกำลังทหารให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน แม้กองทัพบกจะมีอุปกรณ์และเครื่องมือดูแลฝูงชนอย่างจำกัด แต่ได้ออกไปปฏิบัติตามหน้าที่ที่มีการร้องขอในหลายครั้ง เช่น เหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน ปี 52 การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน การปฏิบัติงานภายใต้กาประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งมีการกำหนดแนวทางในการปฏิบัติตามขั้นตอนสากล และสามารถคลี่คลายสถานการณ์ และดูแลการชุมนุมในหลายพื้นที่ได้อย่างเรียบร้อยภายใต้ข้อจำกัดของอุปกรณ์และเครื่องมือ
“การเสนอความต้องการเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยครั้งนี้ เป็นไปตามความจำเป็นในการใช้งาน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ที่อาจต้องออกไปปฏิบัติภารกิจสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการประเมินสถานการณ์ร่วมกันของหน่วยงานด้านความมั่นคงพบว่า แนวโน้มสถานการณ์ในปี 53 การรวมตัวของกลุ่มมวลชนต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคน่าจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงมีความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ต้องมีอุปกรณ์ในการดูแลฝูงชนที่เพียงพอ ได้มาตรฐานสากลและเหมาะกับสถานการณ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า เจ้าหน้าที่สามารถดูแลฝูงชนให้เกิดความสงบเรียบร้อยได้ในทุกการชุมนุม รวมถึงการรักษาความปลอดภัยในงานระดับชาติ” พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า อุปกรณ์ที่จัดหาเป็นเครื่องมือ และอุปกรณ์มาตรฐานตามหลักสากลที่ใช้ในการดูแลฝูงชนให้เกิดความปลอดภัยนั้น ขณะเดียวกันจะเป็นเครื่องมือป้องกันตนเองให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้สามารถดูแลความสงบเรียบร้อย ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สำคัญการออกไปปฏิบัติภารกิจนั้น กองทัพบกยังยึดถือจุดเดิมคือ เป็นการป้องกันไม่ให้มีการทำร้ายประชาชน และเป็นการรักษาสถานที่ราชการ รวมทั้งดูแลให้การชุมนุมเป็นไปอย่างเรียบร้อยปลอดภัย ไม่มีการใช้ความรุนแรงต่อกัน
วันนี้ (5 ม.ค.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่กองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เสนอของงบประมาณจากรัฐบาล 177 ล้านบาทเศษ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์รับมือการชุมนุมของกลุ่มมวลชนว่า ทาง กอ.รมน.ได้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาชุดป้องกันตนเอง ให้กับกองร้อยรักษาความสงบของกองทัพบก และเตรียมการรองรับเหตุการณ์ ที่จะกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งที่ผ่านมาในการรักษาความสงบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร้องขอกำลังทหารให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน แม้กองทัพบกจะมีอุปกรณ์และเครื่องมือดูแลฝูงชนอย่างจำกัด แต่ได้ออกไปปฏิบัติตามหน้าที่ที่มีการร้องขอในหลายครั้ง เช่น เหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน ปี 52 การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน การปฏิบัติงานภายใต้กาประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งมีการกำหนดแนวทางในการปฏิบัติตามขั้นตอนสากล และสามารถคลี่คลายสถานการณ์ และดูแลการชุมนุมในหลายพื้นที่ได้อย่างเรียบร้อยภายใต้ข้อจำกัดของอุปกรณ์และเครื่องมือ
“การเสนอความต้องการเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยครั้งนี้ เป็นไปตามความจำเป็นในการใช้งาน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ที่อาจต้องออกไปปฏิบัติภารกิจสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการประเมินสถานการณ์ร่วมกันของหน่วยงานด้านความมั่นคงพบว่า แนวโน้มสถานการณ์ในปี 53 การรวมตัวของกลุ่มมวลชนต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคน่าจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงมีความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ต้องมีอุปกรณ์ในการดูแลฝูงชนที่เพียงพอ ได้มาตรฐานสากลและเหมาะกับสถานการณ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า เจ้าหน้าที่สามารถดูแลฝูงชนให้เกิดความสงบเรียบร้อยได้ในทุกการชุมนุม รวมถึงการรักษาความปลอดภัยในงานระดับชาติ” พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า อุปกรณ์ที่จัดหาเป็นเครื่องมือ และอุปกรณ์มาตรฐานตามหลักสากลที่ใช้ในการดูแลฝูงชนให้เกิดความปลอดภัยนั้น ขณะเดียวกันจะเป็นเครื่องมือป้องกันตนเองให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้สามารถดูแลความสงบเรียบร้อย ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สำคัญการออกไปปฏิบัติภารกิจนั้น กองทัพบกยังยึดถือจุดเดิมคือ เป็นการป้องกันไม่ให้มีการทำร้ายประชาชน และเป็นการรักษาสถานที่ราชการ รวมทั้งดูแลให้การชุมนุมเป็นไปอย่างเรียบร้อยปลอดภัย ไม่มีการใช้ความรุนแรงต่อกัน
