“สุเทพ” ขันนอต ตร.! สั่งเชือด “ไอ้กี้” กร่างขู่เผาบ้าน ปธ.กกต.

รองนายกฯ ด้านความมั่นคงสั่ง จนท.อารักขาเข้ม “องค์กรอิสระ” ยันรัฐบาลไม่เคยแทรกแซง จี้ ตร.เฉียบเอาผิดตาม กม.หลัง “หางแดง” กร่างขู่ฆ่า-เผาบ้าน ปธ.กกต. เชื่อเป็นเกมกดดันหวังคว่ำ ปชป. มอง “ทักษิณ-จักรภพ-ยงยุทธ” วิดีโอลิงก์เย้ยคนทั้งประเทศแถมทำตัวเหนือกฎหมาย

วันนี้ (24 ธ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยกล่าวถึงการที่กลุ่มคนเสื้อแดงข่มขู่กดดันการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยข่มขู่ว่าจะไปเผาบ้านนาย อภิชาต สุขขัคคานนท์ ประธาน กกต.ว่า ตนไปราชการที่ประเทศอินโดนีเซีย ช่วงที่เกิดขึ้น 23-24 ธ.ค. ได้อ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ และจะสอบถามติดต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่าการที่เขาไปกระทำการเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทางตำรวจได้ดำเนินอย่างไรไปแล้วบ้าง เท่าที่ได้อ่านข่าวพบว่า มีการทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ว่าจะเผาบ้านประธาน กกต. ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งทางตำรวจจะดำเนินการอย่างไร

เมื่อถามว่า แกนนำผู้ชุมนุมอย่างนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อยู่ในระหว่างการประกันตัว ตรงนี้จะทำอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่ไปพูดในรายละเอียด ตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมายจะปล่อยให้คนมาทำผิดกฎหมายต่อหน้าต่อตาอยู่อย่างนี้โดยไม่ดำเนินการไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถรักษาความสงบบ้านเมืองได้ ตนจะสั่งการให้ตำรวจดำเนินการสอบถามและให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

เมื่อถามว่า ในส่วนของการอารักขาหน่วยงานหรือบุคคลที่อยู่องค์กรอิสระและอื่นๆ ที่เป็นเป้าหมายมีแผนในการอารักขาอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า เมื่อฝ่ายกลุ่มเสื้อแดงได้แสดงท่าทีอย่างนี้เราต้องจัดให้มีคนดูแล ให้ความปลอดภัยกับผู้ที่ทำงานในที่ต่างๆ อย่างแข็งแรง เข้มงวด ไม่ให้เสียขวัญกำลังใจด้วย

เมื่อถามว่า ท่าทีของ กกต.ที่ออกมาต่อคดี 258 ล้าน จะเป็นตัวจุดชนวนให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมมากขึ้น นายสุเทพกล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงเขาก็หาเรื่องอยู่แล้ว พยายามหาว่ามีเรื่องอะไรที่เป็นประเด็นได้ อย่างเช่นการเอาเอกสารลับกระทรวงการต่างประเทศมาเปิดเผย ขยายความไปในทำนองว่ารัฐบาลวางแผนฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะฉะนั้นจึงเอามาเป็นประเด็นประท้วง ก็นึกอยู่ว่าจะเป็นประเด็น พอดีว่า กกต.มาพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ และเขาพยายามทำทุกอย่างกดดัน กกต.ให้เล่นงานพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจน ถ้าไม่เล่นงานเขาจะทำอย่างนั้นอย่างนี้

“ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร แต่ผมคิดว่าทั้งหมด กกต.ต้องทำหน้าที่ตนเองไปตามความเป็นจริง ส่วนกระแสจะจุดติดหรือไม่ ไม่ทราบ แต่เชื่อว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ต้องเข้าใจ ผมเรียนแล้วว่า สมัยที่เรามาเป็นรัฐบาลไม่เคยแทรกแซงองค์กรอิสระใดๆ ทั้งสิ้น ไม่เคยทำเลย และผมก็โดนผลพวงจากการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระเหล่านั้น อย่าง กกต.ก็ตัดสินว่าผมขาดคุณสมบัติจากการไปถือหุ้นในบริษัทจนผมต้องลาออกจาก ส.ส. อย่างนี้จะมาหาว่าผมเข้าไปแทรกแซงได้อย่างไร” นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินในงานเลี้ยงพรรคเพื่อไทย เพื่อให้เตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งปีหน้า และพรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้มองว่าอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามปลุกปลอบขวัญลูกพรรคของตนเอง เพื่อที่จะได้ใช้ลูกพรรคเป็นเครื่องมือในการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เทหมดหน้าตักหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบ ตอบไม่ได้ ต้องไปถาม พ.ต.ท.ทักษิณ เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือดูแลบ้านเมืองไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ให้มีการปฏิบัติในกรอบของกฎหมายเป็นหน้าที่เรา เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีข้อมูลหรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และนายจักรภพ อยู่ที่ไหน เพราะการเชื่อมวิดิโอลิงค์ปรากฏตัวพร้อมกัน นายสุเทพ กล่าวว่ายังไม่ทราบแต่จะให้ฝ่ายที่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบ เมื่อถามว่าเป็นการเย้ยรัฐบาลหรือไม่ว่าไม่สามารถติดตามมาดำเนินคดีได้

“ที่จริงไม่ได้เย้ยรัฐบาล แต่เย้ยพวกเราทั้งประเทศ เพราะพวกเขาอยู่เหนือกฎหมาย เงื้อมมือของกฎหมายไม่สามารถเล่นงานเขาได้ พวกเขาเป็นพวกที่สมคบกันทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง และยังมาลอยหน้าลอยตาออกช่องนั้นช่องนี้ เพื่อให้เห็นว่าเขาอยู่เหนือกฎหมาย อย่างนี้ไม่ใช่เป็นการเย้ยรัฐบาล แต่เป็นการเย้ยพวกเราทั้งประเทศ แต่ว่าคนที่มีหน้าที่จะต้องติดตามทำไป” นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามว่า แม้ว่ารู้อย่างนี้แล้วเราก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ นายสุเทพกล่าวยอมรับว่า ก็ตามไม่พบ ที่พบแล้วขอตัวไปเขาก็ไม่ส่งให้ “มันก็น่าเจ็บใจ คนทำผิดกฎหมายแล้วยังลอยนวลแล้วมาสร้างความเสียหายให้บ้านเมืองอีก เราต้องทำต่อไปพยายามต่อไป”

เมื่อถามว่า สัญญาณที่นายกฯส่งไปยังประชาชนอยากให้บ้านเมืองสงบขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับรัฐ นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้เห็นว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นมา การแสดงออกของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่เป็นพลังที่ทำให้บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงบ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นกลุ่มคนเสื้อแดงจัดการชุมนุมก่อความไม่สงบด้วยประการต่างๆ จึงมั่นใจว่า สิ่งที่ประชาชนได้ฟังในสิ่งที่นายกฯ ร้องขอคงจะพิจารณาได้ว่า คนที่ใหญ่ที่สุดในบ้านเมืองนี้คือ ประชาชนส่วนใหญ่ออกมาแสดงพลังสามารถทำให้เหตุการณ์ต่างๆในบ้านเมืองสงบได้

เมื่อถามว่าจะบีบให้คนที่ออกมาเคลื่อนไหว มีที่ยืนหรือจะบีบให้เคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากไม่เป็นที่ต้องการของคนส่วนใหญ่ นายสุเทพ กล่าวว่าเราไม่ได้ไปบีบอะไร แต่เมื่อพลังของประชาชนส่วนใหญ่แสดงออกมาอย่างไร ฝ่ายอื่นๆ จะได้ฉุกใจคิด

เมื่อถามอีกว่า วันนี้มีการประเมินพลังของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นอย่างไรบ้าง นายสุเทพกล่าวว่า พูดไม่ได้ พูดว่าน้อยเขาจะหาว่าดูถูก พูดว่ามากเขาก็ยิ่งฮึกเหิม ตนไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดได้ เมื่อถามว่า มีการเตรียมมาตรการอย่างไรเนื่องจากคนเสื้อแดงเปลี่ยนยุทธวิธีในการชุมนุม นายสุเทพ กล่าวว่า เขาจะทำอย่างไรก็แล้วแต่ เจ้าหน้าที่ของเรา ต้องรักษาความสงบเรียบร้อย รักษากฎหมาย เราไม่ได้ตามราวีอะไรเขา

เมื่อถามว่ากฎหมายที่มีอยู่ จะสามารถควบคุมสถานการณ์ในปีหน้าได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า พยายามทำตามความเหมาะสม ดูดีที่สุด เหมาะสมที่สุด แล้วก็พยายามไม่ให้เหตุการณ์รุนแรงบานปลาย เมื่อถามว่า รัฐบาลยืนยันจะใช้มาตรการทางกฎหมายในระดับเข้มข้นสูงสุดหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เราจะดำเนินการทุกอย่างในกรอบกฎหมายๆ ไม่มีเข้มไม่มีจาง หมายความว่า ถ้าใครทำอะไรไม่ผิดก็ไม่ถูกดำเนินคดี ใครทำผิดก็ถูกดำเนินคดี การใช้กำลังเจ้าหน้าที่รักษาการ จะทำเท่าที่กรอบกฎหมายอำนวยให้

“จะเห็นว่า ตั้งแต่ผมเข้ามารับหน้าที่ดูแลความมั่นคงของบ้านเมือง ผมไม่เคยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พลเรือน ทหาร ไปเข่นฆ่า ทำร้ายใครทั้งสิ้น ไม่มีใครที่ต้องเสียชีวิตเพราะการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับรัฐบาลสมัยที่ฝ่ายค้านทำหน้าที่” นายสุเทพกล่าว เมื่อถามถึงคดีของนายอริสมันต์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง นายสุเทพกล่าวปฏิเสธว่า ไม่ทราบ ต้องถามเจ้าหน้าที่