ASTVผู้จัดการ - การบินไทยการันตี “เมีย -กรณ์” ไม่ได้เบ่ง อัปเกรดถูกระเบียบบริษัท ด้านแก๊งเพื่อแม้วยกโขยงบุกกองปราบฯ แก้เกี้ยว ฟ้อง อาญา แถมใช้วิชามาร อ้างถูกข่มขู่
ม.ล.อัจฉราพร ณ สงขลา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ บริษัท การบินไทยจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยได้ตรวจสอบเที่ยวบินทั้งหมด 21 เที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 13มี.ค.-10 พ.ย.2552 พบว่า บัตรโดยสารทั้งหมดเป็นบัตรโดยสารที่จ่ายเงินทั้งสิ้นและการอัพเกรดต่างๆ เป็นการดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบของการเป็นสมนชิกบัตรทอง รอยัล ออร์คิด พลัส (ROP) และสามารถชี้แจงได้
ทั้งนี้ การออกมาชี้แจงของการบินไทยดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลกรณีนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ใช้สิทธิรัฐมนตรีขออัพเกรดบัตรโดยสารเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อเดินทางไปต่างประเทศแก่ตนเองและครอบครัว มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท แต่จ่ายค่าบัตรโดยสารจริง เพียง 400,000 บาท โดยอ้างว่ามีพนักงานและผู้ถือหุ้นส่งเอกสารมาให้ตรวจสอบ
โดยในกรณีเดียวกันนี้ นางวรกร จาติกวณิช ภรรยานายกรณ์ จาติกวณิช ได้ไปแจ้งความที่ สน. บางรัก เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2552 ที่ผ่านมา เรื่องถูกกล่าวหาว่าใช้อภิสิทธิ์อัพเกรดบัตรโดยสารเครื่องบินของการบินไทยไปแล้ว
ม.ล.อัจฉราพรชี้แจงอีกว่า การอัพเกรดตามสิทธิของสมาชิกบัตรทอง ของรายการสะสมไมล์ รอยัล ออร์คิด พลัส สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ
1.การใช้สิทธิเลื่อนชั้นบัตรโดยสารที่สมาชิกบัตรทองทุกท่านจะได้รับ Complimentary Gold Upgrade เมื่อได้รับสถานภาพบัตรทองจากการบินสะสมไมล์ จำนวน 50,000 ไมล์ ภายใน 1 ปี หรือ 80,000 ไมล์ ภายใน 2 ปี
2.การใช้สิทธิเลื่อนชั้นบัตรโดยสารจาก Gold Upgrade Certificate 2009 ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษให้สำหรับสมาชิกบัตรทอง โดยสามารถใช้อัพเกรดได้เพียงเที่ยวเดียว และในกรณีที่มีที่นั่งว่างในชั้นที่ต้องการอัพเกรด
“การอัพเกรดอื่นๆ เป็นการอัพเกรดที่หน้างาน ซึ่งเกิดขึ้นในกรณีที่เที่ยวบินนั้นๆ มีผู้โดยสารสำรองเกินจำนวนที่นั่งในชั้นประหยัดหรือชั้นธุรกิจ ซึ่งอาจต้องมีการเลื่อนชั้นผู้โดยสารบางท่านเป็นชั้นเหนือขึ้นไปตามแนวทางการบริหารที่นั่งให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมีหลักเกณฑ์ที่มีไว้ชัดเจนและถือว่าเป็นหลักสากลที่ทุกสายการบินทุกสายสามารถปฏิบัติได้ โดยพิจารณาจากความเหมาะสมต่างๆ โดยเฉพาะการให้ลำดับความสำคัญกับลูกค้าชั้นดีที่เดินทางสม่ำเสมอ ซึ่งนายกรณ์และครอบครัว ก็เข้าข่ายดังกล่าว”
ม.ล.อัจฉราพร กล่าวอีกว่า การอัพเกรดเป็นกรณีพิเศษที่ปรากฏอยู่บางเที่ยวบินนั้น เป็นกรณีที่สามารถปฏิบัติได้โดยมีหลักเกณฑ์เช่นกัน ได้แก่ การอัพเกรดสำหรับผู้นำประเทศ ผู้ทำคุณประโยชน์ของประเทศไทยในระดับนานาชาติ ข้าราชการประจำหรือการเมืองระดับสูงสุดที่เดินทางเป็นผู้แทนประเทศไทยในการประชุมระดับประเทศ รวมทั้งผู้โดยสารที่เดินทางกับบริษัทแบบราคาเต็มอย่างต่อเนื่องยาวนานในชั้นธุรกิจ หรือชั้นหนึ่ง ทั้งนี้ ขึ้นกับจำนวนที่นั่งที่มีเหลืออยู่เท่านั้น โดยไม่มีสิ่งใดปรากฎว่านายกรณ์ใช้อำนาจ ตำแหน่ง หน้าที่ สั่งการมายังการบินไทยแต่อย่างใด
“กรณีของนายกรณ์ และครอบครัวนั้น นายกรณ์ และภรรยาเป็นลูกค้าระดับบัตรทองของการบินไทย มีไมล์สะสมจำนวนมาก ทั้งครอบครัวมีประวัติการเดินทางโดยบัตรโดยสารเต็มราคาเป็นประจำ มีสถิติการซื้อบัตรโดยสารของการบินไทยและเดินทางเป็นจำนวนมากตลอดมา อีกทั้งการอัพเกรดต่างๆ เหล่านี้ เป็นการดำเนินการด้วยกฎเกณฑ์ที่วางไว้”
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บริษัทได้มีการอนุมัติเป็นกรณีพิเศษใดๆ นั้น จะไม่มีการริดรอนสิทธิ์ที่นั่งของผู้โดยสารปกติแต่ประการใดทั้งสิ้น ส่วนเรื่องสัมภาระน้ำหนักเกินจากสิทธิ์ของผู้โดยสารนั้น พบว่าการเดินทางของนายกรณ์และครอบครัวไม่ปรากฎว่ามีน้ำหนักเกินแต่อย่างใด
**พท.ตะแบงฟ้องกองปราบฯ
วันเดียวกันนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, นายการุณ โหสกุล ส.ส.เพื่อไทย และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรค พร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในข้อหาผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ หรือกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 กรณีอัปเกรดตั๋วเครื่องบินเป็นชั้นเฟิร์สต์คลาส
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ได้นำเอกสารและหลักฐานที่มีการบันทึกการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรณ์ และครอบครัว ที่มีการอัพตั๋วเครื่องบินมาให้พนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมอ้างว่าหลังจากเปิดเผยข้อมูล ได้มีกลุ่มคนติดตามตนและคนในครอบครัวลักษณะคล้ายการข่มขู่ จึงขอประณามและเรียกร้องให้ยุติการกระทำ ส่วนกรณีภรรยาของนายกรณ์แจ้งความดำเนินคดีตนที่ สน.บางรัก พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาทนั้น หากตนได้รับหมายเรียกก็พร้อมจะเข้ามอบตัวสู้คดี
ม.ล.อัจฉราพร ณ สงขลา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ บริษัท การบินไทยจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยได้ตรวจสอบเที่ยวบินทั้งหมด 21 เที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 13มี.ค.-10 พ.ย.2552 พบว่า บัตรโดยสารทั้งหมดเป็นบัตรโดยสารที่จ่ายเงินทั้งสิ้นและการอัพเกรดต่างๆ เป็นการดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบของการเป็นสมนชิกบัตรทอง รอยัล ออร์คิด พลัส (ROP) และสามารถชี้แจงได้
ทั้งนี้ การออกมาชี้แจงของการบินไทยดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลกรณีนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ใช้สิทธิรัฐมนตรีขออัพเกรดบัตรโดยสารเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อเดินทางไปต่างประเทศแก่ตนเองและครอบครัว มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท แต่จ่ายค่าบัตรโดยสารจริง เพียง 400,000 บาท โดยอ้างว่ามีพนักงานและผู้ถือหุ้นส่งเอกสารมาให้ตรวจสอบ
โดยในกรณีเดียวกันนี้ นางวรกร จาติกวณิช ภรรยานายกรณ์ จาติกวณิช ได้ไปแจ้งความที่ สน. บางรัก เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2552 ที่ผ่านมา เรื่องถูกกล่าวหาว่าใช้อภิสิทธิ์อัพเกรดบัตรโดยสารเครื่องบินของการบินไทยไปแล้ว
ม.ล.อัจฉราพรชี้แจงอีกว่า การอัพเกรดตามสิทธิของสมาชิกบัตรทอง ของรายการสะสมไมล์ รอยัล ออร์คิด พลัส สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ
1.การใช้สิทธิเลื่อนชั้นบัตรโดยสารที่สมาชิกบัตรทองทุกท่านจะได้รับ Complimentary Gold Upgrade เมื่อได้รับสถานภาพบัตรทองจากการบินสะสมไมล์ จำนวน 50,000 ไมล์ ภายใน 1 ปี หรือ 80,000 ไมล์ ภายใน 2 ปี
2.การใช้สิทธิเลื่อนชั้นบัตรโดยสารจาก Gold Upgrade Certificate 2009 ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษให้สำหรับสมาชิกบัตรทอง โดยสามารถใช้อัพเกรดได้เพียงเที่ยวเดียว และในกรณีที่มีที่นั่งว่างในชั้นที่ต้องการอัพเกรด
“การอัพเกรดอื่นๆ เป็นการอัพเกรดที่หน้างาน ซึ่งเกิดขึ้นในกรณีที่เที่ยวบินนั้นๆ มีผู้โดยสารสำรองเกินจำนวนที่นั่งในชั้นประหยัดหรือชั้นธุรกิจ ซึ่งอาจต้องมีการเลื่อนชั้นผู้โดยสารบางท่านเป็นชั้นเหนือขึ้นไปตามแนวทางการบริหารที่นั่งให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมีหลักเกณฑ์ที่มีไว้ชัดเจนและถือว่าเป็นหลักสากลที่ทุกสายการบินทุกสายสามารถปฏิบัติได้ โดยพิจารณาจากความเหมาะสมต่างๆ โดยเฉพาะการให้ลำดับความสำคัญกับลูกค้าชั้นดีที่เดินทางสม่ำเสมอ ซึ่งนายกรณ์และครอบครัว ก็เข้าข่ายดังกล่าว”
ม.ล.อัจฉราพร กล่าวอีกว่า การอัพเกรดเป็นกรณีพิเศษที่ปรากฏอยู่บางเที่ยวบินนั้น เป็นกรณีที่สามารถปฏิบัติได้โดยมีหลักเกณฑ์เช่นกัน ได้แก่ การอัพเกรดสำหรับผู้นำประเทศ ผู้ทำคุณประโยชน์ของประเทศไทยในระดับนานาชาติ ข้าราชการประจำหรือการเมืองระดับสูงสุดที่เดินทางเป็นผู้แทนประเทศไทยในการประชุมระดับประเทศ รวมทั้งผู้โดยสารที่เดินทางกับบริษัทแบบราคาเต็มอย่างต่อเนื่องยาวนานในชั้นธุรกิจ หรือชั้นหนึ่ง ทั้งนี้ ขึ้นกับจำนวนที่นั่งที่มีเหลืออยู่เท่านั้น โดยไม่มีสิ่งใดปรากฎว่านายกรณ์ใช้อำนาจ ตำแหน่ง หน้าที่ สั่งการมายังการบินไทยแต่อย่างใด
“กรณีของนายกรณ์ และครอบครัวนั้น นายกรณ์ และภรรยาเป็นลูกค้าระดับบัตรทองของการบินไทย มีไมล์สะสมจำนวนมาก ทั้งครอบครัวมีประวัติการเดินทางโดยบัตรโดยสารเต็มราคาเป็นประจำ มีสถิติการซื้อบัตรโดยสารของการบินไทยและเดินทางเป็นจำนวนมากตลอดมา อีกทั้งการอัพเกรดต่างๆ เหล่านี้ เป็นการดำเนินการด้วยกฎเกณฑ์ที่วางไว้”
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บริษัทได้มีการอนุมัติเป็นกรณีพิเศษใดๆ นั้น จะไม่มีการริดรอนสิทธิ์ที่นั่งของผู้โดยสารปกติแต่ประการใดทั้งสิ้น ส่วนเรื่องสัมภาระน้ำหนักเกินจากสิทธิ์ของผู้โดยสารนั้น พบว่าการเดินทางของนายกรณ์และครอบครัวไม่ปรากฎว่ามีน้ำหนักเกินแต่อย่างใด
**พท.ตะแบงฟ้องกองปราบฯ
วันเดียวกันนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, นายการุณ โหสกุล ส.ส.เพื่อไทย และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรค พร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในข้อหาผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ หรือกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 กรณีอัปเกรดตั๋วเครื่องบินเป็นชั้นเฟิร์สต์คลาส
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ได้นำเอกสารและหลักฐานที่มีการบันทึกการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรณ์ และครอบครัว ที่มีการอัพตั๋วเครื่องบินมาให้พนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมอ้างว่าหลังจากเปิดเผยข้อมูล ได้มีกลุ่มคนติดตามตนและคนในครอบครัวลักษณะคล้ายการข่มขู่ จึงขอประณามและเรียกร้องให้ยุติการกระทำ ส่วนกรณีภรรยาของนายกรณ์แจ้งความดำเนินคดีตนที่ สน.บางรัก พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาทนั้น หากตนได้รับหมายเรียกก็พร้อมจะเข้ามอบตัวสู้คดี