“อนุดิษฐ์” ยังตื๊อไม่เลิก อ้าง “กรณ์” บิดเบือนแจงบัตรทองอัพเกรดตั๋วการบินไทย 14 เที่ยวบิน โวมีหลักฐานในมือ แฉซ้ำลูกชายกรณ์ยังใช้บัตรเงิน อัปจากชั้นประหยัด เป็นชั้นธุรกิจได้ ชี้รับทรัพย์สินเกิน 3 พันบาทเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน ผิดกฎหมาย ป.ป.ช. เล็งยื่นสอบในสัปดาห์นี้ พ่วง กมธ.พาณิชย์ ตามเช็กบิล เรียกชี้แจง ขู่ใช้เป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป
วันนี้ (4 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เวลา 10.00 น. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานปราบโกง (ส.ป.ก.4-01) แถลงข่าวตอบโต้กรณีการอัพเกรดตั๋วการเดินทางของนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังและครอบครัวว่า จากการออกมาตอบโต้ของนายกรณ์ที่ผ่านมา ไม่ตรงประเด็นหรือข้อสังเกตในการตรวจสอบ ยังมีการบิดเบือนบ่ายเบี่ยงประเด็นกับที่ฝ่ายต้านได้ออกมาตรวจสอบว่า มีการอัปเกรดตั๋วของนายกรณ์ และครอบครัว 14 เที่ยวบิน ซึ่งทั้งหมดเรามีหลักฐานยืนยันอย่างแน่นอน และต้องขอบคุณ ทางบริษัทการบินไทยที่ออกชี้แจงให้ความกระจ่างของผู้ที่ที่มีสิทธิ์ได้รับการอัพเกรดเลื่อนชั้นการเดินทาง ซึ่งเชื่อว่าการบินไทยไม่ได้ทำผิดต่อระเบียบการอัพเกรดการเดินทางแต่อย่างใด ความถูกต้องของการบินไทย ไม่สามารถรับรองความถูกต้องการอัพเกรดได้ แต่การที่นายกรณ์ออกมาปฎิเสธว่าตนและครอบครัวไม่เคยได้รับการอัพเกรดตั๋วจากการบินไทย โดยอ้างมีบัตรทองและสามารถอัดเกรดได้ตามสิทธิ์นั้น ความจริงเราไม่ได้ระบุเลยว่าการเดินทางทั้ง 14 เที่ยว เป็นของนายกรณ์คนเดียว แต่จากหลักฐานที่ได้รับมาเป็นบันทึกการเดินทางของนายกรณ์เพียง 2 เที่ยวเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นการเดินทางไปราชการแต่อย่างใด เป็นการเดินทางกลับจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษและการเดินทางไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
“โดยในหลักฐานบันทึกการเดินทางจากกรุงเทพไปกรุงปารีส ในเที่ยวบินที่ TG 930 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2552 หมายเลขที่นั่ง 16A พบว่าเป็นการเลื่อนชั้นจากชั้นประหยัด แบบราคาพิเศษ ขึ้นเป็นชั้นธุรกิจและมีการบันทึกการความเห็นของเจ้าหน้าที่ในบันทึกการเดินทางว่าAUTH UPGC RT BKKNNTG 251015SH/MAY09 ซึ่งเป็นการยืนยันว่าการเดินทางดังกล่าว มีการอัพเกรดด้วยการอนุมัติโดยผู้มีอำนาจของการบินไทย และบันทึกการเดินทางกลับจากกรุงลอนดอนกับกรุงเทพฯ ก็พบว่ามีการอัปเกรดด้วยการอนุมัติจากผู้มีอำนาจในการบินไทยอีกเช่นกันซึ่งประเด็นนี้ขัดแย้งกับคำชี้แจงของนายกรณ์อย่างมาก ซึ่งไม่ได้เป็นการอัปเกรดโดยสิทธิการถือบัตรทองแต่อย่างใด” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า จากการชี้แจงของการบินไทยได้ระบุว่าการอัปเกรดเป็นกรณีพิเศษที่ปรากฏอยู่บางเที่ยวสามารถปฏิบัติได้ ในกรณีการอัปเกรดให้ผู้นำประเทศ ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศในระดับนานาชาติ ข้าราชการประจำหรือการเมืองระดับสูงสุด ที่เดินทางเป็นผู้แทนประเทศในการประชุมระดับประเทศ แต่กรณีของนายกรณ์เป็นการรับการอัปเกรดตั๋วเป็นกรณีพิเศษหรือไม่ ในข้อเท็จจริงที่ไม่พบว่านายกรณ์จะซื้อตั๋วชั้นไหนก็เป็นสิทธิ์ แต่ใน 14 เที่ยวเป็นการเดินทางโดยส่วนตัว แต่พฤติกรรมพบว่ามีการซื้อตั๋วราคาถูกแล้วไปนั่งในชั้นที่ราคาแพงโดยมีผู้มีอำนาจของการบินไทยอัปเกรดตั๋วให้ เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งหากเป็นการใช้สิทธิ์ตามไมล์สะสมก็ไม่ติดใจ แต่หากเป็นการอัดเกรดโดยใช้บัตรของขวัญ หรือกิฟวอยเชอร์ซึ่งมีมูลค่าราคาเกินกว่า 3,000 บาท ให้นายกรณ์และครอบครัว ถ้ารับมาไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ารับมาแล้วใช้จริง สมควรหรือไม่ อีกทั้งนายกรณ์ยังเป็น รมว.คลัง ที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจอย่างบริษัทการบินไทยด้วย เป็นการกระทำที่ขัดต่อจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้น ฝ่ายค้านก็จะเข้ายื่นให้ ป.ป.ช.ในสัปดาห์นี้เพื่อให้พิจารณาว่าการรับทรัพย์สินที่มีราคาเกินกว่า 3,000 บาท เข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.หรือไม่
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้การบินไทยประสบปัญหาด้านการเงินอยู่แล้ว กระทั่งนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท การบินไทย เคยกล่าวไว้ว่า “หากรักผม รักการบินไทย ก็ขอให้เห็นใจ อย่านำประเด็นเด็กมาฝากทำงาน หรือแม้แต่ขอปรับระดับชั้นที่นั่ง หรืออัปเกรด จากชั้นอีโคโนมี เป็นบิซิเนส หรือจากบิซิเนส เป็นเฟิสต์คลาส ก็ขออย่าทำ เพราะนั่นคือการแทรกแซงอย่างหนึ่งเหมือนกัน” เรื่องนี้น่าจะเป็นการยืนยันว่านายปิยสวัสดิ์เข้าใจพฤติกรรมการใช้สิทธิพิเศษหรือการใช้อำนาจของนักการเมืองในการเข้าแทรกแซงการบินไทยเป็นอย่างดี เพราะเที่ยวบินไปลอนดอน ตกประมาณ 4 หมื่นบาท แต่อัปเกรดเป็นชั้นธุรกิจ ราคา 1.5 แสนบาท ทำให้การบินไทยสูญเสียรายได้ที่พึงได้ เป็นคำถามทางจริยธรรมที่นายกรณ์จะต้องตอบคำถาม
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ตนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนและหลักฐานให้คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร จะตรวจสอบเรื่องนี้แล้วโดยตนจะเข้าชี้แจงเรื่องทั้งหมดต่อคณะกรรมาธิการชุดนี้ในวันที่ 6 ม.ค.นี้ และเพื่อได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไปและขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสภาอย่างแน่นอน
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้การที่นายกรณ์และครอบครัวอ้างว่าใช้บัตรทองในการอัพเกรดตั๋วเครื่องบินนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะในเที่ยวบินที่ TG910 ที่บินจากสุวรรณภูมิไปยังท่าอากาศยานฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ในวันที่ 22 พ.ค. 2552 และเที่ยวบินที่ TG 917 จากลอนดอนมาสุวรรณภูมิ ออกเดินทางวันที่ 31 พ.ค. 2552 ของนายไกรสิริ จาติกวณิชย์ ลูกชายนายกรณ์ บันทึกการเดินทางระบุชัดเจนว่านายไกรสิริเป็นลูกค้าระดับบัตรเงิน ซื้อตั๋วชั้นประหยัดด้วยวิธีพิเศษที่ราคาต่ำกว่าตั๋วชั้นประหยัดทั่วไป และได้มีการติดต่อกับผู้บริหารการบินไทยคนหนึ่งเพื่ออัพเกรดให้เป็นที่นั่งชั้นธุรกิจ นี่คือสิ่งที่นายกรณ์จะต้องตอบคำถามและตนจะนำเรื่องนี้ไว้อภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย
อย่างไรก็ตาม กรณีการอัปเกรดตั๋วการบินไทยของนายกรณ์และครอบครัวนั้น ทางผู้บริหารการบินไทยได้ออกมาแถลงก่อนหน้านี้ว่า เป้นการใช้สิทธิจากบัตรทองและการมีไมล์สะสมจำนวนมากในการอัพเกรด เนื่องจากนายกรณ์และครอบครัวเดินทางบ่อยและมีไมล์สะสมจำนวนมากจึงสามารถอัพเกรดได้ โดยไม่ต้องใช้สิทธิพิเศษแต่อย่างใด ซึ่งในการอัพเกรดแต่ละครั้งนายกรณ์และครอบครัวได้ใช้เงินส่วนตัวจ่ายค่าตั๋วทุกครั้ง
นอกจากนี้ นางวรกร จาติกวณิช ภรรยาของนายกรณ์ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยไว้แล้ว กรณีที่นำเรื่องดังกล่าวซึ่งเป็นความเท็จมากล่าวหาทำให้เกิดความเสียหาย