“มาร์ค” เมิน “หมอเดา” คาดการณ์รัฐบาลยุบสภาภายในครึ่งปี ชี้ถ้าจะยุบก็ทำเพื่อชาติ ปลอบใจตัวเองสถานการณ์การเมืองต้นปีแรง-ปลายปีอาจแผ่ว เผย “ปู่จิ้น” แจงข้างหูไม่เปลี่ยนขั้ว โทษสื่อตีข่าวมั่ว เผยหลังหารือเลขาฯ ก.พ.ได้ข้อยุติตั้ง กก.สอบวินัย ขรก.สธ. เอี่ยวทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง ปล่อย ภท.ชี้ชะตา “มานิต” ก่อนใช้อำนาจนายกฯ ตัดสิน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (5 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม. ถึงสถานการณ์การเมืองที่เริ่มร้อนแรง ทั้งประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นโยบายล้มหวยออนไลน์ของรัฐบาลที่มีเสียงคัดค้านและเสียงสนับสนุนว่า ไม่คิดอย่างไร บางทีก็แรง บางทีก็ไม่แรง ถ้าต้นแรงปลายอาจจะไม่แรงก็ได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าอาจจะมีการยุบสภาเกิดขึ้นภายในครึ่งปี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็คาดการณ์กันมาเรื่อย ใครจะคาดการณ์ก็มีสิทธิ์ ตนไม่ไปห้ามหรือโต้แย้ง คาดการณ์กันได้ แต่มีหน้าที่ในการบริหารและดูแลตัดสินใจ ในสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ที่สุดกับส่วนรวม จะยึดตามนั้น
เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าภายในครึ่งปีจะไม่มีการยุบสภา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนเรียนแล้วว่าจะยุบสภาเมื่อเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศ เมื่อถามว่าไม่มีการกำหนดเวลาใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มี
เมื่อถามว่าบรรยากาศการประชุม ครม.ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลถือว่าราบรื่นปกติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรียบร้อยดี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินมาคุยด้วยคนแรก เมื่อถามว่าคุยเรื่องอะไร นายอภิสิทธิ์หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า คุยด้วยความฉงนว่าหนังสือพิมพ์ลงอย่างนั้นได้อย่างไร
เมื่อถามว่า ทำไมเวลามีความเข้าใจแบบนี้ ต้องออกมาโทษสื่อตลอดเวลา นายอภิสิทธิ์กล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่ได้บอกว่าใครโทษใคร นายชวรัตน์บอกว่าแปลกใจว่าท่านคิดว่าตนเองพูดชัดเจนว่าเป็นลำดับขั้นตอนอย่างไร เมื่อถามอีกว่าในคำถามสื่อวันนั้นมีความชัดเจนในเรื่องการเปลี่ยนขั้ว ซึ่งนายชวรัตน์บอกว่ามีความเป็นไปได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนขออนุญาตไม่วิจารณ์เรื่องระหว่างสื่อกับรัฐมนตรี เอาเป็นว่าตนได้อ่านตั้งแต่วันแรกก็สันนิษฐานว่าท่านคงไม่ได้พูดว่าท่านจะเปลี่ยนขั้ว เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน และตนก็บอกไปว่าตนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ทำไมนายกฯ ไม่มองว่านักการเมืองไม่มีความรับผิดชอบในคำพูด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้ว่าอะไรใครเลย เพียงแต่บอกว่าได้อ่านหนังสือพิมพ์แล้วและเข้าใจเชื่อว่า นายชวรัตน์คงไม่ได้บอกว่าจะเปลี่ยนขั้ว ส่วนท่านจะเปลี่ยนขั้วด้วยเงื่อนไขอะไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และคำถามตอบอะไรตนก็ไม่ทราบเมื่อวานที่ถาม ตนก็ตอบอย่างนี้ ส่วนสื่อกับรัฐมนตรีจะไปตกลงกันอย่างไรตนไม่ก้าวก่าย
เมื่อถามว่า นายชวรัตน์ยืนยันกับท่านหรือไม่ว่าจะไม่เปลี่ยนขั้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ท่านก็บอกว่าไม่มี ที่อยู่ดีดีจะไปพูดว่าเปลี่ยนขั้ว แต่ถ้ามีการลำดับเหตุการณ์ไปนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ท่านพูดอย่างนั้น เมื่อถามอีกว่าวันนี้คำพูดระหว่างกันยังเชื่อถือได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า ตนให้เกียรติกับทุกคนที่ทำงานด้วย
นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนของนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ต่อการลาออกจากตำแหน่งว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนแต่เห็นว่าจะมีการประชุมกันวันนี้ ซึ่งจะเป็นคำตอบในส่วนของพรรคภูมิใจไทย เมื่อถามว่า หากนายมานิตไม่ลาออก พรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อย่าไปสมมติว่าเขาจะอย่างไร ให้เขาประชุมกันก่อน
เมื่อถามว่า ในการประชุม ครม.วันนี้ (5 ม.ค.) ทราบว่านายมานิตไม่เข้าร่วมประชุม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ท่านลา ทั้งนี้มี รมต.ลา 3 ท่าน รมว.คลัง รมว.ยุติธรรม และ รมช.สาธารณสุข แต่ตนจำไม่ได้ว่าให้เหตุผลว่าอย่างไร นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ทราบว่าเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนคนอื่นจำเหตุผลไม่ได้ เมื่อถามว่ากรณีนายมานิตสุดท้ายต้องใช้อำนาจนายกฯในการตัดสินใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนว่าไปทีละขั้นตอนนี้เป็นช่วงที่พรรคภูมิใจไทยกำลังพิจารณาอยู่
ส่วนกรณีที่สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขเข้าพบเพื่อเรียกร้องให้โยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งกระทรวงสาธารณสุขนั้น ตนได้อธิบายไปแล้ว และเสร็จจากนี้ตนจะหารือกับเลขาธิการ ก.พ. ประเด็นมีอยู่ว่า ข้าราชการประจำจะต้องมีผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นที่ระบุอยู่ในกฎหมายว่าเป็นผู้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการทางวินัย ฉะนั้นส่วนใหญ่ปลัดกระทรวงจะต้องเป็นคนตั้ง แต่บังเอิญปลัดถูกพาดพิงด้วยและคณะกรรมการสอบของ นพ.บรรลุ ศิริพานิช เห็นว่าปลัดต้องอยู่ภายใต้กรอบของการดำเนินการทางวินัยด้วย ดังนั้นจะต้องมีการสอบปลัดก่อน แต่การจะสอบปลัดก่อนบังเอิญ ทางคณะกรรมการระบุว่า ปลัดไม่ได้ทุจริต ตนต้องมาดูว่าการดำเนินการกับปลัดเป็นเรื่องร้ายแรงหรือไม่ ถ้านายมานิตยังอยู่ก็จะต้องเป็นคนตั้งกรรมการ ซึ่งตนกำลังดูอยู่ว่าเป็นเช่นนั้นได้หรือไม่จากข้อกฎหมายเบื้องต้นตรงนี้ และการตั้งคณะกรรมการก็มีประเด็นอีกว่าในกฎหมาย ก.พ. ระหว่างการตั้งกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น เพื่อกำหนดว่าเป็นวินัยร้ายแรงไม่ร้ายแรงกับการตั้งคณะกรรมการวินัยไปเลยต้องทำอย่างไร เชื่อว่าหลังพบเลขาธิการ ก.พ.จะได้ข้อยุติ เมื่อเสร็จเรื่องของปลัดก็สามารถที่จะไปขยับตรงอื่นได้
เมื่อถามว่า โดยหลักนายมานิตโดนกล่าวหาด้วย สมควรเป็นผู้ตั้งคณะกรรมการสอบคนอื่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นี่คือเหตุผลทุกอย่างต้องชัดเจนโดยลำดับ เมื่อถามว่า จะต้องรอให้มีรมต.คนใหม่เข้ามาดูตรงนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนกำลังจะดูว่าจำเป็นหรือไม่ ถึงได้เชิญเลขาธิการ ก.พ.มาดู เมื่อถามว่าหมายถึงนายกฯ สามารถใช้อำนาจได้เลยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กำลังดูอยู่ เมื่อถามว่า ในส่วนของคณะกรรมการสอบชุด น.พ.บรรลุ ถือเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นไปแล้วหรือยัง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตรงนี้จะเป็นประเด็นที่กำลังจะคุยกับเลขาธิการ ก.พ.ด้วย ว่าเป็นอย่างนั้นได้หรือไม่ตามกฎหมาย เมื่อถามว่าถ้าใช้เป็นการตรวจสอบเบื้องต้นไม่ได้แล้วผลสอบชุด นพ.บรรลุ จะมีความหมายอะไร นายอภิสิทธิ์กล่าวชี้แจงว่า ตนกำลังจะบอกกับเลขาธิการ ก.พ.อย่างนั้น ตรงนี้ยังมีความเข้าใจไม่ตรงกัน หลังจากที่คุยกับเลขาธิการ ก.พ.ไปแล้ว 2-3รอบ และคิดว่า เลขาธิการ ก.พ.ยังไม่เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมด