ทบ.ปัดข่าวค้าน รบ.ใช้ “กม.มั่นคง” ใน 4 อำเภอ จ.สงขลา ยันเห็นพ้องนโยบาย พร้อมให้การสนับสนุน เตรียมส่งกำลังพลลงพื้นที่ทำความเข้าใจประชาชน ให้เข้าใจขอบเขตอำนาจ พ.ร.บ.มั่นคง ย้ำกองทัพเป็นหนึ่งหน่วยงานที่ปฏิบัติตามกรอบรัฐบาลและกอ.รมน.
วันนี้ (2 พ.ย.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกระแสข่าวกองทัพคัดค้านรัฐบาลในเรื่องการประกาศพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ที่จะมีการประกาศใช้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ว่า การเสนอข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ทั้งนี้ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความเห็นชอบตามหลักการให้ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่งการดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้หารือในระดับบริหาร จากทั้งรัฐบาล กองทัพ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในกรอบของงานของ กอ.รมน.เรียบร้อยแล้ว
“กองทัพบกในฐานะที่เป็นหน่วยปฏิบัติเห็นด้วยกับการที่รัฐบาลกำหนดแนวทางดังกล่าว เพราะปัจจุบัน กอ.รมน.ภาค 4 ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง การเตรียมชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้รับทราบถึงการปฏิบัติงานตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ พ.ร.บ.ความมั่นคง และเมื่อปฏิบัติไปในระยะหนึ่งจะประเมินผลการปฏิบัติงานตาม พ.ร.บ.มั่นคง ซึ่งจากการหารือของทุกฝ่ายบริหาร และทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้เห็นชอบร่วมกันที่จะนำ พ.ร.บ.มั่นคง มาใช้ในพื้นที่ คงต้องให้การปฏิบัติในพื้นที่เกิดขึ้นก่อน และจะนำสิ่งที่เกิดขึ้นประเมินผลออกมา ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของรัฐบาล กองทัพเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ปฏิบัติตามกรอบของรัฐบาล และกรอบของ กอ.รมน.” รองโฆษกกองทัพบก กล่าว
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ตามมติของสภากลาโหมได้ให้หน่วยทหารไปชี้แจงการทำงานภายใต้กรอบของ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งการปฏิบัติขณะนี้เริ่มชี้แจงถึงความสำคัญขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ พ.ร.บ.มั่นคงดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้ให้นโยบายว่าให้กำลังพลทุกคนศึกษาถึงขอบเขต อำนาจหน้าที่การใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นเรื่องการเมือง โดยทางทหารไม่มีการหารือในเรื่องนี้
วันนี้ (2 พ.ย.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกระแสข่าวกองทัพคัดค้านรัฐบาลในเรื่องการประกาศพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ที่จะมีการประกาศใช้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ว่า การเสนอข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ทั้งนี้ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความเห็นชอบตามหลักการให้ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่งการดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้หารือในระดับบริหาร จากทั้งรัฐบาล กองทัพ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในกรอบของงานของ กอ.รมน.เรียบร้อยแล้ว
“กองทัพบกในฐานะที่เป็นหน่วยปฏิบัติเห็นด้วยกับการที่รัฐบาลกำหนดแนวทางดังกล่าว เพราะปัจจุบัน กอ.รมน.ภาค 4 ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง การเตรียมชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้รับทราบถึงการปฏิบัติงานตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ พ.ร.บ.ความมั่นคง และเมื่อปฏิบัติไปในระยะหนึ่งจะประเมินผลการปฏิบัติงานตาม พ.ร.บ.มั่นคง ซึ่งจากการหารือของทุกฝ่ายบริหาร และทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้เห็นชอบร่วมกันที่จะนำ พ.ร.บ.มั่นคง มาใช้ในพื้นที่ คงต้องให้การปฏิบัติในพื้นที่เกิดขึ้นก่อน และจะนำสิ่งที่เกิดขึ้นประเมินผลออกมา ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของรัฐบาล กองทัพเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ปฏิบัติตามกรอบของรัฐบาล และกรอบของ กอ.รมน.” รองโฆษกกองทัพบก กล่าว
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ตามมติของสภากลาโหมได้ให้หน่วยทหารไปชี้แจงการทำงานภายใต้กรอบของ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งการปฏิบัติขณะนี้เริ่มชี้แจงถึงความสำคัญขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ พ.ร.บ.มั่นคงดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้ให้นโยบายว่าให้กำลังพลทุกคนศึกษาถึงขอบเขต อำนาจหน้าที่การใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นเรื่องการเมือง โดยทางทหารไม่มีการหารือในเรื่องนี้