“นายกฯ” ไม่รู้ ครอบครัว “ศิวรักษ์” จ่อฟ้องกระทรวงการต่างประเทศ ทำเสื่อมเสีย เชื่อวิศวกรไทยไม่มีเจตนาทำผิด แนะดูปัญหาเกิดจากใคร คาด “คำรบ” โผล่ชี้แจงแน่ ซัดเขมรถ้าดักฟังโทรศัพท์จริงซวยแน่ จี้รีบแจง-ขณะมีรายงานจาก กมธ.ตปท.สภาฯ สรุป ทอ.ไม่ได้ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ด้านตัวแทน กต.แฉ “เลขานุการเอก” โทร.ถามจริง แต่แค่ถาม “มาหรือยัง” ยันไม่มีส่งเอกสาร ไม่ได้เป็นสายลับ ยันฝั่งไทยไม่ได้จัดฉาก เชื่อเขมรวางแผนหวังเสี้ยมไทยกัดกันเอง
วันนี้ (16 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกศาลกัมพูชาตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาจารกรรมตารางการบิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดา จะฟ้องร้องกระทรวงการต่างประเทศว่า ตนไม่ทราบ แต่ส่วนตัวเชื่อว่านายศิวรักษ์ไม่มีเจตนาทำผิด และทำหน้าที่ตามปกติ จึงต้องดูว่าปัญหาเกิดจากใคร เพราะคำตัดสินของศาลก็ระบุว่าเกรงจะเกิดความเดือดร้อนต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนตัวนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ จะออกมาชี้แจงอย่างแน่นอน ทั้งนี้ หากกัมพูชาดักฟังโทรศัพท์การพูดคุยระหว่างนายศิวรักษ์กับนายคำรบจริง กัมพูชาต้องออกมาชี้แจง เพราะจะเสียภาพลักษณ์ต่อสายตาชาวโลก
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรว่า บรรยากาศในการประชุมในช่วงแรก กมธ.จากพรรคเพื่อไทย พยายามสอบถามตัวแทนกองทัพอากาศว่ามีการสั่งการจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงว่า เครื่องบินที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ามายังกัมพูชา หากผ่านน่านฟ้าประเทศไทยให้กองทัพอากาศของไทยนำเครื่องบินประกบยิงได้ทันทีหากไม่ลงจอดจริงหรือไม่ ซึ่งตัวแทนจากฝ่ายกองทัพอากาศชี้แจงเลี่ยงว่า ปกติมีขั้นตอนการดำเนินการกับเครื่องบินที่ไม่ปรากฏการแจ้งการบินบินเข้าน่านฟ้าไทยอยู่แล้ว โดยบินประกบเพื่อตรวจสอบว่ามาจากที่ใดและแจ้งให้รีบบินออกจากน่านฟ้าไทย กรณีเครื่องบินพลเรือน พาณิชย์ หรือเครื่องบินส่วนบุคคล โดยทั่วไปที่มีการแจ้งขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้า ในการปฏิบัติทั่วโลกไม่สามารถยิงเครื่องบินดังกล่าวได้ นอกจากเป็นเครื่องบินรบ ซึ่ง กมธ.สรุปว่าทางกองทัพอากาศไม่ได้ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ
ส่วนการซักถามตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศนั้น กมธ.จากพรรคเพื่อไทยพยายามสอบถามถึงกรณีที่นายคำรบขอข้อมูลการบินจากนายศิวรักษ์จริงหรือไม่ ซึ่งตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า ทางกระทรวงได้สอบถามนายคำรบแล้ว นายคำรบชี้แจงมาว่า ได้โทรศัพท์ไปถาม ใช้คำพูดเพียงแค่ “มาถึงหรือยัง” ซึ่งนายศิวรักษ์ก็ตอบกลับมาว่า “มาแล้ว” จากนั้นนายคำรบก็รายงานให้เอกอัครราชทูตทราบ ซึ่ง กมธ.จากพรรคเพื่อไทย พยายามสอบถามต่อไปว่ามีเอกสาร บันทึกอะไรหรือไม่ ซึ่งตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่าไม่มี และการหาข่าวแบบนี้เป็นการหาข่าวปกติ ไม่ได้ถือว่าเป็นสายลับ หรือจารกรรม
ขณะที่ กมธ.จากพรรคประชาธิปัตย์ พยายามสอบถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นการจัดฉากหรือไม่ ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่า ไม่น่าจะจัดฉาก และการดำเนินการในเรื่องนี้ทั้งหมดไม่น่าจะเกิดจากฝั่งไทย แต่น่าจะเกิดจากฝั่งกัมพูชาวางแผน ทำให้ กมธ.จากทุกพรรคพยายามสอบถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่ฝ่ายกัมพูชาอาศัยสถานการณ์ความขัดแย้งในไทย เสี้ยมให้ความขัดแย้งในไทยทอดยาวออกไปเรื่อยๆ ซึ่งตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่าก็เป็นไปได้ เพราะกัมพูชาอาจไม่อยากให้ประเทศไทยพัฒนาไปเกินหน้าเกินตา ทั้งนี้ กมธ.ยังไม่ได้สรุปประเด็นดังกล่าว เพราะนายคำรบซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลสำคัญไม่ได้มาชี้แจง
