โฆษก ก.ม.ม.จี้ “วัลลภ” ลาออกจากบอร์ดการบินไทย แนะให้เลิกด้านเเล้วดูสปิริตเด็กรุ่นหลาน “น้องตั๊น” ทายาทเบียร์สิงห์ จากกรณีปฏิทินฉาวเป็นเยี่ยงอย่าง พร้อมเตือนอย่าสร้างอาณาจักรซ้อนถืออภิสิทธิ์ควบสองตำแหน่ง ติง ปชป.-ภูมิใจไทย ช่วยยกเครื่องการบินไทยใหม่ อย่าเดินเกม “แยกกันทำ แยกกันโกง”
วันนี้ (20 ธ.ค.) นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ ได้แถลงข่าวเรียกร้องให้นายวัลลลภ พุกกะณะสุต กรรมการและประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท การบินไทย ลาออกจากตำแหน่งกรณีถูกร้องเรียนว่านายวัลลภได้ใช้อำนาจของการเป็นประธานบอร์ดขนกระเป๋าจากสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น มายังสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวนกว่า 40 ใบ น้ำหนักกว่า 400 กก. แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ลงเอกสารเพียง 172 กก. ขณะที่คนทั่วไปขนได้ไม่เกินคนละ 40 กก. โดยลำเลียงผ่านช่องทาง Lost and Found เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ไปเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 52 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายวัลลภอ้างว่า ของในกระเป๋าส่วนมากเป็นเสื้อผ้า มีผลไม้บ้างเล็กน้อย ซึ่งมีคนฝากทำบุญผลไม้ให้พระที่วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ ในช่วงเดือน พ.ย. แต่เมื่อทางพรรคการเมืองใหม่ได้ทำการตรวจสอบดูแล้วไม่พบว่ามีผลไม้ไปถวายที่วัดแต่อย่างใด ดังนั้น พฤติการณ์ของนายวัลลภเข้าข่ายทุจริต
นายสำราญกล่าวต่อว่า นายวัลลภสมควรต้องแสดงสปริตลาออกจากตำแหน่งกรรมการบินไทย โดยให้ดูตัวอย่างจาก น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ทายาทเบียร์สิงห์ที่นำปฏิทินโป๊ไปแจกข้าราชการในทำเนียบรัฐบาลจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม จน น.ส.จิตภัสร์ ต้องแสดงการลาออกเพื่อรับผิดชอบการกระทำของตนเอง ดังนั้น นายวัลลภก็สมควรที่จะทำเช่นนั้นบ้าง
นอกจากพฤติกรรมที่ส่อเค้าทุจริตนองนายวัลลภเเล้ว ยังมีสาเหตุอื่นอีกประการหนึ่ง คือ นายวัลลภเป็นลูกหม้อการบินไทย เคยอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง คือ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายพาณิชย์มาก่อน ต่อมาก็มานั่งตำแหน่งบอร์ดและประธานกรรมการบริหาร หรือบอร์ดประธานเล็ก ซึ่งเป็นการสร้างอาณาจักรซ้อนอาณาจักรในการบินไทย ย่อมทำให้นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการการใหญ่ หรือดีดีการบินไทย ที่พรรคการประชาธิปปัตย์ส่งเข้าประกวดทำงานด้วยความอึดอัด
“พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย หรือกระทรวงคลัง กระทรวงคมนาคม ควรจะทบทวน ยกเครื่องการบริการการบินไทยกันใหม่ด้วยความโปร่งใสอย่าได้เดินเกม แยกกันทำแยกกันโกงเป็นอันขาด” โฆษกพรรคการเมืองใหม่กล่าว
ด้าน พล.ร.ท.ปทีป ชื่นอารมณ์ เหรัญญิกพรรคการเมืองใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงนายวัลลภถึงพฤติกรรมการใช้อำนาจในทางมิชอบว่า โดยปกติเเล้วประธานกรรมการของการบินไทยส่วนใหญ่จะไม่มีห้องทำงานเป็นของตัวเอง แต่นายวัลลภได้สั่งให้คนสร้างห้องทำงานของตนเองเอาไว้ใช้คนเดียวซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นอภิสิทธิชน และกรณีการขนกระเป๋าน้ำหนักเกินจากสนามบินนาริตะนั้นในการเดินทางมีประธานกรรมการเดินทางร่วมไปด้วยอีก 1คน และอีกหนึ่งคือภรรยาของนายวัลลภ รวมเป็น 3 คน แต่เมื่อมีการขอให้สิทธิ์ในการโหลดน้ำหนักเพิ่ม ในความเป็นจริงเเล้วจะสามารถใช้สิทธิ์ได้แค่ 2 คน แต่นายวัลลภกลับขอไป 3 โดยรวมภรรยาของตนเองเข้าไปด้วย ซึ่งภรรยาของนายวัลลภ ทำการเปิดร้านขายสินค้าต่างประเทศที่สีลม ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าของที่ขนมานั้นขนมา เพิ่อหลีกเลี่ยงภาษีเเล้วนำไปขายเพื่อประโยชน์ส่วนตนใช่หรือไม่