“เด็จพี่” ไม่สมานฉันท์ อ้าง ปชป.หันหัวร่วมวงแก้รัฐธรรมนูญหวังปลดล็อกยุบพรรค สอดรู้เสี้ยม “พันธมิตรฯ” ออกโรงค้าน จ่อยื่น ป.ป.ช.ฟัน “กษิต” ผุดเอกสารลับประพฤติมิชอบ อ้างเฉยทำให้เสียหายแก่ “นช.ทักษิณ”
วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลและแกนนำพรรคประชาธิปัตย์นัดพบปะกันเมื่อ วันที่ 25 ธ.ค.ที่โรงแรมโอเรียนเต็ลว่า ความจริงแล้วพรรคเล็กต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญโดยขอแค่การแก้ไขเรื่องเขตเลือกตั้งให้กลับบไปใช้เขตเล็ก แบบเขตเดียวเบอร์เดียว ส่วนเรื่องมาตรา 190 เรื่องการทำสันธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อน่าจะเป็นข้ออ้างในการแก้รัฐธรรมนูญให้ดูดีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะต้องมีการเร่งให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญในปีหน้าโดยมุ่งไปที่มาตรา 237 ในการยุบพรรคการเมือง เพราะเริ่มไม่แน่ใจคดียุคพรรคประชาธิปัตย์จากกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทและเงินที่ กกต.ให้สนับสนุนพรรคการเมือง 23 ล้านบาท เนื่องจากนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต. ได้ระบุว่าได้ลงมติให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ดังนั้น ทางออกสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องยอมแก้รัฐธรรมนูญเพื่อหาทางออกเอาไว้ก่อนตายหมู่
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ประเด็นนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน แต่กลับนำภาษีอากรของประชาชนจำนวน 2,000 ล้านบาทไปใช้จ่ายเพื่อสนองประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ดังนั้น ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อย่าคิดแก้รัฐธรรมนูญเพียงเพื่อเอาใจพรรคร่วม เพื่อต่ออายุรัฐบาลหรือหาทางออกในกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์อาจถูก กกต.ลงมติยุบพรรคแล้วโยนบาปมาให้พรรคเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้านว่าไม่เข้าร่วม หากนายอภิสิทธิ์มีความจริงใจที่จะแก้รัฐธรรมนูญต้องนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ฉบับประชาชนมาใช้และปรับแก้เพียงบางส่วน นอกจากนี้ ขอเรียกร้องไปยังพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เคยคัดค้านชนิดหัวชนฝา ให้ออกมาแสดงจุดยืนว่ายังคงมีแนวคิดเดิมหรือหลักการเดิมเป็นเพียงแค่ข้ออ้างเพื่อล้มรัฐบาลที่ผ่านมา
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายปณิธาน วัฒนายากร รักษาการโฆษกรัฐบาล ออกมายอมรับว่าเอกสารลับที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช.นำออกมาเปิดเผยนั้นเป็นเอกสารจริงว่า ตนและฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย จะไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายกษิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เนื่องจากมีลักษณะเป็นการกระทำที่เกินอำนาจหน้าที่จนไปกระทบต่อสิทธิของบุคคลอื่น และยังมีลักษณะที่กระทบต่อความมั่นคงภายในและนอกราชอาณาจักร ถือว่านายกษิตมีเจตนาพิเศษเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเสียหายต่อราชการโดยส่วนรวม นอกจากนี้ จะขอความร่วมมือจาก ส.ส.ของพรรคเพื่อพิจารณาว่าจะยื่นคำร้องขอถอดถอนนายกษิตออกจากตำแหน่งด้วย