เวิลด์เด็กซ์ฯปรับทิศรุกอีเวนต์ต่างประเทศปีหน้า โฟกัสตลาดจีนกับอินเดียมากขึ้น มีแนวโน้มดี ตลาดใหญ่ สวนตลาดยุโรปซบเซาลง พร้อมทำตลาดซีอาร์เอ็มมากขึ้น หวังซื้อใจคู่ค้าพันธมิตร
นางสาวนงลักษณ์ ภัทรสกุล ผู้จัดการโครงการ บริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจจัดงานอีเวนต์ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้า 2553 ใหม่ในตลาดต่างประเทศหรือเอาท์บาวด์ โดยจะมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการเจาะตลาดประเทศจีนและอินเดียมากขึ้น เนื่องจากว่าทั้งสองประเทศนี้ มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นตลาดที่ใหญ่มากด้วย ทั้งในแง่ของประชากรและกำลังซื้อของผู้บริโภค
ขณะที่การจัดงานในตลาดยุโรปนั้นบริษัทฯคาดว่าจะลดปริมาณงานให้น้อยลง เพราะว่าหลายประเทศได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจของโลกอย่างมาก รวมทั้งปัจจัยลบหลายประการเช่น ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ระบาด เป็นต้น ส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจนั้นอยู่ในขั้นชะลอตัวลงอย่างมาก โดยในส่วนของบริษัทฯเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกันเพราะปริมาณงานลดลงไปประมาณ 10%จากตลาดยุโรปนี้
โดยช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้เริ่มออกไปพบปะลูกค้าต่างประเทศและโรดโชว์เพื่อเจรจาในการจัดงานบ้างแล้วรวมมากกว่า 40 งาน ซึ่งตลาดหลักอยู่ที่จีนกับอินเดียดังที่กล่าวข้างต้น
อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงสัดส่วนรายได้และปริมาณงานที่มาจากต่างประเทศหรือเอาท์บาวด์เป็นหลักกว่า 90% และงานในประเทศหรืออินบาวด์ 10%
สำหรับปีนี้ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯได้จัดงานไปแล้วรวมทั้งสิ้นมากกว่า 50 งาน ซึ่งมีทั้งงานใหญ่กับไม่ใหญ่คละเคล้ากันไป ซึ่งมีงานหลากหลายประเภททั้ง งานของเล่น งานเกี่ยวกับเด็ก งานเฟอร์นิเจอร์ งานจิวเวลรี เป็นต้น
ทั้งนี้ยอมรับว่าตลาดในประเทศไทย บริษัทฯก็ได้รับกระทบเช่นกันจากภาวะเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองที่มีความวุ่นวายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากงานจะลดลงแล้ว ปริมาณของซัปพลายเออร์หรือค่าที่มออกงานด้วยกันก็ลดลงแล้ว
“จริงๆแล้วความแตกต่างระหว่าง 2 ตลาดคือ ตลาดเอาท์บาวด์หรือต่างประเทศนั้นจะขึ้นอยู่กับวิกฤติเศรษฐกิจของโลกเป็นหลัก แต่ว่าตลาดเอาท์บาวด์ในไทยนี้ยังต้องอิงกับสถานการณ์การเมืองด้วย ซึ่งตอนนี้มันก็ยังไม่ค่อยดี และภาพรวมตลาดอีเวนต์หรือธุรกิจการจัดงานในไทยก็ตกลงไปกว่า 20% แต่ยังมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถมียอดขายเติบโตได้ 15%”
นางสาวนงลักษณ์ กล่าวถึง การปรับตัวในการทำธุรกิจว่า จากนี้ไปจะมุ่งเน้นการทำซีอาร์เอ็มกับลูกค้าที่เป็นคู่ค้ามากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจและความผูกพันต่อกัน ในอันที่จะสามารถรักษาความเป็นลูกค้าไว้ได้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการออกตั๋วเครื่องบินให้ฟรีในการเดินทางไปจัดงานที่ต่างประเทศ การอบรมสัมมนาการนำเสนอผลประโยชน์เช่นการออกกิจกรรมเพิ่มขึ้น เป็นต้น
ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมกับทางบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และพันธมิตรอื่นร่วมกันจัดงาน “คิดส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ 2009” ในวันที่ 1-5 ตุลาคมศกนี้ที่ อิมแพ็คเมืองทองธานี ฮอล์ 5-6 เป็นการจัดงานภายใต้คอนเซปท์ Play and Learn คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานเพื่อออกร้านประมาณ 250-300 บริษัท เพิ่มจากปีก่อน 10-15% ใช้งบประมาณจัดงานรวม 30 ล้านบาท ตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้าชมงานเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้วที่มีประมาณ 450,000 คน
นางสาวนงลักษณ์ ภัทรสกุล ผู้จัดการโครงการ บริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจจัดงานอีเวนต์ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้า 2553 ใหม่ในตลาดต่างประเทศหรือเอาท์บาวด์ โดยจะมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการเจาะตลาดประเทศจีนและอินเดียมากขึ้น เนื่องจากว่าทั้งสองประเทศนี้ มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นตลาดที่ใหญ่มากด้วย ทั้งในแง่ของประชากรและกำลังซื้อของผู้บริโภค
ขณะที่การจัดงานในตลาดยุโรปนั้นบริษัทฯคาดว่าจะลดปริมาณงานให้น้อยลง เพราะว่าหลายประเทศได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจของโลกอย่างมาก รวมทั้งปัจจัยลบหลายประการเช่น ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ระบาด เป็นต้น ส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจนั้นอยู่ในขั้นชะลอตัวลงอย่างมาก โดยในส่วนของบริษัทฯเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกันเพราะปริมาณงานลดลงไปประมาณ 10%จากตลาดยุโรปนี้
โดยช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้เริ่มออกไปพบปะลูกค้าต่างประเทศและโรดโชว์เพื่อเจรจาในการจัดงานบ้างแล้วรวมมากกว่า 40 งาน ซึ่งตลาดหลักอยู่ที่จีนกับอินเดียดังที่กล่าวข้างต้น
อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงสัดส่วนรายได้และปริมาณงานที่มาจากต่างประเทศหรือเอาท์บาวด์เป็นหลักกว่า 90% และงานในประเทศหรืออินบาวด์ 10%
สำหรับปีนี้ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯได้จัดงานไปแล้วรวมทั้งสิ้นมากกว่า 50 งาน ซึ่งมีทั้งงานใหญ่กับไม่ใหญ่คละเคล้ากันไป ซึ่งมีงานหลากหลายประเภททั้ง งานของเล่น งานเกี่ยวกับเด็ก งานเฟอร์นิเจอร์ งานจิวเวลรี เป็นต้น
ทั้งนี้ยอมรับว่าตลาดในประเทศไทย บริษัทฯก็ได้รับกระทบเช่นกันจากภาวะเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองที่มีความวุ่นวายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากงานจะลดลงแล้ว ปริมาณของซัปพลายเออร์หรือค่าที่มออกงานด้วยกันก็ลดลงแล้ว
“จริงๆแล้วความแตกต่างระหว่าง 2 ตลาดคือ ตลาดเอาท์บาวด์หรือต่างประเทศนั้นจะขึ้นอยู่กับวิกฤติเศรษฐกิจของโลกเป็นหลัก แต่ว่าตลาดเอาท์บาวด์ในไทยนี้ยังต้องอิงกับสถานการณ์การเมืองด้วย ซึ่งตอนนี้มันก็ยังไม่ค่อยดี และภาพรวมตลาดอีเวนต์หรือธุรกิจการจัดงานในไทยก็ตกลงไปกว่า 20% แต่ยังมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถมียอดขายเติบโตได้ 15%”
นางสาวนงลักษณ์ กล่าวถึง การปรับตัวในการทำธุรกิจว่า จากนี้ไปจะมุ่งเน้นการทำซีอาร์เอ็มกับลูกค้าที่เป็นคู่ค้ามากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจและความผูกพันต่อกัน ในอันที่จะสามารถรักษาความเป็นลูกค้าไว้ได้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการออกตั๋วเครื่องบินให้ฟรีในการเดินทางไปจัดงานที่ต่างประเทศ การอบรมสัมมนาการนำเสนอผลประโยชน์เช่นการออกกิจกรรมเพิ่มขึ้น เป็นต้น
ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมกับทางบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และพันธมิตรอื่นร่วมกันจัดงาน “คิดส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ 2009” ในวันที่ 1-5 ตุลาคมศกนี้ที่ อิมแพ็คเมืองทองธานี ฮอล์ 5-6 เป็นการจัดงานภายใต้คอนเซปท์ Play and Learn คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานเพื่อออกร้านประมาณ 250-300 บริษัท เพิ่มจากปีก่อน 10-15% ใช้งบประมาณจัดงานรวม 30 ล้านบาท ตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้าชมงานเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้วที่มีประมาณ 450,000 คน
