“เทพไท” ปัด “มาร์ค” ตีสองหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ยันทำได้ไม่มีปัญหา เตือนขุดปี 40 ใช้ระวังตกหลุมพลาง “นช.แม้ว” แย้งควรฟังความเห็นจากหลายฝ่ายก่อน มิฉะนั้นอาจเจอแรงกดดันทางสังคมได้ คาดประชาธิปัตย์เตรียมถกประเด็นในการประชุม ส.ส.พรรค 22-24 ม.ค.53
วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีพรรคร่วมรัฐบาลกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า ตีสองหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนขอยืนยันว่านายกฯ ไม่มีท่าทีที่จะตีสองหน้าตามที่ถูกกล่าวหา ยังยืนยันจุดยืนเดิมว่ารัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้ ไม่มีปัญหา เพียงแต่อยากให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่าย เพราะไม่อยากให้กลายเป็นความขัดแย้งในสังคม ทั้งนี้ มีความเห็นใจที่พรรคการเมืองบางพรรคไม่อยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งทางสังคม
ส่วนกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 94 เกี่ยวกับเขตเลือกตั้งและมาตรา 190 นั้น ตนเห็นว่า กระแสข่าวที่มีการพูดถึงการหยิบยกรัฐธรรมนูญ ปี 40 ขึ้นมาใช้ ตามแนวทางที่พรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวเพื่อใช้ประโยชน์ทางการเมืองมากกว่า ทั้งนี้ เพื่อให้การบังคับใช้มาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญปี 50 ตกไป ถือว่าเป็นการช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทางอ้อม แต่สิ่งที่ติดอยู่ในรัฐธรรมนูญปี 40 คือ เรื่องเขตเลือกตั้งที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้แบบเดิม คือ เขตเดียวเบอร์เดียว ซึ่งคิดว่า พรรคเพื่อไทยเองก็ไม่อยากได้ ซึ่งจากการที่สอบถาม ส.ส.พรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่พบว่า ต่างก็อยากได้การแบ่งเขตเลือกตั้งแบบเขตใหญ่เรียงเบอร์ ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 มากกว่า ส่วนผู้ที่อยากได้การแบ่งเขตเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียวตามรัฐธรรมนูญปี 2540 อาจจะเป็นการตกหลุมทางการเมืองให้กับพรรคเพื่อไทยได้
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ หากมีการเสนอแก้รัฐธรรมนูญตามกรอบที่คณะกรรมการสมานฉันท์ได้กำหนดไว้ ก็คิดว่าคงไม่มีใครขัดข้อง เพียงแต่ว่ามติใดๆ หรือท่าทีใดๆของพรรคส่วนใหญ่ควรมาจากที่ประชุม ส.ส. แต่ขณะนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมยังไม่มีการประชุม ส.ส.ของพรรค จึงทำให้ประเด็นนี้ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการและเชื่อว่าการประชุม ส.ส.พรรคในวันที่ 22-24 ม.ค.ที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งกำหนดหัวข้อยุทธศาสตร์พรรคในปี 2553 คงจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้
ดังนั้นจึงขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ อย่าวู่วาม ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะเข้าใจว่าการกำหนดเขตเลือกตั้ง อาจจะกระทบต่ออนาคตของพรรคการเมืองหลายพรรค ซึ่งอาจจะมีความเห็นแตกต่างกัน ซึ่งต้องหาข้อสรุป แม้แต่ในพรรคประชาธิปัตย์ หากฟังความเห็นจากหลายฝ่าย ก็มีความเห็นแตกต่างกัน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องหาข้อสรุปว่าจะตกลงเลือกเขตเลือกตั้งในรูปแบบใด เพราะฉะนั้น ตนเห็นว่าการแก้รัฐธรรมต้องฟังความเห็นทุกฝ่าย ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล หรือฝ่ายรัฐบาลโดยไม่ฟังความเห็นของประชาชน หากจะแก้รัฐธรรมนูญแบบมัดมือชก เอาแต่ใจตัวเองก็อาจจะเกิดแรงกดดันจากสังคมได้