xs
xsm
sm
md
lg

แผน“เหลี่ยมจัด”ทำลายขวัญ-กลิ่นไม่ดีช่วงปีใหม่ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร
"ผ่าประเด็นร้อน"

แม้ว่าละเอียดอ่อนอย่างยิ่งกับการพูดถึงเรื่องการก่อเหตุรุนแรงในช่วงปีใหม่ เนื่องจากรู้ดีว่าอาจกระทบกระเทือนในวงกว้าง แต่หากมองอีกมุมหนึ่งการเน้นย้ำในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้เกิดอาการตื่นตัวระวังภัยเอาไว้ล่วงหน้า แทนที่จะประมาทรอให้เกิดเหตุแล้วค่อยมาล้อมคอก ดังที่มักปฏิบัติกันอยู่เสมอ

ยิ่งในปีนี้ยังเป็นช่วงที่พระบาทสมเด็จะพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับที่โรงพยาบาลศิริราช กำลังพักฟื้นพระวรกายหลังจากทรงหายจากพระอาการประชวร ยิ่งไม่สมควรให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีให้เป็นที่รบกวนพระราชหฤทัยเป็นอันขาด

ก่อนหน้านี้หลายคนก็มีความกังวลอยู่ในใจเกี่ยวกับเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงตั้งแต่วันคริสมาสต์เป็นต้นไปจนถึงปีใหม่ แต่เดชะบุญที่ในวันคริสมาสต์ได้ผ่านพ้นไปแล้วโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้โล่งอกไปได้เปลาะหนึ่ง แต่ช่วงเวลาของการนับถอยหลังเพื่อเข้าสู่ช่วงปีใหม่ยังมาไม่ถึงมันก็ยังอดเสียวไม่ได้

ยิ่งได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า มีรายงานข่าวว่าอาจจะมีการก่อเหตุในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเป้าหมายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหารักษาความปลอดภัยและหามาตรการรับมืออย่างเต็มที่ และเข้มงวด ที่สำคัญฟังจากน้ำเสียงจะออกมาในแนวคาดโทษไว้ล่วงหน้าหากทำหน้าที่บกพร่องหรือมีรายการ “เกียร์ว่าง”

ขณะเดียวกันทางฝ่ายรัฐบาลก็แสดงท่าทีในทำนองเดียวกัน โดยรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ยังกำชับในเรื่องนี้อย่างเอาจริงเอาจัง และยังทราบมาว่าหน่วยงานความมั่นคง ที่มีสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นแม่งานใหญ่จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้(จันทร์ที่ 28 ธ.ค.) อีกด้วย

อย่างไรก็ดีขอให้มองในแง่ดีเอาไว้ว่านี่คือความตื่นตัวของเจ้าหน้าที่เพื่อรับมือ เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเรากำลังอยู่ในช่วงที่กำลังเผชิญกับภัยความมั่นคงกันมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสถาบันหลักกำลังถูกเครือข่าย “ระบอบทักษิณ” กดดันอย่างหนัก ตลอดทั้งปี และยิ่งรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บริหารประเทศผ่านเลยระยะเวลา 1 ปี มาได้อย่างเหนือความคาดหมาย และเริ่มทำท่าจะพอตั้งหลักได้บ้างมันก็ย่อมเป็นอันตรายกับฝ่ายตรงกันข้าม

บังเอิญว่าตลอดสองสามสัปดาห์ก่อนมีความเคลื่อนไหวของเครือข่ายทักษิณ ทั้งในรูปแบบของคนเสื้อแดง รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยที่ถึงกับลงทุนสวมหมวก “ดาวแดง” ไปพบกับอดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย มันก็เหมือนส่อนัยอะไรบางอย่างได้เหมือนกัน

ประกอบกับในเวลาไล่เลี่ยกันก็มีกลุ่มอดีตนายทหารแก่หลายคนพากันตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทย พร้อมๆกับการออกมาแสดงบทบาททหารนอกแถวอย่าง “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ทุกกรณีหากมองอย่างเป็นเหตุเป็นผลมันก็สามารถเชื่อมโยงกันได้หมด

ที่มองข้ามไม่ได้ก็คือการเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร ที่มีลักษณะโหมปลุกระดมกันอย่างถี่ยิบ ซึ่งเป็นสัญญาณที่สังคมรับรู้กันไปแล้วว่าตั้งแต่ต้นปีใหม่เป็นต้นไปเขาจะร่นเวลาเป่านกหวีดเพื่อโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ให้ได้ หรือทำทุกอย่างเพื่อบั่นทอนทำลายความเชื่อมั่นให้มากที่สุด

เมื่อวกมาที่ข่าวการก่อเหตุในช่วงปีใหม่ทำให้ย้อนไปถึงเหตุร้ายเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2549 ในเวลาไล่เลี่ยกันหลายจุดทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งหลายคนวิเคราะห์ได้ทันทีว่านั่นคือการเอาคืนของกลุ่มอำนาจเก่าที่ถูกโค่นล้มโดย คมช. เจตนาเพื่อสร้างความปั่นป่วน และท้าทายกลุ่มทหารในยุคนั้น

ดังนั้นหากพิจารณาในแง่ของเจตนาที่จะต้องการทำลายความเชื่อมั่น ทำลายบรรยากาศความสุขของคนไทยที่เริ่มมีมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลมหามงคลและหวังว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงปีใหม่ มันก็ช่วยไม่ได้ที่อีกฝ่ายที่จ้องคิดชั่วต้องหาทางดับฝันดังกล่าวให้ได้

เพราะหากคนไทยมีความสุข เกิดความเชื่อมั่นในสังคม มันก็ย่อมมีบรรยากาศในทางเศรษฐกิจและการลงทุน การท่องเที่ยวในเชิงบวก อีกฝ่ายก็ย่อมสะเทือนไม่มีทางไปถึงเป้าหมาย

มาถึงตรงนี้แม้ไม่ต้องเอ่ยชื่อรับรองว่าคนที่ติดตามสถานการณ์มาตลอด มองการเมืองที่กำลังเป็นอยู่ก็ย่อมดูออกว่าหากมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นในช่วงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้น่าจะเป็นฝีมือของใคร ใช่ฝีมือของ “คนเหลี่ยมจัด” หรือไม่

ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงเมื่อรู้ล่วงหน้าจะหาทางป้องกันได้ผลหรือไม่เท่านั้นเอง !!
กำลังโหลดความคิดเห็น