นายกฯ ปลื้มรัฐผ่านวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ยอมรับยังต้องระวัง เพราะเป็นการฟื้นตัวอย่างเปราะบาง ลั่นทำรัฐสวัสดิการให้ลืมประชานิยม ย้ำไม่พอใจแก้ไฟใต้ ปัญหาโกง หวังปีหน้าข่าวโกงลด คาดสัปดาห์หน้ารู้ผลทุจริตกระทรวงหมอ ปัดเป็นเด็กดื้อ บอกเป็นนายกฯ ต้องรับผิดชอบการตัดสินใจทุกอย่าง รับปัญหามาบตาพุดเกิดเพราะตีความกฎหมายไม่ตรงกัน เร่งนายทุนดูโครงการที่ศาลอนุญาตสร้างได้ไปปรับแผน
วันนี้ (27 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เชิญผู้ประกาศข่าวจากสถานีโทรทัศน์ต่างๆ จำนวน 7 ช่อง เข้าร่วมซักถามในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ในโอกาสที่รัฐบาลครบรอบการบริหารประเทศเป็นเวลา 1 ปี และวาระเทศกาลปีใหม่ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมาคนกังวลถึงปัญหาเศรษฐกิจกลัวว่าจะมีเหตุการณ์เหมือนวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ซึ่งรัฐบาลก็พยายามทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้น และก็เป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้ก็ต้องชมประชาคมโลกที่ร่วมกันออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจ และโชคดีที่การว่างงานในประเทศไม่รุนแรง ก็ถือเป็นการก้าวผ่านวิกฤตไปได้ แต่ก็ยังต้องระวังอยู่ เพราะเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวอย่างเปราะบาง ซึ่งตรงนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ทั้งนี้ สิ่งที่จะต้องแก้ต่อไปก็คือ เรื่องความเสี่ยงราคาน้ำมัน การท่องเที่ยว โครงการไทยเข้มแข็ง และปัญหามาบตาพุด
ส่วนการก้าวผ่านประชานิยมนั้น รัฐบาลก็พยายามทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องของสิทธิที่ประชาชนพึงได้แบบรัฐสวัสดิการ เช่น โครงการเรียนฟรี หรือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แต่ที่จ่ายเงินได้ไม่มากเป็นเพราะโครงสร้างงบประมาณ ขณะที่ปี 53 ก็จะทำโครงการกองทุนเงินออมเพื่อช่วยเหลือประชาชน ส่วนโครงการประกันรายได้เกษตรกรก็ถือเป็นโครงการได้รับการตอบรับที่ดี
นายกรัฐมนตรียังย้ำว่า สิ่งที่ตนไม่ค่อยพอในช่วงปีที่ผ่านมา คือ การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งในระดับทิศทางการแก้ปัญหาถือว่ามาถูกทาง ขณะนี้ก็หวังเพียงกฎหมายที่เกี่ยวกับองค์กรที่จะเข้ามาแก้ปัญหาสามารถผ่านสภาฯได้ ส่วนการใช้พระราชบัญญัติ การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาก็ไปได้ดี ซึ่งอนาคตอาจจะนำมาใช้ในพื้นที่เสี่ยงก็เป็นได้
ขณะที่ปัญหาการทุจริตก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่พอใจ ซึ่งก็มีข่าวออกมามากทำให้คนรู้สึกไม่ไว้วางใจนักการเมือง ดังนั้น ในปีหน้าถ้าเป็นไปได้ตนก็อยากให้มีน้อยลง อย่างที่เป็นข่าวเช่นการทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง หรือการทุจริตภายในกระทรวงสาธารณสุขนั้น ตนก็สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหาผู้กระทำความผิด โดยล่าสุดทราบว่า นพ.บรรลุ ศิริพานิช ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงปัญหาทุจริตการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการ แพทย์และสิ่งก่อสร้างโครงการไทยเข้มแข็ง กระทรวงสาธารณสุข ก็จะเข้ารายงานผลสอบแก่ตนภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ยอมรับว่า การทุจริตในภาคส่วนต่างๆนั้นมีอยู่ทุกยุค โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้าง ตรงนี้ต้องปลุกจิตสำนึกของทุกฝ่ายช่วยกัน ในส่วนของรัฐบาลก็จะทำอย่างตรงไปตรงมา และยืนยันว่าตนให้เกียรติการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้ขัดขาใคร แต่ก็เป็นธรรมดาที่จะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งตนก็รับฟังทุกคน ไม่ได้ดูว่าเป็นพรรคไหน ถ้าเหตุผลถูกต้องก็ทำ แต่ถ้ามีข้อหักล้างได้ก็ไม่ทำ ทั้งนี้ ตนไม่ได้เป็นเด็กดื้ออย่างที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ เพราะถ้าตัดสินใจไปแล้ว คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบ
ส่วนศักยภาพของประเทศในปีที่ผ่านมานั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า บางเรื่องก็เป็นที่น่าพอใจ ส่วนบางเรื่องก็ควรที่จะต้องมาแก้ไข ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีไม่ขอประเมินผลงานรัฐบาลใน 1 ปีที่ผ่านมาแต่ยอมรับว่า เหตุการณ์สงกรานต์เลือดไม่ควรเกิดขึ้น ขณะที่ปัญหามาบตาพุดนั้น เป็นสิ่งที่เกิดจากการมองเงื่อนไขของกฎหมายไม่ตรงกัน ซึ่งตรงนี้รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนเอาไว้ว่าจะต้องมีกฏหมายขึ้นมา และไม่ได้ให้อำนาจแก่รัฐบาลในการเขียนกฏหมาย
ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่คือการยกร่างระเบียบและแก้กฎหมาย แต่ขณะนี้ยอมรับว่ายังมีความเห็นไม่ตรงกัน ทั้งนี้ก็ต้องเคารพคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่มีคำวินิจฉัยออกมา ซึ่งรัฐบาลก็ได้ให้แต่ละโครงการที่ถูกวินิจฉัยไปดูเหตุตามโครงการที่ศาลฯได้อนุญาตให้ดำเนินการต่อไปได้ ไปปรับแผนงานให้สอดคล้องมา
