รองนายกฯ ด้านความมั่นคง โชว์ผลงานด้านความมั่นคง 1 ปีเข้าเป้า 3 ด้าน โอ่งานรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือชิ้นโบแดง ยันไม่มีการเสียเลือดเนื้อ เชื่อฝีมือ “มาร์ค” ประคองรัฐบาลผ่านปี 53 ได้สำเร็จ
วันนี้ (22 ธ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลงานเด่นด้านความมั่นคงในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาว่ามี 3 ด้าน คือ 1.สามารถดูแลปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ตามเป้าหมายและแนวทางที่รัฐบาลวางไว้ เพราะความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อรัฐพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นมาก แม้ว่าจะเสียงวิจารณ์รัฐบาลล้มเหลวในเรื่องนี้ ซึ่งทางรัฐบาลน้อมรับ แต่โดยข้อเท็จจริงสถานการณ์ดีขึ้น 2.เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยในปีที่ผ่านมา ที่หน่วยงานด้านความมั่นคงสามารถดูแลให้บ้านเมืองอยู่ในภาวะปกติไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อแม้จะเกิดวิกฤตที่ล่อแหลมแต่ฝ่ายความมั่นคงก็สามารถทำงานร่วมกันและประคับประคองสถานการณ์มาได้ และทำให้ประชาชนยอมรับว่ากฎหมายบ้านเมืองยังศักดิ์สิทธิ์อยู่ 3.เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด โดยมีการหยุดยั้งขบวนการค้ายาเสพติด โดยอนุมัติงบประมาณขยายโครงการหลวงเพื่อหยุดยั้งการชี้นำให้ชาวเขาปลูกฝิ่นซึ่งสามารถทำได้สำเร็จ และได้มีการทำยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน การบำบัดรักษา และการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดได้มีทำมาอย่างต่อเนื่อง และได้ผลแต่ต้องทำต่อไป
“การที่ประคองสถานการณ์มาได้ถึงตอนนี้ถือว่าบุญแล้ว ไม่จำเป็นต้องคะแนน แค่รักษาบ้านเมืองไว้ได้แบบนี้ก็พอใจแล้ว และคิดว่าปีหน้าจะรักษาสถานการณ์แบบปีที่ผ่านมาได้แบบนี้อีก” นายสุเทพกล่าว
รองนายกฯ กล่าวว่า อยากให้ปีหน้าเป็นปีที่เหตุการณ์คลี่คลาย โดย 1 ปีที่ผ่านมาส่วนตัวพยายามทำงานเพราะทราบดีว่าประชาชนคาดหวังต่อรัฐบาล และนายกฯเป็นผู้นำที่ประชาชนตั้งความหวังเอาไว้มาก ซึ่งส่วนตัวก็เป็นผู้ช่วยคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยนายกฯรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆด้วย เรียกว่าถอนใจด้วยความโล่งอกที่สามารถประคับประคองได้ 1 ปีและปีหน้าจะทำให้ดีกว่านี้ และขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
เมื่อถามว่าระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล คิดว่าสิ่งใดสร้างความลำบากใจมากกว่ากัน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เคยมีความรู้สึกลำบากใจกับนายกฯ รวมถึงพรรคร่วมด้วย และไม่รู้สึกหนักใจเพราะนายกฯไม่ใช่ปัญหาของตนเอง แต่นายกฯเป็นผู้บังคับบัญชา โดยจะทำงานตามที่นายกฯสั่งการมา เชื่อว่าในปี 2553 ไม่ว่าจะมีทั้งวิกฤตเศรษฐกิจหรือวิกฤตการเมือง ก็เชื่อว่านายกฯ จะเอาอยู่ เพราะจากการที่ทำงานกับนายกฯ มา 1 ปีได้เห็นการทำงานและการตัดสินใจเรื่องต่างๆทำให้เชื่อว่านายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้ารัฐบาลที่ดี และสามารถแก้ปัญหาของประเทศชาติได้
ทั้งนี้ นายสุเทพกล่าวว่า ในวันที่ 23 ธ.ค.จะไม่ได้เข้าร่วมการแถลงผลงาน 1 ปีของรัฐบาล เนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเจรจาการค้าเรื่องยางพารา ไม่ใช่การหลบหน้านายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องที่คุยกันไว้แล้ว
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 15.30 น. นายอีริค จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าพบนายสุเทพ ที่ห้องทำงานชั้น 5 ที่ตึกบัญชาการ โดยใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง คาดว่าอาจจะมีการหารือเรื่องการจับอาวุธครั้งใหญ่ 35 ตัน