รองนายกฯ ด้านความมั่นคง แจงยิบไทยสมาชิกที่ดีของยูเอ็น ไม่มีเรื่องผลประโชน์ตามข้อกล่าวหาของ “จตุพร” ที่จ้องดิสเครดิตรัฐบาล เอาสีข้างเข้าถูกโยนบาป ทอ.จัดฉากต้อนเครื่องบินขนอาวุธลงจอดเชื่อมโยงกลุ่มธุรกิจ ย้ำอย่าชักศึกเข้าบ้าน ไม่เร่งรัดการตรวจสอบ เพราะไม่กระทบต่อการดำรงชีวิตของ ปชช. รอหน่วยงานเกี่ยวข้องถกทำลายอาวุธตามติยูเอ็น
วันนี้ (20 ธ.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายุสเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ผอ.สำนักข่าวกรองสหรัฐฯ ออกมายืนยันเป็นทางการว่าการจับกุมอาวุธสงครามในเมืองไทยเป็นความร่วมมือด้านการข่าวกับทางการไทยว่า เชื่อว่าในระดับเจ้าหน้าที่ได้ทำงานในรายละเอียดได้มากขึ้น แต่ยังไม่ได้รายงานเป็นทางการขึ้น ซึ่งตนไม่ได้ไปกดดันเจ้าหน้าที่ เพราะทราบดีว่าเป็นงานที่เจ้าหน้าที่ต้องทำด้วยความละเอียดรอบคอบปรึกษหารือกันทุกฝ่าย เมื่อทำเสร็จแล้วคงจะทำงานรายงานมายังรัฐบาล ส่วนการตรวจสอบแยกแยะประเภทอาวุธ ที่จะต้องมีการทำลายหรือไม่อย่างไรนั้น ตนไม่เข้าใจรายละเอียดของมติองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายที่รับผิดชอบข้อกฎหมายโดยตรง ในเรื่องข้อมติของยูเอ็นต้องมาประชุมปรึกษากัน จะเอาความเห็นของใครคนใดคนหนึ่ง ไปตัดสินปัญหาไม่ได้ ต้องเอาข้อเท็จจริงทั้งหมด
เมื่อถามว่าจะนัดฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อหาข้อสรุปการทำลายอาวุธเมื่อใด นายสุเทพกล่าวว่า ตนยังไม่ได้นัด เมื่อเจ้าหน้าที่ทำงานเสร็จเรียบร้อยคงจะรายงานมาเอง แล้วก็คงประชุมกัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องรีบร้อน ไม่มีผลอะไรต่อชีวิตพี่น้องประชาชนคนไทยในวันนี้พรุ่งนี้ แต่เป็นเรื่องที่เราต้องทำให้ถูกต้องสมบูรณ์ในฐานะที่เราเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ เมื่อถามว่าจะให้ความสบายใจได้ว่าเรื่องนี้จะไม่นำปัญหาตามมา เพราะบางฝ่ายมีการขยายผลว่าเป็นการชักศึกเข้าบ้าน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนกราบเรียนพี่น้องประชาชนให้สบายใจได้ว่ารัฐบาลได้ดูแลเรื่องนี้ ด้วยความระมัดระวังตั้งแต่ต้น และจะไม่ให้เป็นเหตุที่ทำความเดือดร้อนให้ประชาชนหรือประเทศไทย ทุกฝ่ายเข้าใจดีว่าเราพยายามจะคลี่คลายสถานการ ณ์เพราะเป็นภาระหน้าที่ในฐานะที่เป็นสมาชิกที่ดีของยูเอ็น ต้องทำตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
เมื่อถามว่า ทางนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ระบุว่าการที่ทางกองทัพอากาศอำนวยความสะดวกให้เครื่องบินขนอาวุธมาจอดเติมน้ำมัน เพราะมีกลุ่มธุรกิจบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์ นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่ามีคนพยายามที่จะทำลายเครดิตความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ทำให้คนเข้าใจเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายต่างๆ ผิดไปจากความป็นจริง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ใช้ความระมัดระวังพยายามคลี่คลายเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น เมื่อเรารู้ข่าวก็พยายามประสานงานไม่ให้เขาลงบินผ่านมาที่ประเทศไทย เมื่อเขาลงมาจอดเติมน้ำมันขาไป เราก็ได้เข้าไปตรวจดูเครื่องบิน เมื่อไม่พบสิ่งที่ผิดกฎหมายก็ให้เขาไป ซึ่งเขาควรจะต้องรู้แล้วว่าทั้งหมดเป็นการเตือนโดยรัฐบาลไทยและส่วนราชการไทยอย่างดีที่สุด พอขากลับมาเราก็ทำหน้าที่เหมือนเดิม ตรวจค้นเมื่อพบสิ่งที่ผิดกฎหมายเราก็ต้องดำเนินคดี ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ของใครมาเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องของชาติ ถ้าเราเป็นสมาชิกของยูเอ็นแล้วไม่ร่วมมือ ก็ไม่ใช่สมาชิกที่ดี เมื่อถามว่า กรรมาธิการต่างประเทศจะเรียกนายสุเทพไปชี้แจงในวันที่ 24 ธ.ค.พร้อมจะไปหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ถ้าตนสะดวกตนก็ไป ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทุกอย่างอยู่ที่เอกสารหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหลาย แต่ในวันที่ 24 ธ.ค.ตนไปราชการต่างประเทศ