xs
xsm
sm
md
lg

"กรณ์"กร้าว ล้างบินไทย ขู่ พท.ติดคุก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ส.ส.เพื่อไทยอ้างมีแม่ ภรรยาและญาติทำงานในการบินไทย บอกบัตรทองเมีย "กรณ์" ใช้อัปเกรดไม่ได้ ขู่ผู้บริหารการบินไทยอย่าคิดที่จะบิดเบือนหรือเปลี่ยนช่วยเหลือ ระวังจะติดคุกเพราะมีหลักฐาน รมว.คลังเตรียมฟ้องเพิ่ม เชื่อถูกเล่นงานเพราะไปขวางผลประโยชน์ ยันเดินหน้าล้างบางฟื้นศักดิ์ศรีการบินไทย

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ในฐานะผู้อำนาวยการสำนักงานปราบโกง พร้อมทั้งทีมงาน เปิดหลักฐานแถลงข่าวตอบโต้ ภายหลังนางวรกร จาติกวณิช ภรรยา นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้แจ้งความดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหาย 30 ล้านบาท โดยอ้างว่า ที่นางวรกรระบุว่าใช้สิทธิการเป็นสมาชิกบัตรทองอัปเกรดที่นั่งนั้น แม่และภรรยาของตน รวมทั้งพี่ป้าน้าอาทำงานอยู่ในการบินไทย ทุกคนยืนยันว่าบัตรทองนั้นใช้อัพเกรดที่นั่งไม่ได้ แต่สามารถใช้ได้ในบางกรณีเท่านั้น ส่วนการใช้การสะสมไมค์เพื่อเลื่อนชั้นการเดินทางนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องทำก่อนการเดินทาง ซึ่งจะมีการออกตั๋วชนิดนั้นๆ ออกมา และจะมีการกำหนดเป็นโค้ดหรือรหัสไว้ในตั๋วด้วย

"แต่จากหลักฐานที่ตนมีนั้นไม่ได้เลื่อนชั้นการเดินทางด้วยการสะสมไมล์หรือบัตรทอง ส่วนการใช้กิฟต์วอเชอร์ของบริษัทการบินไทย ฯนั้น สามารถเลื่อนชั้นการเดินทางได้ แต่สามารถใช้ได้เพียงแค่ปีละ 1 ครั้งและจะเป็นการเดินทางเพียงเที่ยวเดียวเท่านั้น จะเป็นขาไปหรือขากลับก็ได้" น.อ.อนุดษฐ์แถลง

สำหรับการออกบัตรของขวัญนั้นถือเป็นอำนาจของผู้บริหารบริษัทการบินไทยหรือดีเอ็มที่สามารถแจกแบบเฉพาะบุคคล จึงเป็นคำถามว่า นางวรกรได้บัตรของขวัญนี้มาได้อย่างไร รวมทั้งสมาชิกบัตรทองท่านอื่นๆ ก็ไม่ได้รับกิฟต์วอเชอร์นี้เหมือนกับนางวรกร ที่สำคัญถือเป็นของขวัญที่มีมูลค่าเกิน 3 พันบาท และเป็นการให้แบบเฉพาะเจาะจง ดังนั้นนางวรกรซึ่งเป็นภรรยารัฐมนตรี ไปรับกิฟต์วอเชอร์นี้มาได้อย่างไร เป็นการเข้าข่ายการรับสินบนหรือไม่

**จี้ถาม “วรกร” ใครคือ “LONAA”

น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา (28 ธ.ค.) ได้รับแจ้งว่า ดีเอ็มของบริษัทการบินไทยได้มีการประชุมกันอย่างเคร่งเครียด และไม่แน่ใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ หรือไม่ แต่ขอเตือนว่า ตนได้เก็บข้อมูลหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว ดังนั้นหากใครคิดที่จะบิดเบือนหรือเปลี่ยนข้อมูลระวังจะติดคุก ยืนยันว่าตนไม่มีความประสงค์จะกล่าวถึงบุคคลที่ 3 แต่เมื่อนางวรกรประสงค์จะตอบโต้ ตนจึงมีคำถามย้อนกับไปว่า นางวรกรกับ “LONAA” ที่เป็นผู้มีอำนาจในการเลื่อนชั้นการเดินทางให้นั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ยืนยันว่าการออกมาเปิดเผยเอกสารของพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ได้เป็นการใส่ร้ายนายกรณ์และครอบครัว แต่พนักงานการบินไทยนำหลักฐานมาให้กับพรรคเพื่อไทยตรวจสอบ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับการบินไทย

**หวังสูง ให้ “กรณ์” ลาออก

“ขอเรียกร้องนายกรณ์ว่า พวกตนพร้อมต่อสู้คดี แต่หากมีการดำเนินการกับพวกตนที่ทำการตรวจสอบ โดยใช้กระบวนการทางยุติธรรมมาปิดปากนั้น เราก็จำเป็นจะต้องนำข้อมูลทั้งหมดไปร้องเรียนต่อป.ป.ช.และกองปราบฯต่อไป โดยขณะนี้กำลังปรึกษากับทีมกฎหมายเพื่อที่จะไปยื่นก่อนปีใหม่ ยืนยันว่าเราพร้อมสู้คดีอยู่บนเอกสารข้อเท็จจริง แต่ถ้าเอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องจริง นายกรณ์พร้อมหรือยังที่จะลาออกจากตำแหน่ง รมว.คลังที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจที่ชื่อการบินไทย”

น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวด้วยว่า ได้รับเอกสารเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรัฐมนตรีที่มีความเกี่ยวข้องกับนายกรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อน ส่วนกรณีที่นายกรณ์ออกมาระบุว่าจะปัดกวาดการบินไทยร่วมกับนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมนั้น อยากบอกว่าตลอดเวลา 1 ปีที่กำกับดูแลการบินไทย ทั้ง 2 คนได้ทำอะไรให้กับการบินไทยบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่น.อ.อนุดิษฐ์แถลงข่าวนั้น ได้ใช้ข้อมูลบันทึกการเดินทางจริงของนายกรณ์ และครอบครัว มานำเสนอผ่านพาวเวอร์ พอยท์ โดยมีทั้งการยกตัวอย่างการซื้อตัวเดินทางและการเดินทางอย่างถูกต้อง เช่น ของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยซื้อตั๋วเต็มราคาในชั้นธุรกิจและเดินทางในชั้นธุรกิจมาเป็นตัวอย่างด้วย ขณะที่บันทึกการบินของนางวรกรนั้น เที่ยวบินที่มีการเดินทางไปลอนดอน ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 27 มี.ค.2552 ได้ซื้อตั๋วชั้นธุรกิจแต่ได้รับการเลื่อนชั้นการเดินทางเป็นชั้นเฟิร์สคลาส โดยใช้กิฟต์วอเชอร์ ซึ่งเป็นการใช้อำนาจของผู้บริหารการบินไทยหรือ“DM” ส่วนเที่ยวบินขากลับเมื่อวันที่ 3 เม.ย.52 นั้นกลับไม่มีการระบุว่าใครที่เป็นผู้อัพเกรดชั้นการเดินทางให้และใช้สิทธิอะไร เพราะซื้อตั๋วชั้นธุรกิจแต่บินแบบเฟิร์สคลาส

สำหรับการเดินทางของบุตรนายกรณ์ไปลอนดอน ประเทศอังกฤษนั้น มีการซื้อตั๋วแบบชั้นประหยัดและได้ในราคาที่ถูกกว่าชั้นประหยัดแต่ได้อัพเกรดที่นั่งเป็นชั้นธุรกิจ โดยมีคอมเมนต์ไว้ที่ตั๋วด้วยว่า ให้ติดต่อ KO-B สำหรับการอัพเกรดไปเป็นชั้นธุรกิจ รวมทั้งให้รีเฟอร์ถึง BKKSUTG 210940CW ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าตำแหน่งบุคคลที่อัพเกรดให้นั้นไม่ได้เป็นการใช้ไมค์สะสมและกิฟต์วอเชอร์ แต่เป็นการอัพเกรดให้โดย BKKSUTG 210940CW และขากลับก็ได้อัพเกรดที่นั่งด้วยเช่นเดียวกัน

ส่วนนายกรณ์นั้นได้เดินทางกลับจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยซื้อตั๋วชั้นธุรกิจแล้วได้รับการอัพเกรดที่นั่งเป็นชั้นเฟิร์สคลาส์ โดย”LONAA” ซึ่งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายพาณิชย์ที่มีออฟฟิตอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในขณะที่ของนางวรกรนั้น ก็ยังได้ซื้อตั๋วชั้นธุรกิจแต่ได้รับการอัพเกรดเป็นเฟิร์สคลาสโดย “LONAA” ด้วยเช่นกัน

**"กรณ์" ฟ้องเพิ่ม-ล้างบางบินไทย

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า ได้ให้ที่ปรึกษาด้านกฎหมายดำเนินการฟ้องร้องในข้อหา หมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และจะเรียกร้องค่าเสียหาย ส่วนจะเป็นเท่าใดนั้น ต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง การที่ตนเองฟ้องร้องครั้งนี้ ต่างกรรมต่างวาระกับที่ภรรยาของตนเองที่ฟ้องร้องไปก่อนหน้านี้ เพราะถือว่าได้ให้โอกาสที่จะขอโทษแล้ว ยังไม่มาขอโทษ ขอฝากเตือนไปยังพรรคเพื่อไทยด้วยว่า หากจะตรวจสอบก็ขอให้ใช้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นต้องรับผิดชอบด้วย และถ้าป้ายสีกัน ก็สมควรจะโดนฟ้องร้อง

ทั้งนี้ มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า ในการเดินทางไปต่างประเทศ 5 ครั้งนั้น ไปปฏิบัติราชการ 4 ครั้ง ไปส่วนตัวเพียงครั้งเดียว และกรณีที่พาภรรยาไปด้วยนั้น ทั้งค่าที่พักและค่าพาหนะ ตนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ไม่ได้เบิกเงินราชการเพราะไม่ต้องการเป็นภาระภาษีของประชาชน ซึ่งตนจะเบิกย้อนหลังก็ยังได้ เป็นเงินกว่า 1-2 ล้านบาท แต่ไม่คิดทำเช่นนั้น และมีหลักฐานยืนยันได้ว่าซื้อตัวชั้นธุรกิจ ไม่เคยซื้อตัวชั้นประหยัดเลยซักครั้งเดียว เมื่อซื้อชั้นธุรกิจ ก็สามารถที่จะอัพเกรดเป็นชั้น 1 ได้ หากมีที่ว่างตามระเบียบปกติ

“การที่ผมและกระทรวงคมนาคมเข้าไปแก้ปัญหาภายในการบินไทยนั้น คงไปกระทบกับผลประโยชน์อันมหาศาลที่รู้ๆ กันอยู่ ซึ่งผมก็ทราบว่าจะมีความเสี่ยงต่อการที่จะมีผู้ออกมาทำร้ายเรา ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าเรามาถูกทางแล้ว กำลังเข้าใกล้รังแตนมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตัวผมแล้ว ถือว่าเป็นภัยปกติจากการปฏิบัติหน้าที่ แต่ถ้าข้อมูลที่พรรคเพื่อไทยนำมาโจมตีนั้นไม่ถูกต้อง ก็ต้องรับผิดชอบ จะปฏิเสธไม่ได้ และผมยืนยันกับพนักงานการบินไทยว่าจะเร่งแก้ปัญหาในการบินไทยให้กลับมาเป็นบริษัทที่น่าภาคภูมิใจของพนักงานอีกครั้ง และผมเองก็ยืนยันว่าจะขึ้นการบินไทยทุกครั้งไม่เคยเปลี่ยนความตั้งใจ”

**'โสภณ'ชี้งานนี้ไม่เกี่ยวการเมือง

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงขั้นตอนของการเลื่อนระดับชั้นของที่นั่งบนเครื่องบิน (อัพเกรด) ของการบินไทยว่า การเลื่อนระดับชั้นที่นั่ง ตามระเบียบได้มีการกำหนดไว้อยู่แล้ว ซึ่งผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารหากจะขออัพเกรดจะต้องมีการดำเนินการทำเรื่องเสนอให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย และรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการพาณิชย์ เป็นผู้เห็นชอบและอนุมัติ รวมทั้งจะต้องเสนอเรื่องเพื่อขออนุมัติก่อนการเดินทาง 72 ชั่วโมง

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า รมว.กระทรวงการคลัง ได้จองบัตรโดยสารชั้นประหยัดเพื่อนำภรรยาและลูกเดินทางไปประเทศอังกฤษ แต่ได้มีการอัพเกรดที่นั่งทุกครั้งไปยังชั้นบิสสิเนสคลาส ว่า เรื่องดังกล่าวตนยังไม่ได้รับรายงาน แต่ให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารการบินไทย จะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องการเมืองอย่างเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น