“เด็จพี่” เอาใหญ่เสนอหน้าเป็นตัวแทน “สิมารักษ์” แม่วิศวกรชาวไทยถูกจับที่เขมร ยื่นหนังสือถึง รมว.ศธ.ขอลาราชการไปช่วยลูก 1 เดือนนับแต่ 30 พ.ย.- 30 ธ.ค. 2552 หวั่นถูกตั้งกรรมการสอบวินัย พ่นเป็นฉากๆ กลัวคนไม่เชื่อ "พ่อแม้ว"หามรุ่งหามค่ำช่วย"ศิวรักษ์" ด่าคนรัฐบาลกวนน้ำขุ่นทำเจรจายาก โดดป้องอธิปไตย "เขมร" ชี้นายกฯ จ้อรู้ตอนจบคดีถือก้าวล่วงกระบวนการกัมพูชา
วันนี้(11 ธ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) ได้เดินทางมายังกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เพื่อเป็นตัวแทนของนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยซึ่งถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัวและถูกพิพากษาให้จำคุก 7 ปี เพื่อยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศธ. ในกรณีที่นางสิมารักษ์ขอลาราชการเพื่อเดินทางไปช่วยนายศิวรักษ์ บุตรชาย ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.-30 ธ.ค. 2552 โดยนายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า การลางานในวันนี้คุณแม่มีความกังวลในเรื่องการสอน และการขาดราชการ ซึ่งกลัวว่าจะมีปัญหาภายหลัง เพราะมีข่าวมาว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบวินัย ดังนั้น เพื่อความชัดเจน จึงนำหนังสือมาขอความเมตตาต่อ รมว.ศธ.ในฐานะผู้บังคับบัญชา ที่จะส่งไปยังผู้บังคับบัญชาคุณแม่อีกทอดหนึ่ง
“คุณแม่เป็นห่วงการขาดการสอนเด็ก กลัวถูกเล่นงานทางวินัย และก็ห่วงลูกชายในเรื่องของกระบวนการการขออภัยโทษที่ยังมีปัญหา จึงขอความเมตตาว่าหากรัฐบาลจะช่วย นายศิวรักษ์นั้น วันนี้ขอให้ช่วยดำเนินการให้แม่เดินทางไปช่วยลูกเหมือนการไปปฏิบัติราชการ ซึ่งได้นำเรียนต่อเลขานุการ รมว.ศธ.แล้ว หลังจากนี้ก็ต้องรอคำตอบอีกครั้ง” โฆษก พรรคเพื่อไทยกล่าว
ด้าน นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จะนำหนังสือดังกล่าว ยื่นให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณา อย่างไรก็ตาม ตามหลักปฏิบัติแล้ว การลากิจหากไม่เกิน 30 วัน อำนาจการตัดสินใจจะอยู่ที่ผู้อำนวยการวิทยาลัยการศึกษา ที่นางสิมารักษ์ รับราชการอยู่ แต่หากเกิน 30 วัน ไปแล้ว จะเป็นอำนาจของเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
โดดป้องอธิปไตย "เขมร"กล่าวหานายกฯ ก้าวล่วง
นายพร้อมพงษ์ ยังกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ว่า ในส่วนกระบวนการให้ความช่วยเหลือนั้นต้องยอมรับว่าหลังจากได้ดำเนินการตามคำร้องของนางสิมารักษ์มารดานายศิวรักษ์ แต่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกนายกรัฐมนตรี กลับให้สัมภาษณ์ตอบโต้ในลักษณะกวนน้ำให้ขุ่น ทำให้การทำงานตรงนี้ลำบากขึ้น วันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะช่วย แต่ไม่ว่าใครต่อใครในรัฐบาลก็พยายามจะจุดไฟอยู่เรื่อยๆ ทำให้กระบวนการในการประสานงานมีปัญหาอย่างมาก
“นายอภิสิทธิ์ พูดอยู่ตลอดว่าทางเรารู้ตอนจบว่าจะเป็นอย่างไร นี่เป็นการก้าวล่วงอำนาจอธิปไตย แทรกแซงกระบวนการภายในของกัมพูชาอย่างมาก วันนี้บรรดาสารพัดโฆษกของฝ่ายรัฐบาล พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูง หากจะช่วยเหลือก็อย่าเอาความช่วยเหลือของพรรคเพื่อไทย หรือการช่วยเหลือของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พล.อ.เชาวลิต ยงใจยุทธ และนายนพดล ปัทมะ มาเป็นเกมทางการเมือง ซึ่งการให้สัมภาษณ์ตอบโต้เป็นการทำร้ายเด็กชายไทยคนหนึ่ง อายุ 31 ปี ที่เป็นแพะจากการถูกกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ผ่านมาเป็นทอดๆ จนเขาต้องถูกจำคุก ทำให้ขณะนี้เราจึงต้องมาตามแก้สิ่งที่ นายอภิสิทธิ์ นายชวน หลีกภัย ตั้งข้อสังเกต รวมถึงการให้สัมภาษณ์อย่างแกว่งปากหาเสี้ยนของนายเทพไท นายชวนนท์ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องนี้"นายพร้อมพงษ์ กล่าว
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า สังคมต้องถามว่าใครเป็นคนใช้นโยบายเผาบ้านล่าหนู ตามล่าอดีตนายกฯ ทักษิณคนเดียว แต่จุดไฟลามไปยังเพื่อนบ้าน จนหลายคนต้องเดือดร้อน นายอภิสิทธิ์จึงควรทบทวนว่าเรื่องไหนควรพูดไม่ควรพูด ในฐานะผู้นำอาเซียนก็ควรพูดให้น้อยหน่อย เรากำลังไปช่วยก็โดนป้ายไปว่าเป็นการสร้างภาพ จัดฉาก ทำให้มีปัญหากับเรามาก
อ้าง "พ่อแม้ว"หามรุ่งหามค่ำช่วย"ศิวรักษ์"
นายพร้อมพงษ์ กล่าวอีกว่า นายคำรพ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ยังมีเอกสิทธิ์ทางการฑูตอยู่ ซึ่งหากไม่มีเอกสิทธิ์นั้น วันนี้เขาอาจเป็นผู้ต้องหาแทนนายศิวรักษ์ก็ได้ ทั้งนี้คนของรัฐบาลต้องออกมารับผิดชอบ วันนี้นายอภิสิทธิ์ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือขอโทษต่อครอบครัวนายศิวรักษ์แล้วหรือไม่
“อยากชวนพรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท นายชวนนท์ รวมถึงเจ้าหน้าจากรัฐบาล หรือพรรคร่วมรัฐบาลให้เดินทางไปด้วยกันที่กัมพูชาจะกล้าไปหรือไม่ ซึ่งเราเปิดกว้างอยากให้คณะกรรมาธิการต่างประเทศจัดคนจากพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นกรรมาธิการไปด้วยกัน เพื่อที่จะได้มีการบูรณาการการช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้ต้องบอกว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ และทีมงานหลายคนช่วยประสานความช่วยเหลือให้ ทุกคนทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ หลายวันแล้วไม่ได้หลับได้นอน แต่วันนี้คนของรัฐบาลยังจุดชนวนสุมไฟอยู่ แล้วการเจราจาจะสำเร็จอย่างไร” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
วันนี้(11 ธ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) ได้เดินทางมายังกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เพื่อเป็นตัวแทนของนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยซึ่งถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัวและถูกพิพากษาให้จำคุก 7 ปี เพื่อยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศธ. ในกรณีที่นางสิมารักษ์ขอลาราชการเพื่อเดินทางไปช่วยนายศิวรักษ์ บุตรชาย ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.-30 ธ.ค. 2552 โดยนายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า การลางานในวันนี้คุณแม่มีความกังวลในเรื่องการสอน และการขาดราชการ ซึ่งกลัวว่าจะมีปัญหาภายหลัง เพราะมีข่าวมาว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบวินัย ดังนั้น เพื่อความชัดเจน จึงนำหนังสือมาขอความเมตตาต่อ รมว.ศธ.ในฐานะผู้บังคับบัญชา ที่จะส่งไปยังผู้บังคับบัญชาคุณแม่อีกทอดหนึ่ง
“คุณแม่เป็นห่วงการขาดการสอนเด็ก กลัวถูกเล่นงานทางวินัย และก็ห่วงลูกชายในเรื่องของกระบวนการการขออภัยโทษที่ยังมีปัญหา จึงขอความเมตตาว่าหากรัฐบาลจะช่วย นายศิวรักษ์นั้น วันนี้ขอให้ช่วยดำเนินการให้แม่เดินทางไปช่วยลูกเหมือนการไปปฏิบัติราชการ ซึ่งได้นำเรียนต่อเลขานุการ รมว.ศธ.แล้ว หลังจากนี้ก็ต้องรอคำตอบอีกครั้ง” โฆษก พรรคเพื่อไทยกล่าว
ด้าน นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จะนำหนังสือดังกล่าว ยื่นให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณา อย่างไรก็ตาม ตามหลักปฏิบัติแล้ว การลากิจหากไม่เกิน 30 วัน อำนาจการตัดสินใจจะอยู่ที่ผู้อำนวยการวิทยาลัยการศึกษา ที่นางสิมารักษ์ รับราชการอยู่ แต่หากเกิน 30 วัน ไปแล้ว จะเป็นอำนาจของเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
โดดป้องอธิปไตย "เขมร"กล่าวหานายกฯ ก้าวล่วง
นายพร้อมพงษ์ ยังกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ว่า ในส่วนกระบวนการให้ความช่วยเหลือนั้นต้องยอมรับว่าหลังจากได้ดำเนินการตามคำร้องของนางสิมารักษ์มารดานายศิวรักษ์ แต่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกนายกรัฐมนตรี กลับให้สัมภาษณ์ตอบโต้ในลักษณะกวนน้ำให้ขุ่น ทำให้การทำงานตรงนี้ลำบากขึ้น วันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะช่วย แต่ไม่ว่าใครต่อใครในรัฐบาลก็พยายามจะจุดไฟอยู่เรื่อยๆ ทำให้กระบวนการในการประสานงานมีปัญหาอย่างมาก
“นายอภิสิทธิ์ พูดอยู่ตลอดว่าทางเรารู้ตอนจบว่าจะเป็นอย่างไร นี่เป็นการก้าวล่วงอำนาจอธิปไตย แทรกแซงกระบวนการภายในของกัมพูชาอย่างมาก วันนี้บรรดาสารพัดโฆษกของฝ่ายรัฐบาล พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูง หากจะช่วยเหลือก็อย่าเอาความช่วยเหลือของพรรคเพื่อไทย หรือการช่วยเหลือของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พล.อ.เชาวลิต ยงใจยุทธ และนายนพดล ปัทมะ มาเป็นเกมทางการเมือง ซึ่งการให้สัมภาษณ์ตอบโต้เป็นการทำร้ายเด็กชายไทยคนหนึ่ง อายุ 31 ปี ที่เป็นแพะจากการถูกกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ผ่านมาเป็นทอดๆ จนเขาต้องถูกจำคุก ทำให้ขณะนี้เราจึงต้องมาตามแก้สิ่งที่ นายอภิสิทธิ์ นายชวน หลีกภัย ตั้งข้อสังเกต รวมถึงการให้สัมภาษณ์อย่างแกว่งปากหาเสี้ยนของนายเทพไท นายชวนนท์ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องนี้"นายพร้อมพงษ์ กล่าว
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า สังคมต้องถามว่าใครเป็นคนใช้นโยบายเผาบ้านล่าหนู ตามล่าอดีตนายกฯ ทักษิณคนเดียว แต่จุดไฟลามไปยังเพื่อนบ้าน จนหลายคนต้องเดือดร้อน นายอภิสิทธิ์จึงควรทบทวนว่าเรื่องไหนควรพูดไม่ควรพูด ในฐานะผู้นำอาเซียนก็ควรพูดให้น้อยหน่อย เรากำลังไปช่วยก็โดนป้ายไปว่าเป็นการสร้างภาพ จัดฉาก ทำให้มีปัญหากับเรามาก
อ้าง "พ่อแม้ว"หามรุ่งหามค่ำช่วย"ศิวรักษ์"
นายพร้อมพงษ์ กล่าวอีกว่า นายคำรพ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ยังมีเอกสิทธิ์ทางการฑูตอยู่ ซึ่งหากไม่มีเอกสิทธิ์นั้น วันนี้เขาอาจเป็นผู้ต้องหาแทนนายศิวรักษ์ก็ได้ ทั้งนี้คนของรัฐบาลต้องออกมารับผิดชอบ วันนี้นายอภิสิทธิ์ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือขอโทษต่อครอบครัวนายศิวรักษ์แล้วหรือไม่
“อยากชวนพรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท นายชวนนท์ รวมถึงเจ้าหน้าจากรัฐบาล หรือพรรคร่วมรัฐบาลให้เดินทางไปด้วยกันที่กัมพูชาจะกล้าไปหรือไม่ ซึ่งเราเปิดกว้างอยากให้คณะกรรมาธิการต่างประเทศจัดคนจากพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นกรรมาธิการไปด้วยกัน เพื่อที่จะได้มีการบูรณาการการช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้ต้องบอกว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ และทีมงานหลายคนช่วยประสานความช่วยเหลือให้ ทุกคนทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ หลายวันแล้วไม่ได้หลับได้นอน แต่วันนี้คนของรัฐบาลยังจุดชนวนสุมไฟอยู่ แล้วการเจราจาจะสำเร็จอย่างไร” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
