“เพื่อไทย” แขวะรัฐต่ออายุ 5 มาตรการอีก 3 เดือนสะท้อนเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น ทวงบุญคุณรัฐบาลเหตุช่วยศวิรักษ์พ้นโทษ ปั้นน้ำเป็นตัวมีเบอร์ปริศนาโทร.สั่ง “คำรบ-สิมารักษ์” โต้ “ปณิธาน” ตั้งแต่เหยียบเมืองไทย “คำรบ” ยังไม่เคยโทร.หา
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรคว่า พรรคได้เตรียมการแถลงข่าวตรวจสอบผลงาน 1 ปีของรัฐบาลในวันที่ 21 ธ.ค. โดยโฟกัสไปที่ความล้มเหลวในภาพใหญ่ 3 ประเด็นคือ เศรษฐกิจตกต่ำ การบริหารงานล้มเหลว และการทุจริตคอรัปชั่น สำหรับกรณีที่ครม.มีมติต่ออายุ 5 มาตรการออกไปอีก 3 เดือนนั้นถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นนโยบายที่ดีและเป็นสิ่งที่พรรคพลังประชาชนริเริ่มทำไว้ แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่า การต่ออายุมาตรการดังกล่าวแสดงว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีตามที่รัฐบาลมักจะกล่าวอ้าง
นายพร้อมพงศ์แถลงอีกว่า พรรคเพื่อไทยได้รับการประสานจากนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ว่าจะขอเดินทางมาเข้าพบและขอบคุณ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย รวมทั้งผู้ใหญ่ของพรรค แต่ผู้บริหารพรรคได้พิจารณาแล้วว่า นางสิมารักษ์และลูกชายได้ขอบคุณผ่านสื่อไปหลายครั้งแล้ว ไม่อยากจะรบกวนให้นางสิมารักษ์และลูกชายต้องลำบากอีก นอกจากนี้ยังทราบว่า นายศิวรักษ์กำลังไม่สบายอยู่ด้วย ทั้งนี้ ส.ส.ฝ่ายค้านและคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ถึงคำสั่งการของนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานฑูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ที่มีถึงนายศิวรักษ์ด้วย รวมทั้งจะสอบสวนไปให้ถึงบุคคลที่มีอำนาจเหนือกว่านายคำรบด้วย และอาจจะใช้ช่องทางอื่นทางกฎหมายเพื่อดำเนินการด้วย ขณะนี้รัฐบาลควรจะขอบคุณพรรคเพื่อไทยและไปปลอบใจสองแม่ลูก ไม่ใช่เอาแต่บิดเบือนกล่าวหาว่าเป็นการสร้างภาพ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายศิวรักษ์ระบุว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อ นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า นายศิวรักษ์เคยบอกว่าเป็นเหยื่อ แต่ว่าเป็นฝ่ายไหน ใครที่เป็นคนสั่งนายศิวรักษ์คงต้องไปตรวจสอบกันต่อไปว่าใครเป็นผู้โทรศัพท์ไปหานายคำรบบ้าง ผู้ใหญ่ในกระทรวงต่างประเทศควรไปดูว่าเบอร์โทรศัพท์นี้มันคุ้นๆ หรือไม่ และขอร้องว่าอย่าเพิ่งเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เพราะหากตรวจสอบต่อไปก็จะรู้ว่าไอ้โม่งนั้นเป็นใคร ใครที่เล่นละคร ใครเป็นผู้จัดฉาก แต่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยและผู้ใหญ่ที่คนในพรรคเพื่อไทยให้ความเคารพอย่างแน่นอน
นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า นางสิมารักษ์ยังฝากบอกสื่อมวลชนด้วยว่า กรณีที่นายปณิธาน วัฒนายากร ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่านายคำรบได้โทรศัพท์หานายศิวรักษ์ทันทีเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยว่า นายคำรบไม่เคยโทรศัพท์มาหาตั้งแต่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ดังนั้นจึงไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไรที่ออกมาพูดดังกล่าว ส่วนกรณีที่นายชวนนท์ อินทรโกมารสุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่าให้อธิบดีกรมการกงสุลไปรับที่กัมพูชาในวันที่เดินทางกลับนั้นก็ไม่เห็นหน้า มีเพียงรองอธิบดีกรมการกงศุลไปรับเท่านั้น และก็ไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น นอกจากนี้ ได้มีการร้องขอ รปภ.เพื่อช่วยกันนักข่าวจำนวนมากที่มารอสัมภาษณ์ แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ ให้ทั้งสิ้น
เพี้ยนหนัก บอก มาร์ค-กษิต ใล่ฆ่าเหมือนหนังไทย !!