“เป็ดเหลิม” ขู่กรรโชก “อภิชาต” อยู่ไม่สุขแน่หากไม่ยุบ ปชป.

ปธ.ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตีโพยตีพาย ขู่ “อภิชาต” อยู่ไม่เป็นสุขแน่หากสั่งไม่ยุบพรรค ปชป. สอนจระเข้กลับไปอ่านสำนวนให้ครบ แนะให้ถอนตัวก่อนตัดสินคดี อุ้ม “ไอ้ตู่” ซัดพวกประสาทจ้องฟ้องเผยแพร่เอกสารลับ โบ้ยเป็นเรื่องมุ่งทำลายบุคคลไม่เกี่ยวประโยชน์ชาติ อวดภูมิปัญหาย้อนถามจะตั้งข้อหาอะไร

วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติมอบหมายให้นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นผู้ตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาทว่า กรณีที่นายอภิชาตระบุว่าจะไปทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง แต่คาดว่าจะตัดสินใจเหมือนเดิมนั้น ไม่รู้ว่านายอภิชาตพูดได้อย่างไร หากเป็นอย่างนั้น นายอภิชาตตัดสินไปเลยจะดีกว่า เสียดายที่เป็นประธาน กกต.แต่กลับพูดแบบนี้ ซึ่งหากปล่อยไปแบบนี้บ้านเมืองหายนะแน่ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยไม่ยอมเด็ดขาด ต้องปะทะกันทางความคิด จะเวทีไหนก็ได้ขอให้เลือกมาเลย นอกจากนี้ ขอให้นายอภิชาติกลับไปอ่านสำนวนให้ครบแล้วค่อยออกมาลอยหน้าลอยตาให้สัมภาษณ์ เพราะหลักฐานมันชัดเจน คนที่อ่านภาษาไทยออกจะต้องบอกว่าผิดแน่นอน ความจริงกรณีนี้ในตอนที่รับเรื่องมาครั้งแรก หากนายทะเบียนพรรคการเมืองบอกว่าไม่ผิด ก็สั่งระงับไปเรื่องก็จบ แต่เมื่อรับเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.ก็เท่ากับว่ามีส่วนร่วมแล้ว จำเป็นต้องพิจารณาต่อ

ขอย้ำว่า หากนายอภิชาตตัดสินว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความผิด ตนจะเดินหน้าต่อไม่มีหยุดจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม จะเล่นไม่เลิก จะทำการฟ้องร้องต่อ เพราะไม่มีกฎหมายข้อไหนที่ห้ามไม่ให้ฟ้องร้องอีก เพราะตนยังมีหลักฐานเพิ่มเติม กกต.รวมหัวกันทำอย่างนี้เราไม่ยอม และจะเล่นเกมแรงๆ กลับคืนบ้าง มีบางคนบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ยุบไม่ได้ อยากถามว่าเป็นพรรคเทวดาหรืออย่างไร ถึงทำความผิดแล้วถูกยุบไม่ได้ ขอเตือนนายอภิชาติว่า จากนี้ไปอยู่ไม่สุขแน่

ด้าน นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คนในพรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดว่ากรณี 258 ล้านไม่เกี่ยวกับพรรค เป็นการเข้ากระเป๋าอดีตกรรมการบริหารพรรคที่เชียวชาญเรื่องเงินๆ ทองๆ หากนายอภิชาตินำเหตุผลนี้ไปใช้ในการตัดสิน ก็จะทำให้การตัดสินไม่มีมาตรฐาน เพราะถ้าไม่เอาเรื่องตัวบุคคลมาเกี่ยวข้องกับการตัดสินคดีนี้ อยากจะถามหามาตรฐานกรณีที่พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ที่เราเคยชี้แจงว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรค แต่สุดท้ายก็ถูกยุบ โดยอ้างว่าพรรคได้ประโยชน์อยู่ดี นอกจากนี้ นายอภิชาตเป็นเพื่อนกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น ดังนั้น เท่ากับมีส่วนได้ส่วนเสียในการตัดสิน ฉะนั้นนายอภิชาติควรถอนตัวห้ามพิจารณาเรื่องนี้ หากยังดึงดันเราก็จะพิสูจน์ให้เห็นว่านายอภิชาติที่ความเกี่ยวข้องกับคนในพรรคประชาธิปัตย์อย่างไร เชื่อว่าหลายคนอยากให้ข้อมูลตรงนี้

ร.ต.อ.เฉลิม แถลงถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย นำเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ส่งถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชรีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยว่าหนังสือดังกล่าวไม่ใช่เอกสารลับ เพราะเอกสารลับนั้นต้องเป็นเรื่องของส่วนรวมและเกี่ยวข้องกับประเทศชาติ แต่กรณีนี้เป็นการมุ่งขจัดบุคคล หนังสือดังกล่าวสรุปได้ 3 เรื่อง คือ 1.ขจัด พ.ต.ท.ทักษิณ 2.เร่งรัดคดีให้เสร็จสิ้นในปี 2552 3.หาประเทศที่ 3 มากดดันประเทศกัมพูชา เป็นนโยบายต่างประเทศที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่มีมา และพวกที่บอกว่าจะดำเนินคดีกับคนที่ทำเอกสารลับมาเปิดเผยนั้น เป็นพวกประสาท เพราะมันไม่ใช่ความลับทางราชการ แต่เป็นความลับของพวกคุณแค่นั้นเอง อยากท้าให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไปเปิดกฎหมายทุกตำราดูว่าจะดำเนินคดีต่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในข้อหาอะไร