นายกฯ เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ห่วงสถานการณ์ปีใหม่ สั่งสรุปรายงานจับเครื่องบินขนอาวุธสงครามภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่รองนายกฯ ด้านความมั่นคง มั่นใจดูแลสถานการณ์ช่วงปีใหม่ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี นัดสรุปความมั่นคงจันทร์หน้าอีกครั้ง
วันนี้ (22 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเป็นวาระพิเศษ โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาเข้าร่วม โดยใช้เวลาการหารือนานประมาณ 45 นาที
ภายหลังการหารือ นายกรัฐมนตรีกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ และได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปผลการตรวจสอบในคดีจับกุมอาวุธสงครามจากเครื่องบินลำเลียงต่างชาติ โดยกำชับให้ทำให้เร็วที่สุด
ด้าน นายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นเพราะประชาชนกำลังอยู่ในอารมณ์ที่มี่ความสุข หลังการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้รับทราบแถลงการณ์พระราชวังที่แจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หายจากพระอาการประชวร จึงต้องการให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลสถานการณ์ไม่ให้มีสิ่งใดกระทบประชาชนได้ ซึ่งตนเองได้สั่งการให้รักษาการ ผบ.ตร. เตรียมแผนการทำงานของ ตร.กวดขันตรวจตราพื้นที่ กทม.ก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมฝ่ายความมั่นคงอีกครั้งในวันจันทร์หน้า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า จะมีการเข้ามาก่อเหตุของกลุ่มใด เชื่อว่าจะสามารถดูแลสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยได้ โดยจะใช้กำลังตำรวจเป็นหลัก เว้นแต่ต้องการให้ทหารเข้ามาช่วย
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้มีการหารือกรณีการจับอาวุธสงคราม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เร่งทำงานสรุปผลก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อที่จะให้กระทรวงการต่างประเทศทำรายงานเสนอไปยังองค์การสหประชาชาติ และชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบว่ารัฐบาลไม่ได้ทำสิ่งใดที่ประทบกับประเทศ ส่วนรัฐบาลจะนำอาวุธที่ยึดได้มาใช้หรือทำลายขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปแต่ยืนยันปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติ ขณะเดียวกันไม่ต้องให้คาดเดาว่ามีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง
นายสุเทพ กล่าวถึงผลงานรอบ 1 ปีของฝ่ายความมั่นคงว่า ที่ผ่านมาพอใจการทำงานทั้งการดูแลแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ ประชาชนมีความรู้สึกที่ดีต่อรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ และหวังว่าจะเป็นการส่งสัญญาณเริ่มต้นที่ดี รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองที่ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ รัฐบาลรักาและประคับประคองให้ผ่านไปได้ จนประชาชนยอมรับว่ากฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ และการแก้ปัญหายาเสพติด ก็ได้ดำเนินการหยุดยั้งการแพร่ระบาด โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวชายแดน ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลแก้ปัญหาใต้ล้มเหลวนั้น ส่วนตัวพร้อมรับฟัง แต่ยืนยันว่าสถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ที่มีการมองว่าปีหน้าจะเป็นปีวิกฤต แต่ตนเองอยากให้ปีหน้าสถานการณ์คลี่คลาย ซึ่งตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา ก็ได้ทำงาน ช่วยเหลือนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ ตามที่ประชาชนคาดหวังและหวังว่าในปีหน้าจะประคับประคองบ้านเมืองให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ยืนยันว่า การทำงานกับนายกรัฐมนตรีไม่เคยมีอะไรที่ทำให้ลำบากใจ เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่เคยรู้สึกหนักใจทำให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นปัญหา แต่เป็นผู้บังคับบัญชาของตนเอง ดังนั้น เหตุการณ์ที่คาดว่าจะรุนแรงในปีหน้าเชื่อว่า นายกรัฐมนตรีจะดูแลได้