งามหน้า “บอร์ดบินไทย” โดนแฉ อุ้มชูคู่เขย บินเชลียร์ “นช.แม้ว” ถึงดูไบ โดยถืออภิสิทธิ์พิเศษในการอัพเกรดตั๋วเครื่องบิน แถมงานนี้ยังขนสัมภาระหนักอึ้ง แบกผลไม้ 3 กล่อง หนักกล่องละ 27 กิโลฯ ขึ้นเครื่อง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการเคาะข่าวริมโขง
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันจันทร์ที่ 4 มกราคม มี น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้เชิญ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก นายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณี มีคนในการบินไทย ออกมาแฉพฤติกรรมบอร์ดและอดีตผู้บริหารการบินไทย ที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ถืออภิสิทธิ์เหนือผู้โดยสารคนอื่น โดยขออัพเกรดตั๋วเครื่องบิน แบบไม่ได้จ่ายเงินเพิ่ม
นอกจากนี้ยังมีกรณี เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่ส่งคนในพรรคขัตติยะธรรม มาเจรจากับนายโสภณ เรื่องที่เคยเปิดเผยข้อมูล เสธ.แดง กล่าวสิ่งที่ไม่สมควรพูด ซึ่งเป็นการพาดพิงสถาบันเบื้องสูงที่ จ.ลำปาง จนทำให้กลายเป็นคนไม่จงรักภักดีในสายตาผู้อื่น
น.ส.อัญชะลี กล่าวเปิดประเด็นความเคลื่อนไหว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้พำนักอยู่ที่นครดูไบอย่างสงบ เนื่องจากทางการได้ตักเตือนว่า หากยังใช้นครดูไบเป็นฐานที่มั่นถล่มรัฐบาลไทยอีก จะไม่ให้พำนักอยู่ที่นี่อีกต่อไป จึงทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบมากขึ้น ดังนั้น คำเตือนที่หลายฝ่ายกังวลไม่เป็นความจริง ที่ระบุว่าในช่วงปีใหม่นี้ จะเกิดเหตุรุนแรงในประเทศไทย
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ นอกจากกลุ่มคนเสื้อแดงจะทยอยเดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่นครดูไบแล้ว ยังมีข่าวจากวงในระบุว่า มี 2 มิสเตอร์เดินทางจากประเทศไทยไปนครดูไบ เพื่อพบคนๆหนึ่ง
นายโสภณกล่าวประเด็นนี้ว่า มิสเตอร์ที่เดินทางไปนครดูไบ มีการเปิดเผยรายชื่อว่าหนึ่งในนั้นคือ พล.อ.อ.สุกัมพล สุวรรณทัต เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีการสำรองที่นั่ง 18 A และ18 B ซึ่งเป็นการถือสิทธิ์อัพเกรดตั๋ว ทั้งที่ พล.อ.อ.สุกัมพล ถือสิทธิ์บัตรเงิน แถมงานนี้ไม่ได้จ่ายเงินเพิ่มอีกด้วย ทั้งนี้ มีการอาศัยบารมีของ ร.ท.นรหัช พลอยใหญ่ ที่มีศักดิ์เป็นคู่เขยกับ พล.อ.อ.สุกัมพล
นายโสภณกล่าวอีกว่า ร.ท.นรหัส ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการของการบินไทย นอกจากนี้ ยังเป็นรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รวมทั้งเคยเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 และมีความสนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างดี โดยการเดินทางมุ่งหน้าไปนครดูไบครั้งนี้ มีการแจ้งข้อมูลว่า ขนสัมภาระน้ำหนักเกิน โดย 1 ใน 2 คนนี้ แจ้งว่าสินค้าที่บรรจุในกล่องคือผลไม้ ซึ่งมีทั้งหมด 3 กล่อง น้ำหนักกล่องละ 27 กิโลกรัม
นายโสภณ กล่าวต่อว่า เมื่อเดินทางไปถึงนครดูไบ ทั้งที่ทั้ง 2 คน มีชื่อเข้าพักเป็นแขกในโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าได้หายตัวไปอย่างไร้วี่แวว โดยมีผู้พบเห็นอีกครั้ง ตอนกำลังจะเดินทางกลับมายังประเทศไทย ซึ่งก็เป็นเช่นเดิม คือใช้อภิสิทธิ์เหนือผู้โดยสารคนอื่น ซึ่งการกระทำของ ร.ท.นรหัส นอกจากไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่สมกับบอร์ดบริหารของการบินไทยแล้ว ยังไปคอยอำนวยความสะดวกให้ทั้ง พล.อ.อ.สุกัมพล
ช่วงต่อมา นายโสภณ กล่าวถึงกรณี เสธ.แดง ส่งคนในพรรคขัตติยะธรรม มาเจรจา ว่า หลังจากตนได้เปิดเผยข้อมูลว่า มีชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่า เสธ.แดง ไปกล่าวคำพูดที่ไม่สมควรจะหลุดออกมาจากปาก ซึ่งเป็นประโยคที่พาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง จนถูกมองว่า เสธ.แดง เป็นทหารแต่ไม่มีจงรักภักดี โดยกรณีนี้คนของ เสธ.แดง ได้ระบุว่า คำพูดของตนที่เคยกล่าวไป ทำให้ เสธ.แดง สติแตก เพราะทนไม่ได้ที่ถูกมองว่าไม่จงรักภักดี ซึ่งคนพรรคขัตติยะธรรม ได้เจรจาให้ตนพูดขอโทษ เพื่อให้เรื่องมันจบไป ทั้งนี้ ตนก็ได้กล่าวตอบว่า ตนไม่ได้พูดเองว่า เสธ.แดง ไม่มีความจงรักภักดี แต่แค่เล่าในสิ่งที่ชาวบ้านบอกกล่าวมา ซึ่งหาก เสธ.แดง ไม่ได้ทำเช่นนั้นหรือไม่ได้กล่าวในสิ่งที่ไม่สมควรพูด ก็ให้นำเทปวันที่ เสธ.แดง ไปพูดที่วัดในจ.ลำปาง ออกมาเปิดเผย
นายโสภณกล่าวอีกว่า หลังจากเจรจากับคนของ เสธ.แดง ไปสักครู่ ก็ได้มีการต่อสายโทรศัพท์ให้ตนพูดคุยโดยตรงกับ เสธ.แดง ซึ่งพออีกฝ่ายรับสาย ตนก็ถามว่า มีอะไรจะพูดกับตนหรือไม่ โดยเมื่อ เสธ.แดง รู้ว่ากำลังคุยกับตนอยู่ ก็ได้บอกว่า ไม่มีอะไร รวมทั้งไม่รู้เรื่องคนที่มาเจรจากับตนครั้งนี้ จากนั้น สายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป ซึ่งคนในพรรคขัตติยะธรรม ก็บอกกับตนว่า เสธ.แดง เป็นคนเช่นนี้ ตนจึงให้ต่อสายถึง เสธ.แดง อีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่รับสายแต่อย่างใด
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการเคาะข่าวริมโขง
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันจันทร์ที่ 4 มกราคม มี น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้เชิญ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก นายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณี มีคนในการบินไทย ออกมาแฉพฤติกรรมบอร์ดและอดีตผู้บริหารการบินไทย ที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ถืออภิสิทธิ์เหนือผู้โดยสารคนอื่น โดยขออัพเกรดตั๋วเครื่องบิน แบบไม่ได้จ่ายเงินเพิ่ม
นอกจากนี้ยังมีกรณี เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่ส่งคนในพรรคขัตติยะธรรม มาเจรจากับนายโสภณ เรื่องที่เคยเปิดเผยข้อมูล เสธ.แดง กล่าวสิ่งที่ไม่สมควรพูด ซึ่งเป็นการพาดพิงสถาบันเบื้องสูงที่ จ.ลำปาง จนทำให้กลายเป็นคนไม่จงรักภักดีในสายตาผู้อื่น
น.ส.อัญชะลี กล่าวเปิดประเด็นความเคลื่อนไหว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้พำนักอยู่ที่นครดูไบอย่างสงบ เนื่องจากทางการได้ตักเตือนว่า หากยังใช้นครดูไบเป็นฐานที่มั่นถล่มรัฐบาลไทยอีก จะไม่ให้พำนักอยู่ที่นี่อีกต่อไป จึงทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบมากขึ้น ดังนั้น คำเตือนที่หลายฝ่ายกังวลไม่เป็นความจริง ที่ระบุว่าในช่วงปีใหม่นี้ จะเกิดเหตุรุนแรงในประเทศไทย
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ นอกจากกลุ่มคนเสื้อแดงจะทยอยเดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่นครดูไบแล้ว ยังมีข่าวจากวงในระบุว่า มี 2 มิสเตอร์เดินทางจากประเทศไทยไปนครดูไบ เพื่อพบคนๆหนึ่ง
นายโสภณกล่าวประเด็นนี้ว่า มิสเตอร์ที่เดินทางไปนครดูไบ มีการเปิดเผยรายชื่อว่าหนึ่งในนั้นคือ พล.อ.อ.สุกัมพล สุวรรณทัต เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีการสำรองที่นั่ง 18 A และ18 B ซึ่งเป็นการถือสิทธิ์อัพเกรดตั๋ว ทั้งที่ พล.อ.อ.สุกัมพล ถือสิทธิ์บัตรเงิน แถมงานนี้ไม่ได้จ่ายเงินเพิ่มอีกด้วย ทั้งนี้ มีการอาศัยบารมีของ ร.ท.นรหัช พลอยใหญ่ ที่มีศักดิ์เป็นคู่เขยกับ พล.อ.อ.สุกัมพล
นายโสภณกล่าวอีกว่า ร.ท.นรหัส ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการของการบินไทย นอกจากนี้ ยังเป็นรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รวมทั้งเคยเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 และมีความสนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างดี โดยการเดินทางมุ่งหน้าไปนครดูไบครั้งนี้ มีการแจ้งข้อมูลว่า ขนสัมภาระน้ำหนักเกิน โดย 1 ใน 2 คนนี้ แจ้งว่าสินค้าที่บรรจุในกล่องคือผลไม้ ซึ่งมีทั้งหมด 3 กล่อง น้ำหนักกล่องละ 27 กิโลกรัม
นายโสภณ กล่าวต่อว่า เมื่อเดินทางไปถึงนครดูไบ ทั้งที่ทั้ง 2 คน มีชื่อเข้าพักเป็นแขกในโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าได้หายตัวไปอย่างไร้วี่แวว โดยมีผู้พบเห็นอีกครั้ง ตอนกำลังจะเดินทางกลับมายังประเทศไทย ซึ่งก็เป็นเช่นเดิม คือใช้อภิสิทธิ์เหนือผู้โดยสารคนอื่น ซึ่งการกระทำของ ร.ท.นรหัส นอกจากไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่สมกับบอร์ดบริหารของการบินไทยแล้ว ยังไปคอยอำนวยความสะดวกให้ทั้ง พล.อ.อ.สุกัมพล
ช่วงต่อมา นายโสภณ กล่าวถึงกรณี เสธ.แดง ส่งคนในพรรคขัตติยะธรรม มาเจรจา ว่า หลังจากตนได้เปิดเผยข้อมูลว่า มีชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่า เสธ.แดง ไปกล่าวคำพูดที่ไม่สมควรจะหลุดออกมาจากปาก ซึ่งเป็นประโยคที่พาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง จนถูกมองว่า เสธ.แดง เป็นทหารแต่ไม่มีจงรักภักดี โดยกรณีนี้คนของ เสธ.แดง ได้ระบุว่า คำพูดของตนที่เคยกล่าวไป ทำให้ เสธ.แดง สติแตก เพราะทนไม่ได้ที่ถูกมองว่าไม่จงรักภักดี ซึ่งคนพรรคขัตติยะธรรม ได้เจรจาให้ตนพูดขอโทษ เพื่อให้เรื่องมันจบไป ทั้งนี้ ตนก็ได้กล่าวตอบว่า ตนไม่ได้พูดเองว่า เสธ.แดง ไม่มีความจงรักภักดี แต่แค่เล่าในสิ่งที่ชาวบ้านบอกกล่าวมา ซึ่งหาก เสธ.แดง ไม่ได้ทำเช่นนั้นหรือไม่ได้กล่าวในสิ่งที่ไม่สมควรพูด ก็ให้นำเทปวันที่ เสธ.แดง ไปพูดที่วัดในจ.ลำปาง ออกมาเปิดเผย
นายโสภณกล่าวอีกว่า หลังจากเจรจากับคนของ เสธ.แดง ไปสักครู่ ก็ได้มีการต่อสายโทรศัพท์ให้ตนพูดคุยโดยตรงกับ เสธ.แดง ซึ่งพออีกฝ่ายรับสาย ตนก็ถามว่า มีอะไรจะพูดกับตนหรือไม่ โดยเมื่อ เสธ.แดง รู้ว่ากำลังคุยกับตนอยู่ ก็ได้บอกว่า ไม่มีอะไร รวมทั้งไม่รู้เรื่องคนที่มาเจรจากับตนครั้งนี้ จากนั้น สายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป ซึ่งคนในพรรคขัตติยะธรรม ก็บอกกับตนว่า เสธ.แดง เป็นคนเช่นนี้ ตนจึงให้ต่อสายถึง เสธ.แดง อีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่รับสายแต่อย่างใด